นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) นิยาย บท 985

สรุปบท ตอนที่ 985 การปฏิรูป: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 985 การปฏิรูป – นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) โดย Internet

บท ตอนที่ 985 การปฏิรูป ของ นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) ในหมวดนิยายทะลุมิติ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 985 การปฏิรูป

ฟู่เสี่ยวกวนตั้งใจปล่อยข่าวเรื่องการกลับมาของสวี่หยุนชิงออกไป

สำหรับประเทศต้าเซี่ยแล้ว นี่ถือเป็นข่าวดีมากเลยทีเดียว

ฝ่าบาทได้รับการปกป้องจากสวรรค์ แม้แต่องค์ไทเฮาก็มีบุญบารมีเทียมฟ้าและถือเป็นเรื่องดีที่ประเทศต้าเซี่ยได้กำเนิดขึ้น มิแน่นี่อาจจะเป็นราชโองการจากสรวงสวรรค์ด้วยเช่นกัน !

ประเทศต้าเซี่ยที่เพิ่งก่อตั้งได้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมได้ครึ่งปีแล้ว ราษฎรที่เคยอดอยากก็ได้ผ่านความทุกข์ทรมานและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่

การดำเนินชีวิตของฟู่เสี่ยวกวนมีทั้งผ่านพ้นไปด้วยเรื่องน่ายินดีและงานที่รัดตัว ในชั่วพริบตาเดียววันเวลาก็ได้ย่างเข้าสู่ปลายเดือนสิบเอ็ดของรัชศกเทียนเต๋อปีที่สาม หิมะแรกของเมืองกวนหยุนก็ได้ปรายปรายลงมาแล้ว

เรื่องที่จี้หยุนกุยได้ควบคุมดูแลหอเทียนจีนั้น ฟู่เสี่ยวกวนได้เอ่ยเพียงสั้น ๆ ในที่ประชุมใหญ่ประจำราชสำนัก ในขณะที่ขุนนางหลายร้อยคนได้ยินสิ่งที่ตรัสออกมานั้น ก็มีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่ให้ความสำคัญว่าจี้หยุนกุยมีพื้นเพมาจากที่ใด

เหตุใดเขาถึงลึกลับเช่นนี้

มิมีผู้ใดล่วงรู้ว่าหลังจากที่จี้หยุนกุยเป็นหัวหน้าหอเทียนจีครบหนึ่งเดือนเพื่อจัดระบบสายลับใหม่ เขาก็ได้รับภารกิจแรก เขาได้ทูลขอคำชี้แนะจากฟู่เสี่ยวกวนเกี่ยวกับภารกิจสำคัญคราแรก ภารกิจที่ว่าก็คือ…ตามสืบเรื่องของซูฉางเซิง !

ภายใต้การระดมกำลังสายลับของจี้หยุนกุย พวกเขาก็ได้เดินทางไปทั่วทุกสารทิศอย่างลับ ๆ มิเว้นแม้แต่แคว้นซีเซี่ย ราชวงศ์เหลียวและภูเขาต้าเซียนเปย

ส่วนฟู่เสี่ยนกวนได้ออกราชโองการให้ท่าป๋าเฟิงมาเข้าเฝ้ายังเมืองกวนหยุนทันที

นอกจากนี้ฟู่เสี่ยวกวนยังได้ร่างพระราชโองการอีกหลายฉบับ…

เขาแต่งตั้งให้เฝิงซีบุตรชายของเฝิงหล่าวซื่อเป็นผู้บัญชาการทหารดาบเทวะกองทัพที่สอง จากนั้นก็ให้เดินทางออกจากชื่อเล่อชวนโดยมุ่งหน้าไปยังเมืองฉางจินเพื่อรับช่วงเข้าบัญชาการกองทัพที่สองทันที เสร็จแล้วให้เคลื่อนพลไปประจำการ ณ เขตฉางกานแห่งเยวี่ยซานเป่ยเต้า เพื่อปกป้องอาณาจักรถู่ปัว ส่วนเฮ้อซานเตาอดีตผู้บัญชาการทหารดาบเทวะกองทัพที่สองให้เดินทางกลับเมืองกวนหยุนทันที

แต่งตั้งให้หวางเสี่ยวจ้วงเป็นผู้บัญชาการทหารบกกองทัพที่ห้า แล้วให้ทหาร 100,000 นายที่ได้รับการคัดเลือกจากมณฑลจิงตงและเหอเป่ยทั้งสองฟาก และให้ตั้งฐานทัพใหม่เพื่อฝึกซ้อมที่เขตเจินติ้งของเหอเป่ยซีเต้า

เว่ยอู๋ปิ้งนำกองทัพที่สามตั้งมั่นและรักษาการณ์ที่ฉางอันในจิงซีเป่ยเต้า

สำหรับขุนนางหลายร้อยคนมิได้แปลกใจต่อเรื่องที่กองทัพมีการปรับเปลี่ยนโยกย้าย พวกเขาล้วนคิดว่าเพื่อปกป้องชายแดนของประเทศต้าเซี่ยที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ก็สมควรที่จะโยกย้ายแล้ว

ในเวลาเดียวกันก็มีการเพิ่มกองทัพเรือในประเทศต้าเซี่ย ฝ่าบาททรงแต่งตั้งให้ไป๋ยู่เหลียนเป็นผู้บัญชาการสามเหล่าทัพ… สามเหล่าทัพนี้ประกอบไปด้วยกองทัพบก กองทัพเรือและกองนาวิกโยธิน จากนั้นก็ได้แต่งตั้งกลุ่มผู้บัญชาการกองทัพเรือระดับสูงขึ้นมา

ไป๋ยู่เหลียนเป็นผู้เสนอรายชื่อให้แก่ฟู่เสี่ยวกวน

เรื่องนี้ฟู่เสี่ยวกวนเองก็ไว้วางใจในการคัดเลือกของไป๋ยู่เหลียนมิน้อย

จั่วมู่ เป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือที่หนึ่ง

จ่างเผิงหลาง เป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือที่สอง

และเฮ้อซานเตา เป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือที่สาม

เช่นเดียวกับกองทัพบก แต่ละกองทัพจะมี 10 กองพล แต่ละกองพลจะมีทหารอยู่ราว 10,000 นาย รวมเป็นกองทัพละ 100 ,000 นาย ส่วนรายชื่อผู้บัญชาการของแต่ละกองพลจะได้รับการแต่งตั้งจากไป๋ยู่เหลียนและจัวเปี๋ยหลีเสนาบดีกรมกลาโหม

บัดนี้กรมกลาโหมของประเทศต้าเซี่ยจึงได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่และจัวเปี๋ยหลีก็ได้ก่อตั้งที่ว่าการอย่างเป็นทางการขึ้นมาแล้วเช่นกัน

ในส่วนของกรมกลาโหมจะประกอบไปด้วย กรมเสนาธิการ กรมฝ่ายธุรการแนวหลังและกรมสรรพาวุธ

“ตั้งแต่บัดนี้สืบไป การทหารและการเมืองจะถูกแยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์ กรมกลาโหมต้องมีงบประมาณในด้านการป้องกันประเทศทุกช่วงต้นปี งบประมาณนี้…” ฟู่เสี่ยวกวนหันไปมองจัวเปี๋ยหลีและไป๋ยู่เหลียน จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า “พวกท่านต้องไปของบจากกรมคลัง และแน่นอนว่ากรมคลังมีสิทธิตั้งคำถามเกี่ยวกับงบประมาณการป้องกันประเทศและนี่เป็นหน้าที่ของกรมกลาโหมที่จะอธิบายข้อสงสัยเหล่านั้น”

“หากการอธิบายเหตุผลมิชัดเจน กรมคลังมีสิทธิปฏิเสธงบประมาณที่กรมกลาโหมเสนอ ส่งผลให้เรื่องนี้เกิดความล่าช้าออกไป ดังนั้นงบประมาณที่ยื่นเสนอไปนี้จะต้องเที่ยงตรง”

“หากมีการใช้จ่ายมากเกินไป กรมกลาโหมต้องมีหลักฐานเพียงพอ กรมคลังถึงจะสามารถเพิ่มงบประมาณให้ได้”

“ตั้งแต่บัดนี้สืบไป ทั้งสามสำนักมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปแทรกแซงเรื่องการทหาร ในทำนองเดียวกันกรมกลาโหมหรือหน่วยงานทหารท้องถิ่นจะต้องมิแทรกแซงเรื่องการเมืองเช่นกัน”

“พวกท่านจงจำเอาไว้ว่าผู้รับผิดชอบด้านกองทัพของประเทศต้าเซี่ยนั้น…มิใช่ข้า !มิใช่จักรพรรดิ ! ทว่าเป็นราษฎรของประเทศต้าเซี่ย ! ”

“เสด็จแม่เพคะ หม่อมฉันมีข่าวดีสองเรื่องจะมาทูลพระองค์ ! ”

หยูเวิ่นหวินเอ่ยพลางชงชาด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข

“เรื่องอันใดกัน ? ”

หลายวันที่ผ่านมานี้สวี่หยุนชิงและลูกสะใภ้ทุกคนมีความใกล้ชิดสนิทสนมต่อกัน จนเกิดเป็นความรักใคร่ปรองดอง

หยูเวิ่นหวินไร้เสด็จพ่อและเสด็จแม่แล้ว ดังนั้นไทเฮาผู้นี้จึงเปรียบดั่งเสด็จแม่ที่รักและเมตตานาง

สีหน้าของหยูเวิ่นหวินแดงระเรื่อขึ้นมาทันใด จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “หมอหลวงได้ตรวจอย่างละเอียดแล้วว่าหม่อมฉันตั้งครรภ์เพคะ”

เมื่อสวี่หยุนชิงได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกยินดีมากยิ่งนักพลางเอ่ยถามอย่างรวดเร็วว่า “รู้หรือไม่ว่าอายุครรภ์กี่เดือนแล้ว ? ”

“เพิ่งจะสองเดือนเพคะ”

“ดี ๆ ๆ… เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างแท้จริง” สวี่หยุนชิงหันไปมองลูกสะใภ้ทั้งเก้าคนที่เหลือพลางเอ่ยว่า “พวกเจ้าก็ต้องมีความพยายามให้มาก หากเขาลำเอียง พวกเจ้าจงมาบอกแก่ข้า ข้าจะไปจัดการเขาเอง ! ”

“แล้วอีกเรื่องก็คือคำว่าเสด็จแม่และคำว่าหม่อมฉัน ฟังดูแล้วมิค่อยรื่นหูเท่าใดนัก เอาเช่นนี้เถิด หากอยู่ที่วังหลังพวกเจ้าก็เรียกข้าว่าท่านแม่เถิด ฟังดูแล้วสบายหูกว่ามากนัก”

“ท่านแม่… ! ”

สวี่หยุนชิงมีความสุขขึ้นมาทันใด “ดี… ! ”

คำนี้ทำให้จิตใจของสวี่หยุนชิงมีความสุขมากยิ่งนัก พลางนึกถึงผู้ที่มิน่าอายุสั้น จากนั้นก็ถอนหายใจยาวออกมา… หากท่านยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะดี

“อ้อ ! เวิ่นหวิน… ข่าวดีอีกเรื่องคือเรื่องอันใดกัน ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主)