นั่นเป็นพลังวิญญาณของหยุนหลิง เขาติดตามและเต้นรำไปกับมันโดยสัญชาตญาณ
ไม่นาน จิตใจและสมองของเขาก็เข้าสู่ดินแดนลึกลับและมหัศจรรย์ ร่างกายของเขาผ่อนคลายโดยไม่ได้ตั้งใจ และเขาลืมเวลาที่ผ่านไปชั่วขณะ
รอตอนที่เซียวปี้เฉิงตื่นมาอีกที ก็ถึงเช้าวันถัดไปแล้ว
ความเหนื่อยล้าจากวันก่อนก็หายไปทันที สมองกับประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ชัดเจนมาก
หยุนหลิงนอนอยู่ข้างเขา ลมหายใจสม่ำเสมอ แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างที่สลักด้วยลายดอกไม้มายังใบหน้าของนาง ใบหน้าที่เนียนใสไร้จุดด่างดำอมชมพูเล็กน้อย เฉกเช่นดอกโบตั๋นที่เบ่งบาน
เขามองอย่างเหม่อลอย ขยับเข้าไปใกล้นางช้าๆ
เหมือนจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง หยุนหลิงลืมตาขึ้นกะทันหัน สี่ตาประสานกัน
เซียวปี้เฉิง “……”
“อรุณสวัสดิ์ ท่านอ๋อง”
เขาไอคอกแคก ใบหูแดงระเรื่อ ปกปิดความกระอักกระอ่วนของตัวเอง “เจ้าตื่นแล้วเหรอ?”
“เมื่อคืนนี้เจ้าเข้าสู่ภาวะสมาธิเวลานานเป็นครั้งแรก ยังไม่สามารถควบคุมพลังวิญญาณได้ จึงไม่สามารถสังเกตเวลาที่ผ่านไปได้ หากบุ่มบ่ามปลุกเจ้า จะทำลายพลังวิญญาณของเจ้าได้ ข้าจึงสะกดจิตให้เจ้าหลับไปเลย”
หยุนหลิงอธิบายหมด ก็ถามอย่างเป็นห่วงว่า “ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
เซียวปี้เฉิงตอบตามความจริง “สดชื่นจริงๆ”
หยุนหลิงยิ้มบางๆ “รอเจ้าฝึกควบคุมพลังวิญญาณได้แล้ว ข้าจะสอนอย่างอื่นกับเจ้าอีกนะ”
เหมือนการใช้พลังวิญญาณสำรวจสิ่งมีชีวิตรอบข้าง พัฒนาประสาททั้งห้า พวกนี้เป็นเทคนิคพื้นฐานทั้งหมด
เซียวปี้เฉิงพักอยู่ในเรือนหลั่นชิงมาหลายวันติดต่อกัน
ช่วงนี้ เขาพัฒนาเร็วมาก ไม่เพียงแต่สามารถตรวจจับสถานการณ์ได้ในระยะสิบเมตรรอบตัวเขา เขายังสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของเด็กสองคนในท้องหยุนหลิงอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ