“ระหว่างพวกเราคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุดก็มีแต่พี่ฉิง ทุกครั้งที่ปฏิบัติภารกิจนางจะพุ่งไปก่อนเสมอ สู้อย่างไม่คิดชีวิตเลยล่ะ”
ถึงแม้เซียวปี้เฉิงจะรู้สึกอีกฝ่ายเป็นศัตรูทางความรัก แต่ก็อดนับถือไม่ได้
“แบบนั้นยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ?”
หยุนหลิงอธิบาย “ยาในร่างกายของนางได้รับการพัฒนามาก่อน แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป ฟื้นฟูได้เร็วกว่าคนทั่วไปด้วย บวกกับการรักษาที่พัฒนาของเรา ทุกครั้งก็จะชุบชีวิตนางขึ้นมาได้เสมอ”
เช็ดผมให้แห้งแล้ว หยุนหลิงก็ลุกขึ้นไปเอาอุกกาบาตที่อยู่ในกล่อง
เซียวปี้เฉิงลังเล อดไม่ได้ถามออกไปว่า “องค์กรของพวกเจ้า……เป็นที่แบบไหนกันแน่?”
เขาสังเกตได้ว่า หยุนหลิงเหมือนจะไม่ค่อยชอบที่ที่นางเรียกว่าสำนักเรียน
ทุกครั้งที่พูดถึงประสบการณ์ของนาง นางก็จะพูดถึงศิษย์พี่ศิษย์น้องไม่หยุด แต่กลับพูดถึงองค์กรน้อยมาก
หยุนหลิงเงียบไปสักพัก เซียวปี้เฉิงก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของนาง
“ถ้าไม่อยากพูดถึง ก็ยังไม่ต้องพูดก็ได้”
“……ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้หรอก เป็นเหมือนสำนักที่พวกเศรษฐีมีอิทธิพลสร้างขึ้นมา คัดเลือกเฉพาะเด็กกำพร้าที่มีพรสวรรค์ หลังจากนั้นก็ฝึกฝนในรูปแบบเป่าหู คัดเลือกเด็กที่ดีที่สุดเก็บไว้”
เด็กกำพร้า รูปแบบเป่าหู?
เชื่อมกับภารกิจอันตรายที่หยุนหลิงพูดถึง เซียวปี้เฉิงก็พอจะเข้าใจแล้ว องค์กรที่ว่านั้นจะเรียกว่า ‘สำนัก’ ไม่ได้
ในแต่ละแคว้นจะมีองค์กรแบบนี้อยู่ หลายราชวงศ์จะฝึกฝนทหารที่พร้อมตายแบบนี้ออกมา
แต่พวกเขาไม่เก่งเหมือนหยุนหลิง ความเจ็บปวดและความโหดร้ายก็ไม่เหมือนกับของหยุนหลิง
“ข้าจำได้ว่านอกจากหลิวฉิงแล้ว เจ้ายังมีเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกสองคนใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ