ตวนอ๋องขึงดวงตาอย่างควบคุมไม่อยู่ เอ่ยด้วยความโกรธ “คนที่รู้จักคิดต่างมองออกว่าเป็นเจ้า ยังจะไม่ยอมรับอีก!”
“ใครเห็นหรือ เอาอะไรมาบอกว่าข้าทำ แน่จริงเจ้าก็งัดหลักฐานออกมาสิ”
หยุนหลิงยกยิ้ม ดวงตาที่หยีลงเล็กน้อยพกพาการยิ้มเยาะและได้ใจ
“ตอนนั้นท่านอ๋องก็อยู่ข้างตัวข้า ท่านอ๋องเห็นว่าข้าทำอะไรหรือไม่”
เซียวปี้เฉิงปากกระตุกน้อยๆ อย่างที่มองไม่เห็น สีหน้าระอาใจอยู่บ้าง
“...ดวงตาข้ามองไม่เห็น”
ความหมายแฝงคือ ข้าไม่เห็น
เมื่อเผชิญกับความลำเอียงอย่างเด่นชัดของเซียวปี้เฉิง ฉู่หยุนหานปากสั่น แต่ที่มากกว่าความโกรธแค้น เจ็บปวดและน้อยใจ ก็คือละอายใจและไม่เป็นสุข
นางจำต้องสงสัย หรือว่าเซียวปี้เฉิงจะรู้อะไร ถึงได้ปล่อยให้หยุนหลิงกำเริบเสิบสานอย่างนี้...
ตวนอ๋องโกรธเจียนคลั่ง เขาอยู่มาจนป่านนี้ จินตนาการไม่ออกเลยว่าจะมีคนไร้ยางอายถึงขั้นนี้เหมือนหยุนหลิงอยู่ได้
ยิ่งจินตนาการไม่ออก ว่าเซียวปี้เฉิงหลงเชื่อเสียด้วย!
เขาสูดลมหายใจลึก เอ่ยด้วยความปวดใจเคียดแค้น “น้องสาม! ทำไมเจ้าถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้...”
“เอาล่ะๆ พอแล้ว ไม่จบสักที”
หยุนหลิงไม่อยากเห็นท่าทางโง่งมของตวนอ๋องจริงๆ ดังนั้นจึงสอดปากขัดทันที
“หลานชายทึ่มทื่อของข้า เทียบกับการที่เจ้าเอาแต่คิดเรื่องฉู่หยุนหานตกน้ำ มิสู้รีบไปสืบ ว่าใครกันแน่ที่วางแผนอยู่เบื้องหลัง คิดทำร้ายว่าที่พระชายาตวนของเจ้าจะดีกว่านะ”
ถึงหรงฉานจะซื่อบื้อไปหน่อย แต่ก็เป็นแม่นางดีมีจิตเมตตา ประทานให้ตวนอ๋องผู้โง่งมเช่นนี้ ช่างเสียเปล่าจริงๆ
ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ความสนใจทั้งหมดของตวนอ๋องอยู่แต่กับฉู่หยุนหาน กับหรงฉาน กระทั่งคำพูดถามไถ่ปลอบใจสักคำก็ไม่มี
ด้วยการเตือนของหยุนหลิง ตวนอ๋องที่ความดันโลหิตใกล้จะทะลุปรอทจึงสงบลง สังเกตเห็นสายตาค่อนข้างไม่เป็นมิตรที่หรงจ้านมองเขาอย่างฉับไว
แม้แต่หรงฉานที่ว่าง่ายมาตลอด สายตาที่มองเขาในตอนนี้ก็เย็นชืดเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ