“ข้าก็ถูกซุ่มโจมดีเหมือนกัน ไยท่านพ่อจึงไม่ถามว่าข้าสบายดีหรือไม่”
ติดที่เซียวปี้เฉิงอยู่ด้วย ซื่อจื่อเฒ่าจึงอดกลั้นความหุนหันที่จะกลอกตาใส่ เอ่ยเสียงหนัก “เจ้าก็ยืนดีอยู่นี่แล้วมิใช่หรือ ข้าไม่ได้ตาบอดสักหน่อย”
“ท่านพ่อ...”
ฉู่หยุนเจ๋อทนดูไม่ได้เล็กน้อย จึงกระตุกแขนเสื้อของซื่อจื่อเฒ่าแบบแนบเนียน
นับจากถูกหยุนหลิงด่าจนได้สติเมื่อสองสามเดือนก่อน เขามักคิดทบทวนเรื่องในจวน และรู้สึกขึ้นมา ว่าหลายปีนี้เขาลำเอียงกับฉู่หยุนหานมากเกินไปแล้วจริงๆ
แต่น่าเสียดายที่ซื่อจื่อเฒ่าแค่นเสียงฮึ นิ่งเฉย เห็นชัดว่าเขายังโกรธหยุนหลิงที่ทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าลูกเขยเมื่อคราวก่อน
เมื่อได้ยินดังนั้น หยุนหลิงก็ส่ายหน้าเบาๆ ถอนหายใจ
“ถึงตัวข้าจะไม่เป็นไร แต่จิตใจและจิตวิญญาณก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ที่ผ่านมาท่านพ่อก็ไม่เคยถามว่าข้าสบายดีหรือไม่สักครั้ง”
เมื่อได้ยินหยุนหลิงเริ่มพูดไร้สาระ เซียวปี้เฉิงก็กระตุกมุมปากแบบที่คนอื่นสังเกตไม่เห็น
เขาไม่เคยเห็นคนที่มีจิตใจแข็งแกร่งเหมือนหยุนหลิงมาก่อน แม้จะเป็นทหารที่เคยผ่านร้อยสมรภูมิในค่ายทหารก็ยังห่างชั้นกับนาง
“กว่าจะได้กลับบ้านเดิม แต่พอเข้าประตูมาก็ได้ยินท่านพ่อสงสัยว่าข้าทำร้ายน้องรองตกน้ำ บาดแผลในหัวใจของข้าเนี่ย อย่างกับเอาน้ำเกลือมาราดแน่ะ”
บทพูดของหยุนหลิง แม้เป็นการตัดพ้อ แต่กลับพูดออกมาได้โดยไม่มีความรู้สึก แม้แต่สายตาก็ไร้แวว ซื่อจื่อเฒ่าฟังจบก็พลันหน้าตึง
เขากล้ารับรองเลย นังเด็กนี่ต้องจงใจแน่ พูดอะไรไม่พูด แต่กลับมาพูดเรื่องนี้!
เขาวางแผนจะสอบถามหยุนหลิงให้ชัดเจน แต่ไม่คิดจะถามต่อหน้าเซียวปี้เฉิง
“ข้าสงสัยเจ้าเมื่อไร ต้องเป็นเพราะเมื่อกี้นี้ลมแรง เจ้าหูฝาดไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ