เขาดูงง แต่เหมือนเข้าใจนิดหน่อย และก็รู้สึกแปลกใหม่และประหลาดใจมาก
“ไม่จัดงานแต่ง ไม่จัดงานเลี้ยงเชิญแขก? เช่นนั้นจะเรียกว่าแต่งงานได้อย่างไร ฮันนีมูนคืออะไร แล้วเจ้าชอบแบบไหนที่สุดหรือ”
เขาถามมาเป็นพรวน คงเพราะวันนี้จะได้กินอาหารแบบไม่ต้องเสียเงินหลายมื้อ หยุนหลิงจึงตอบอธิบายให้เขาฟังแบบอารมณ์ดีอย่างยิ่ง
“จดทะเบียนก็คือเป็นสามีภรรยากันแล้ว งานแต่งเป็นแค่พิธีการอย่างหนึ่ง ฮันนีมูนก็คือคู่ใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานไปเที่ยวด้วยกันสองคน ดื่มด่ำโลกสองต่อสอง ไม่มีคนรบกวน”
“สำหรับการแต่งงานสามแบบที่ว่ามา...ส่วนตัวข้าชอบแบบที่สามมากกว่า”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้าเข้าใจ “ข้าเข้าใจแล้ว เพราะแบบที่สามไม่ต้องจ่ายเงินเลี้ยงคนกินข้าว”
หยุนหลิงอดเหลือบมองเขาไม่ได้ ส่ายหน้า สีหน้าแปลกเล็กน้อย
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าตัวคนเดียว ไม่มีใครให้เชิญมางานเลี้ยงได้”
เซียวปี้เฉิงอึ้ง สีหน้าเปลี่ยนเป็นสำรวมบางส่วน เปลี่ยนเรื่องพูด “เอาไว้อีกหน่อยมีเวลา ข้าจะไปฮันนีมูนเป็นเพื่อนเจ้า”
ครั้นหยุนหลิงได้ยินดังนั้น ก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้
ความจริง ชาติที่แล้วที่อยู่ในองค์กร พวกนางสี่พี่น้องไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้มาก่อน เป้าหมายหลักคือการหนีรอดออกไป ไม่กล้าคาดหวังเรื่องอื่น
ถึงจะไม่ได้รู้สึกอิจฉามาก แต่ได้คุยเรื่องพวกนี้กับเซียวปี้เฉิงบ้าง...ก็เหมือนว่าจะไม่แย่
รถม้าเคลื่อนตัวไวมาก เซียวปี้เฉิงเพิ่งกล่าวจบ รถม้าก็หยุดอยู่นอกประตูจวนตวนอ๋องแล้ว
เซียวปี้เฉิงประคองหยุนหลิงลงจากรถม้า เพิ่งย่างเท้าเข้าจวนตวนอ๋อง ก็เป็นที่ดึงดูดสายตาแขกเหรื่อนับไม่ถ้วนทันที หลังจากสองสามีภรรยาแต่งงานกัน นี่เป็นครั้งที่ทั้งสองเข้าร่วมงานพิธีการยิ่งใหญ่อย่างนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ