พูดถึงหรงฉานกับตวนอ๋อง เซียวปี้เฉิงลังเลสักพัก แล้วจู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า
“ข้าเห็นหรงฉานก็ไม่ได้คิดอะไรกับตวนอ๋อง น่าสงสารที่นางเป็นลูกสาวคนเดียวของจวนเจิ้นกั๋วกง ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม กลับไม่สามารถตัดสินใจเลือกคู่ครองเอง กระทั่งยังต้องแต่งงานในวันเดียวกันกับเมียน้อย เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?”
“จะมีความคิดอะไรได้? ถ้าเปลี่ยนข้า ข้าหนีไปนานแล้ว ไม่สามารถเลือกคู่ครองเอง ขาอยู่บนตัวข้า ข้ายังจะตัดสินใจเองไม่ได้หรือ?”
หยุนหลิงพูดตอบออกมาอย่างไม่ใส่ใจ จู่ๆก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาหรี่ลงมองพิจารณาดูเซียวปี้เฉิง
“อยู่ดีๆ เจ้าพูดเรื่องนี้กับข้า เพราะต้องการมีเมียน้อย เลยมาลองหยั่งเชิงถามข้า?”
เซียวปี้เฉิงถูกถามจนอึ้ง รีบยกน้ำขึ้นมาดื่มเต็มแก้วใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเขาประเมินความอ่อนไหวของผู้หญิงที่มีต่อเรื่องพวกนี้ต่ำเกินไป เขารีบนั่งหลังตรง ยืดคอตรงขึ้นมา
“ข้าก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง เจ้าอย่าคิดไปเรื่อย”
“ข้าไม่ได้คาดเดาไปเรื่อย ในวันแต่งงานตวนอ๋อง แขกที่มาล้วนพูดแบบนี้”
“พวกเขาพูดว่าอะไร?”
“พวกเขาพูดว่าสายตาเจ้าหายดีแล้ว ข้าหน้าตาอัปลักษณ์ยังท้องโต ส่วนเจ้าเป็นหนุ่มกำลังไฟแรง ข้างกายขาดผู้หญิงไม่ได้ ไม่นานก็จะต้องสู่ขอชายารองมาใหม่”
หยุนหลิงมีพลังวิญญาณ คำร่ำลือของพวกแขกเหรื่อ ล้วนได้ยินถึงหูของนางอย่างชัดเจน
ถึงแม้ตอนนั้นนางจะไม่สนใจ แต่ตอนนี้คิดดูแล้ว ในใจค่อนข้างรู้สึกแปลก
สีหน้าเซียวปี้เฉิงบูดบึ้ง ในใจโกรธเกลียดพวกผู้หญิงที่นินทาลับหลังพวกนั้นมาก
“อย่าฟังพวกนางพูดไปเรื่อย ข้าใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารมาตั้งนานขนาดนั้น อย่าว่าแต่ผู้หญิง แม้แต่แม่ไก่ก็อยากที่จะได้เห็น ยังผ่านมาได้เลย”
กำลังวังชาหนุ่มแน่นอะไร ขาดไม่ขาดผู้หญิงอะไรพวกนั้น เขาดูเหมือนไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากผู้หญิงหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ