องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 41

ไท่ซ่างหวงโวยวายอยู่ในเรือนซู่สืออยู่สักพักใหญ่

หยุนหลิงไม่ได้อยู่ต่อนาน อยู่ถึงกลางดึกหลังจากที่ไท่ซ่างหวงนอนแล้ว ก็ถึงไปฝังเข็มให้เซียวปี้เฉิงที่เรือนซู่สือ

“ต่อไปก็มาตอนเที่ยงคืน เดี๋ยวไท่ซ่างหวงจะโวยวายเอา”

วันนี้ไท่ซ่างหวงเห็นว่าหยุนหลิงจะไปเจอเซียวปี้เฉิงที่เรือนซู่สือ ก็โวยวายอยู่สักพักใหญ่เหมือนกัน

เซียวปี้เฉิงได้กลิ่นสมุนไพรทั้งตัวของนาง ผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของนาง เป็นกลิ่นหอมที่บรรยายออกมาไม่ได้

“ลู่ชีบอกว่าเจ้ายุ่งอยู่ที่ห้องยากับห้องบัญชีทั้งวันเลย ช่วงนี้เจ้าคงเหนื่อยแย่”

หยุนหลิงมองเซียวปี้เฉิงอย่างระมัดระวัง เขาพูดชมนางแบบนี้ จะต้องคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่

“อย่าคิดว่าทำมาเป็นห่วงข้าแค่นี้ก็ได้แล้ว เจ้าจะต้องให้เงินเดือนข้าห้าสิบตำลึงทุกเดือนด้วย”

พอได้ยินนางพูดเรื่องเงิน เซียวปี้เฉิงกลับเงียบไม่พูดไม่จา นานๆทีจะไม่โต้กลับหยุนหลิง

ณ จวนจิ้งอ๋องขนาดใหญ่ พวกผู้ชายกลับไม่มีใครทำอะไรได้เลย

หยุนหลิงยังท้องอยู่ ไม่เพียงแต่ต้องจัดการเรื่องจุกจิกทั้งจวน ยังต้องดูแลผู้ชายที่ป่วยหนักคนนี้อีก เซียวปี้เฉิงก็รู้สึกผิดเล็กน้อย

“เจ้าไม่พูด ข้าจะคิดเสียว่าเจ้าตกลงนะ”

หยุนหลิงรีบตกลง กลัวอีกฝ่ายจะกลับคำพูด

เซียวปี้เฉิงกระตุกมุมปาก แล้วถามกลับว่า “พี่ใหญ่เป็นยังไงแล้วบ้าง?”

“ยังหลับอยู่เลย น่าจะตื่นพรุ่งนี้เช้า”

หยุนหลิงเปิดอุปกรณ์เข็มออก พูดด้วยน้ำเสียงที่มีความดูถูกเล็กน้อย

“ท่าทางก็ดูแข็งแรงดี แต่ไม่คิดว่าจะอ่อนแอขนาดนี้ เทียบกับฉู่หยุนหานไม่ได้ด้วยซ้ำ”

แค่ไม้เดียวก็สลบแล้ว น่าตกตะลึงจริงๆ ขนาดฉู่หยุนหานยังทนไปถึงสองไม่ได้เลย

นักเรียนสุภาพเรียบร้อยอ่อนโยนแบบนี้ หยุนหลิงสามารถต่อยให้สลบได้ทีเดียวสิบคน

เซียวปี้เฉิงหัวเราะแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ไม่ค่อยถนัดด้านวิทยายุทธ เจ้าก็รู้นี่ว่า เขาอ่อนแอมาตลอด”

ฮ่องเต้ก็มีลูกชายแค่คนเดียว ตอนที่คลอดไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ จึงทำให้ตวนอ๋องที่เพิ่งเกิดออกมาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ต่อมาก็ดูแลเขาเหมือนไข่ในหิน อมไว้ในปากก็กลัวละลาย

การเป็นลูกเพียงคนเดียว เจาเหรินตี้เคยคิดที่จะสอนวิทยายุทธกับตวนอ๋อง แต่ฮ่องเต้กลัวเขาจะเหนื่อยเกินไป

ในสายตาฮ่องเต้ ตวนอ๋องถูกกำหนดชะตามาไม่ให้สู้รบในสงคราม สู้ตั้งใจเรียนอ่านหนังสือ ศึกษาวิธีการปกครองบ้านเมืองยังจะดีกว่า

เรื่องเข้าสงครามฆ่าฟันกันก็ปล่อยให้พี่น้องของเขาทำไป

“ถึงว่าแม้เจ้าจะตาบอด เสด็จพ่อก็ยังไม่แต่งตั้งเขาเป็นองค์รัชทายาท”

เซียวปี้เฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ก่อนหน้านี้เจ้าคิดว่า พี่ใหญ่มีเมตตาใจกว้าง ถ้าได้เข้าตงกง* จะต้องเป็นความโชคดีของราษฎรแน่ๆ?”

(ตงกง* ตำหนักบูรพา คือตำหนักที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก เป็นที่พำนักของไท่จื่อหรือรัชทายาท)

เขาแน่ใจได้ว่า คนที่อยู่ข้างๆนี้ จะต้องไม่ใช่ฉู่หยุนหลิงที่เขาเคยรู้จักแน่

หยุนหลิงหยิบเข็มขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าบอด วันนี้เจ้าเอาแต่ลองใจข้า เจ้าคิดอยากจะพูดอะไรกันแน่?”

คำพูดตรงๆของนางทำเอาเซียวปี้เฉิงชะงัก

รับรู้ได้ถึงเข็มที่แทงเขาขมับอย่างเชื่องช้า เซียวปี้เฉิงครุ่นคิด สุดท้ายก็อดทนไม่ไหว

“เจ้าไม่ใช่ฉู่หยุนหลิง ใช่ไหม?”

ฉู่หยุนหลิงตัวตริงไม่มีทางมีวิชาแพทย์ที่เก่งขนาดนี้ได้หรอก และไม่มีทางเข้าครัวด้วย แถมยังรักตวนอ๋องสุดหัวใจด้วย

หยุนหลิงสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความแปลกใจเลยสักนิด “ไช่ แต่ก็ไม่ใช่”

เขาสังเกตเห็นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาฉลาดพอสมควร เทียบกับตาทึ่มเยียนอ๋องแล้ว เขาฉลาดกว่ามาก

“หมายความว่าอย่างไร?”

“ร่างกายเป็นของฉู่หยุนหลิง แต่ภายในไม่ใช่”

เซียวปี้เฉิงชะงัก ตากระตุกอย่างรุนแรง เขาเดาไม่ผิดจริงด้วย ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจจริงๆ!

เขารีบกลั้นหายใจเอาไว้ แต่กลับรับรู้ได้ว่า อีกฝ่ายไม่ทำร้ายตัวเอง

“เจ้าเป็นปีศาจจากที่ไหนกันแน่?”

หยุนหลิงหมดคำจะพูด “ทำไมถึงเป็นปีศาจ เป็นนางฟ้าไม่ได้หรือไง?”

“เจ้านิสัยไม่ดี ชอบด่าคน บนตัวเจ้าไม่มีจุดไหนที่เทียบกับนางฟ้าได้เลย”

“ปีศาจที่มีจิตใจดี จะมีนางฟ้าที่จิตใจไม่ดีไม่ได้เลยหรือไง?”

คำพูดนี้ทำเอาเซียวปี้เฉิงพูดไม่ออก เขาครุ่นคิดแล้ว ก็เหมือนจะไม่มีใครเคยตั้งกฎไว้ว่า นางฟ้าจะต้องอ่อนโยนและใจดีเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ