เซียวปี้เฉิงฟังจนปวดหัว ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปต้องทะเลาะกันไม่หยุดแน่
“พี่ใหญ่ ในเมื่อส่งของขวัญแสดงความยินดีมาถึงแล้ว ท่านกับแม่นางรองฉู่ก็กลับจวนไปเถิด ประเดี๋ยวหยุนหลิงต้องฝังเข็มให้ข้าอีก ไม่สามารถต้อนรับพวกท่านได้จริง ๆ ไว้วันหน้ามีเวลา ข้าจะไปเยี่ยมคารวะที่จวนตวนอ๋องด้วยตนเอง”
พอได้ยินคำเรียก “แม่นางรองฉู่” สีหน้าฉู่หยุนหานก็ซีดเซียวเล็กน้อย นิ้วมือก็กำผ้าเช็ดหน้าแน่นในทันที
เพราะอะไรกัน ทุกครั้งที่นางเจอเซียวปี้เฉิง อีกฝ่ายจะดูเป็นคนแปลกหน้าขึ้นทุกครั้ง?
แล้วความผูกพันหลายปีของพวกเขาล่ะ……
ตวนอ๋องก็ผวาไปชั่วขณะ จากนั้นก็เดือดดาลขึ้นมา
“ปี้เฉิง!เห็นชัด ๆ ว่าฉู่หยุนหลิงก่อเรื่องไร้เหตุผล ทำไมเจ้ายังกลับปกป้องนาง?นางรังแกหยุนหานยังไง หรือเจ้าตาบอดหูหนวกกัน?”
สีหน้าเซียวปี้เฉิงไร้ความรู้สึก ประจวบเหมาะเพราะเขารู้แล้วว่าฉู่หยุนหานเป็นคนยังไง จึงเลือกติดตามฉู่หยุนหลิง
ที่ปวดหัวไปกว่านั้นคือ ถ้าดึงไท่ซ่างหวงเข้ามาพัวพัน ต้องวุ่นวายอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่
เห็นท่าทางของเซียวปี้เฉิง สายตาของตวนอ๋องผิดหวังอย่างยิ่ง
“หยุนหานกับเจ้าเป็นคู่รักวัยเด็กมากว่าสิบปี หลังจากเจ้ามองไม่เห็นนางก็หาหมอหายาเพื่อเจ้า แต่เพราะบัดนี้ฉู่หยุนหลิงรักษาดวงตาทั้งคู่ของเจ้าได้ นางรังเกียจหยุนหาน เจ้าก็ต้องห่างเหินนางด้วยหรือ?”
ใบหน้าเซียวปี้เฉิงถมึนทึง คำพูดนี้เสียดแทงจิตใจเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ใช่แล้ว คู่รักวัยเด็กมากว่าสิบปี ฉู่หยุนหานกลับเลือกแทงเขาข้างหลัง
หยุนหลิงฟังต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ “เซียวเทียนอวี้ สมองเจ้าถูกกระทบกระเทือนเหรอไง?มาพูดอย่างนี้ต่อข้ากับท่าอ๋อง จงใจจะยุยงให้แตกแยกใช่มั๊ย”
ถ้าไม่เพราะในท้องของนางกินจนอิ่มจนกลมเกินไป ไม่สะดวกเคลื่อนไหว ป่านนี้คงต่อยเข้าให้หมัดนึงแล้ว
ฉู่หยุนหานกลับปวดใจ น้ำตานองเป็นสาย
“ท่านตวนอ๋องอย่าเอ่ยต่ออีกเลย บัดนี้ท่านจิ้นอ๋องทรงอภิเษกมีชายาแล้ว หยุนหานเองควรหลีกทาง หากท่านพี่ถือสา ต่อไปข้าไม่มาอีกก็ได้……”
“เจ้ารีบไสหัวไปได้แล้ว ทุกครั้งที่ปรากฏตัวไม่เคยมีเรื่องดี”
หยุนหลิงมองนางเล่นละครอย่างเย็นชา มุมปากเบะขึ้นเยาะหยัน “คราวก่อนเจ้ายุยงให้องค์หญิงหกผ้องหวงกุ้ยเฟย ทำให้เจ้าบอดโดดตบเฉย ๆ ไปหนึ่งฉาด ไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้าก็ถือว่าดีมากแล้ว ยังจะกล้าแบกหน้ามาอีก”
ตวนอ๋องตกใจ มองฉู่หยุนหานด้วยความตกตะลึง ในสายตาเหมือนมีความไม่เข้าใจปนสงสัย
เขารู้เรื่องที่น้องสาวแท้ ๆ ถูกลงโทษให้คัดพระคัมภีร์ที่อาราม ว่าแต่เรื่องนี้เกี่ยวกับฉู่หยุนหานยังไง?
นึกไม่ถึงว่าหยุนหลิงจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดต่อหน้า ฉู่หยุนหานหนาวจับใจ สีหน้าซีดเซียว
“หยุนหานไม่เคยเข้าวัง ก่อนหน้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่ทราบ ใยท่านพี่ต้องนำเรื่องนี้มาโทษข้าด้วย?”
หรือเซียวปี้เฉิงก็สงสัยว่านางชักใยอยู่เบื้องหลัง จึงได้มีท่าทีเช่นนี้?
ตวนอ๋องไม่ได้คิดมาก เข้าใจว่าหยุนหลิงใช้ลูกไม้อย่างเมื่อก่อน ที่นางจงใจเล่นงานฉู่หยุนหานไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว
“ฉู่หยุนหลิง การใส่ร้ายป้ายสีต้องโดนจองจำในศาลต้าหลี่ กษัตริย์ทำผิดโทษเท่าสามัญชน!”
ให้ตาย สุดยอด
หยุนหลิงเองก็อดเห็นใจองค์หญิงหกไม่ได้
นางถอนใจเอ่ยว่า “ข้ายอมแล้วจริง ๆ ทำไมถึงมีคนงี่เง่าอย่างท่านนะ น้องสาวแท้ ๆ ถูกให้ร้ายจนร้องไห้ ยังมาผดุงความเป็นธรรมให้ฆาตกรที่อยู่เบื้องหลัง ถ้าหม่อมฉันเป็นองค์หญิง คงฟาดหัวท่านเบี้ยวไปแล้ว”
คุยกับคนแบบนี้มากไป จะส่งผลถูกฉุดไอคิวให้ต่ำลงมาได้
ตวนอ๋องกัดฟันกรอด ๆ มองหยุนหลิง กำลังจะอ้าปากโต้กลับ อยู่ ๆ ในลานเรือนก็มีเสียง “ตุ๊บ” ดังขึ้น
ตวนอ๋องส่งเสียงอุอู้ออกมา การมองเห็นหายไปฉับพลัน ล้มทั้งยืนหมดสติไป
สายตาลู่ชีกับพวกมองไป ก็เห็นไท่ซ่างหวงที่ถือไม้เท้าเหมือนวิญญาณโผล่มาตอนไหนไม่รู้ ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังตวนอ๋องอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง
“ไท่ซ่างหวงฟาดได้ดี!”
หยุนหลิงอดกู่ร้องไชโยไม่ได้ เท่ากับระบายความแค้นให้นาง
ฉู่หยุนหานตาโตปากค้างมองดูฉากนี้ อ้าปากกว้างไม่เหลือภาพลักษณ์หญิงใจงามเลย
นางได้ยินไม่ผิดใช่ไหม ไท่……ไท่ซ่างหวง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ