องค์ชายาหมื่นพิษ นิยาย บท 39

“ทำไมท่าทางท่านไม่เหมือนชมหม่อมฉันเลย?”

เซียวปี้เฉิงนิ่งไปสักพัก เอ่ยอย่างเปรย ๆ ว่า “ข้าแค่ตกใจที่ฝีมือทำอาหารของเจ้าจะดีเช่นนี้ ไท่ซ่างหวงโปรดเสวยขนม เจ้าถนัดของว่างไหม?”

“เรียกได้ว่าถนัดเลย ถ้าอยากเสวยละก็ เดี๋ยวแสดงฝีมือให้พวกท่านดูก็ได้”

หยุนหลิงถนัดทำอาหาร และก็ชอบทำอาหาร เรื่องของว่างไม่ว่าจะเป็นสไตล์ฝรั่งสไตล์จีนนางทำเป็นไม่น้อย

“อย่างนั้นหรือ?นึกไม่ถึงว่าฝีมือทำอาหารของเจ้าจะก้าวหน้าเร็วเช่นนี้”

มีหลักฐานแล้ว คนที่เห็นอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ฉู่หยุนหลิงจริงแท้แน่นอน!

สีหน้าเซียวปี้เฉิงแน่นิ่งไปชั่วขณะจากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา

“จำได้ว่าวันประสูติปีที่แล้วของพี่ใหญ่ เจ้าทำขนมกุ้ยฮวาสูตรลับมอบให้เขาโดยเฉพาะ ปรากฏว่าใส่เกลือแทนน้ำตาล”

แม้ว่าเซียวปี้เฉิงจะไม่ได้ชิมขนมกุ้ยฮวาจานนั้น แต่ก็เคยได้ยินเยียนอ๋องสาธยายให้ฟัง ยังไงหน้าตาขนมจานนั้นก็เรียกว่าขนมไม่ได้ เหมือนอึมากกว่า

หยุนหลิงยิ้มสักพัก แล้วก็ค้นพบความทรงจำในหัวเกี่ยวกับร่างเดิมอย่างรวดเร็ว

นางนึกถึงขนมกุ้ยฮวาจานนั้นที่ไม่อาจพรรณนาได้ และจำได้ว่าตวนอ๋องเห็นแก่หน้านางจึงกัดไปหนึ่งคำ สุดท้ายต้องมีสภาพอนาถแทบเป็นลมเพราะเค็มเกิน

หยุนหลิงหลี่ตาเล็กน้อย มองดวงตาสองข้างของเซียวปี้เฉิง ถามขึ้นมาว่า “เมื่อสักครู่ท่านกำลังหลอกหม่อมฉัน ล้วงความลับหม่อมฉันใช่ไหม?”

เนื้อปั้นลิ้นจี่คำหนึ่งติดอยู่ที่ลำคอเซียวปี้เฉิง เกือบจะสำลัก

ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงไม่หลงกลหงายไพ่ออกมานะ!

เวลานี้ถูกสงสัยเข้า ก็ควรรีบเปลี่ยนหัวข้อเพื่อกลบเกลื่อนไม่ใช่หรือ?

ท่ามกลางบรรยากาศกลืนไม่เข้าคายไม่ออกตั้งแง่ใส่กัน เฉียวเย่ขุนนางในบ้านก็เข้ามารายงาน

เขามองหยุนหลิงเหมือนลังเลสักพักแล้วเอ่ยด้วยเสียงขรึมว่า “ทูลท่านอ๋องและพระชายา คุณหนูรองฉู่มาขอเข้าพบ”

หยุนหลิงขมวดคิ้ว “ฉู่หยุนหาน?นางมาทำไม ไม่พบ ไม่พบ”

“กราบทูลพระชายา คุณหนูรองฉู่บอกว่ารับคำสั่งจากจวนเหวินกั๋วกงมา นำเครื่องบำรุงครรภ์มามอบให้ท่านโดยเฉพาะ”

หยุนหลิงวางตะเกียบลง ส่ายหน้า “เจ้าไปบอกนางว่าข้าไม่ต้องการ ให้นางเอาของกลับไปให้หมดซะ”

เย่เจ๋อเฟิงที่อยู่ในเรือนได้ยินคำพูดเช่นนี้ ก็อดกลั้นไม่อยู่

“พระชายา คุณหนูรองฉู่เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของท่าน อีกทั้งนางมาเพื่อมอบเครื่องบำรุงให้ท่าน ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์หรือเหตุผลก็ควรให้นางเข้ามานั่งในจวนจึงจะไม่เสียมารยาท”

เหมือนเฉียวเย่จะเดาคำตอบของหยุนหลิงได้จึงเอ่ยต่อว่า “พระชายา คุณหนูรองฉู่บอกว่าหวังว่าท่าจะไม่ทำให้นางลำบากใจ เครื่องบำรุงเป็นน้ำใจและความห่วงใยจากเหล่ากั๋วกงและเหล่าไท่จวิน ต่อให้ท่านไม่อยากพบนางก็ควรรับเครื่องบำรุงไว้”

เซียวปี้เฉิงนิ่งไปสักพัก “หากเจ้าไม่อยากพบนางจริง ๆ ก็ให้นางวางของไว้แล้วก็ไปซะ”

หยุนหลิงกลับไม่ไหวติง เลิกคิ้วยิ้มเอ่ยว่า “นางก็ช่างฉลาดนัก รู้ว่าข้าไม่ให้นางเข้ามา เลยเตรียมคำพูดไว้ล่วงหน้าแล้ว เสียดายที่……”

“ของเหล่านี้ถ้าเป็นคนอื่นส่งมา ข้าอาจจะรับไว้ก็ได้ แต่นี่เป็นของที่นางส่งมา ใครจะรู้ว่าของข้างในมีปัญหาหรือเปล่า”

หยุนหลิงไม่เคยปิดบังความชั่วร้ายที่มีต่อฉู่หยุนหานเลย

เซียวปี้เฉิงได้รู้ท่าทีของนางนานแล้วจึงไม่แปลกใจ แต่สีหน้าของเย่เจ๋อเฟิงกลับปิดไว้ไม่อยู่

“พระชายา!ท่านเห็นความหวังดีของน้องสาวแท้ ๆ ของท่านเป็นร้ายเช่นนี้ จะทำให้คนเขาห่อเหี่ยวใจเกินไปแล้ว!”

“ถูกต้อง สองวันมานี้หยุนหานเป็นห่วงเจ้าตลอด ยังไหว้วานให้ข้าช่วยหารังนกสีเลือด หาทั่วเมืองหลวงซื้อจากตระกูลเฟิงในราคาสูงถึงจะได้มา”

เสียงที่ดูคุ้นเคยเสียงหนึ่งดังเข้ามาจากทางเข้าประตูลานเรือน ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “นางปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้ เจ้ากลับเล่นงานนางไปทุกเรื่อง ทิ้งความหวังดีของนางเหมือนทิ้งรองเท้าคู่เก่า ทำให้คนห่อเหี่ยวใจได้สุดขีดจริง ๆ!”

ผู้ที่มาก็คือตวนอ๋องเซียวเทียนอวี้และเงางดงามชุดขาวในร่างเล็กเพรียวบางที่อยู่ข้างหลังเขาจะเป็นผู้ใดไปได้หากไม่ใช่ฉู่หยุนหาน

หยุนหลิงหุบรอยยิ้มเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ข้าสั่งไว้ไม่ใช่หรือว่าถ้าไม่อนุญาต ห้ามคนภายนอกไม่ว่าใครก็ตามเข้าออกจวนจิ้งอ๋อง?เห็นคำพูดของข้าเป็นลมผ่านหูหรือไง?”

กินข้าวอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ ก็มีคนสองคนมาแทรก จงใจทำให้นางกินไม่ลงใช่มั๊ย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ