“อยู่ดีดีจะร้องตะโกนดังทำไม” หยุนหลิงอึ้งไปชั่วขณะ เงยหน้าจ้องมองดูเขา พร้อมพูดขึ้ว่า “เกิดกินระเบิดเข้าไปหรือ?”
เซียวปี้เฉิงอึ้ง เพิ่งตระหนักได้ว่าตนเองยั้งสติไม่อยู่ เขารีบเก็บอารมณ์ สีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่ว่ายังไง ลูกของเจ้าก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของสกุลเซียว ต้าโจวไม่มีทางปล่อยให้สายเลือดเชื้อพระวงศ์เร่ร่อนอยู่ข้างนอก”
หยุนหลิงครุ่นคิดในใจ คงเป็นเพราะคนสมัยโบราณมักให้ความสำคัญกับลูกหลานอย่างมาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายคนนี้โกรธมากขนาดนั้น
“เจ้าหมายความว่า หากข้าอยากจากไป ก็ต้องทิ้งลูกไว้หรือ?”
เซียวปี้เฉิงกำหมัดแน่น หลังจากความโกรธเคืองดับลงแล้ว ก็มีร่องรอยของความขมขื่น
“เจ้าอยากไปขนาดนั้นเลยหรือ?”
หยุนหลิงขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ก็คุยกันแล้วไม่ใช่หรือ? รอหลังจากรักษาเจ้ากับเยียนอ๋องแล้ว เราก็จะแยกย้ายจากกันทันที ใช่ว่าเจ้าไม่รู้ ข้าไม่ใช่ฉู่หยุนหลิงที่แท้จริง”
ถึงแม้คำพูดนี้จะพูดออกมาตอนที่ทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ใช่คำพูดประชด
เซียวปี้เฉิงถามขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “ทำไมเจ้าถึงยืนยันที่จะจากไป เพราะมีเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่า?”
อยู่ต่อไม่ได้หรือ
“ก็ไม่มีอะไร แต่ทำไมข้าต้องอยู่ต่อ?” หยุนหลิงย่นจมูก ขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นว่า “คนในเมืองหลวงเวลาเห็นข้า ก็ไม่มีใครไม่กลอกตามองบน มีชีวิตอยู่ต่อไปในร่างของฉู่หยุนหลิง ไม่เท่ากับอยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่ตัวหรือ?”
นางร่ำรวยเงินทอง ถึงจะเป็นสินสอดเจ้าของเดิม เอาไปทั้งหมดก็ไม่ดี ก่อนไปยกให้กับจวนเหวินกั๋วกงก็หมดเรื่อง ใช่ว่านางจะหาเงินเองไม่ได้
สามารถได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ แล้วจะอยู่ทนรับอารมณ์ที่นี่ทำไม
เซียวปี้เฉิงเงียบ เขาไม่ปฏิเสธ สถานการณ์ของหยุนหลิงไม่ดีจริงๆ
แม้ว่านางจะมีความชำนาญทางการแพทย์สูง เริ่มมีชื่อเสียงที่ดีขึ้นมาบ้าง แต่ผู้คนกลับเย้ยหยันและเยาะเย้ยนางมากว่าสิบปีแล้ว แค่เพียงสองเดือนจะเปลี่ยนไปง่ายๆได้ยังไง
เซียวปี้เฉิงจ้องมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “หากข้าบอกว่าลูกต้องอยู่ที่นี่ เจ้าก็จะยอมทอดทิ้งลูก แล้วจากไปหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ