“ใครสอนเจ้ากัน?”
พอพูดถึงเรื่องนี้ สายตาของหยุนหลิงก็อ่อนโยนขึ้นมา “นางชื่อว่าเสวียนจี อยู่ลำดับสุดท้ายในองค์กร พวกเราจะเรียกนางว่าน้องเล็ก ”
หยุนหลิงเล่าเกี่ยวกับอาวุธกับรถสงครามที่เคยช่วยน้องเล็กสร้าง เซียวปี้เฉิงได้ยินแล้วก็ตาเป็นประกาย สีหน้าตกตะลึงมาก
“บนโลกนี้มีอาวุธแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ? สามารถบินลัดฟ้าข้ามแม่น้ำภูเขา และยังผ่านทะเลอันกว้างใหญ่ได้ แถมยังยิงศัตรูได้อย่างแม่นยำอีก?”
และยังสามารถทำลายล้างเมืองหนึ่งได้ด้วย หรือนี่จะเป็นสงครามระหว่างเทพกับปีศาจในตำนาน?
เซียวปี้เฉิงรู้สึกได้รับผลกระทบทางด้านทัศนคติ “ถ้าหากมีอาวุธแบบนี้อยู่จริง งั้นอยู่ต่อหน้าเทพและปีศาจ มนุษย์ก็เป็นแค่มดตัวเล็กน่ะสิ”
หยุนหลิงหมุนเส้นผมเล่น ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายเรื่องทฤษฎีขีปนาวุธข้ามทวีปให้เซียวปี้เฉิงเข้าใจยังไงดี
“……อาวุธพวกนี้ ก็ทำขึ้นมาจากมนุษย์นั่นแหละ”
เซียวปี้เฉิงตกตะลึง “หรือเจ้าก็ทำเป็นเหมือนกัน? ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นต้าโจวของเราก็จะปกครองแคว้นทั้งหมดได้แล้วน่ะสิ?”
ตลอดหลายวันมานี้ เขาเข้าใจแล้วว่า หยุนหลิงอาจจะเป็นนางฟ้าลงมาจุติยังโลกมนุษย์ในตำนานก็ได้
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ชอบเรียกนางยัยปีศาจมากกว่า
หยุนหลิงเบะปาก “อย่าฝันไปเลย ข้าเชี่ยวชาญด้านยาพิษและการรักษา ทำพวกรถสงครามลาอาวุธใหญ่ๆไม่เป็นหรอกนะ ก็ทำเป็นแค่ของชิ้นเล็กๆ และอาวุธลักที่ใช้งานง่ายๆ”
เซียวปี้เฉิงฉีกยิ้มให้นาง สายตาเป็นประกาย “เจ้าช่วยข้าไว้ได้เยอะเลย ยาถอนพิษควันครั้งก่อน และเกาทัณฑ์ที่มีความประณีตนี้อีก ถ้าเอาไปใช้ในสงครามได้ พวกเราก็จะได้เปรียบกว่าพวกชาวทูเจวี๋ย”
เพื่อเป็นการตอบแทน เขาก็แอบวางแผนเตรียมช่วยหยุนหลิงขายขี้ผึ้งโสมหิมะ
นึกถึงเรื่องสงคราม หยุนหลิงก็ถึงรู้สึกว่า ตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในยุคโกลาหลที่มีสงครามเต็มไปหมด ถึงแม้ในเมืองหลวงจะหรูหราแค่ไหน แต่เหมือนทุกคนจะเตรียมใจพร้อมสู้รบเต็มที่ เหมือนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
นางยกมือเท้าคาง แอบคิดในใจ งานเลี้ยงเรือมังกรจะมีพลุดอกไม้ไฟให้ชมตอนกลางคืน แสดงว่าคนในยุคนี้สร้างระเบิดได้แล้ว แต่นางไม่เคยเห็นใครใช้ดินปืนเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายาหมื่นพิษ