องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1

“องค์ชาย ตื่นเถิดเจ้าค่ะ”

เกิดอะไรขึ้นกันแน่!

เมื่อฉินเหยียนลืมตาตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงไม้แกะสลักแบบสมัยโบราณ พร้อมกับผ้าม่านสีเหลืองอ่อน การตกแต่งภายในห้องนั้นเป็นไปตามแบบสมัยโบราณ เหลืองอร่ามแวววาวไปทั่วทั้งห้อง

เมื่อครู่เขากำลังอยู่ในปฏิบัติการเฉพาะกิจลับ กำลังจะชักปืนออกมายิงใส่ฝั่งคนร้าย ทำไมจู่ๆ ตอนนี้เขาถึงได้โผล่มาในสถานที่เช่นนี้ได้ล่ะ?

ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?

“องค์ชายสิบสี่ ถึงเวลาดื่มยาบำรุงแล้วเจ้าค่ะ”

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น พลันมีเสียงนุ่มที่น่าหลงใหลดังแว่วเข้ามา

ฉินเหยียนหันศีรษะไปในทันที เมื่อมองเห็นสาวงามสวมชุดยาวแบบสมัยโบราณสีชมพูอ่อน ถือถ้วยยาและเดินช้าๆ มาที่ข้างเตียงของเขา

ว้าว~~

รูปร่างของเธอที่มีทรวดทรงองค์เอวอย่างเห็นได้ชัด งดงามอ่อนหวาน ใบหน้ารูปไข่ อีกทั้งกระดูกไหปลาร้าใต้คอที่ยาวระหงส์นั้น

การเคลื่อนไหวไปมาภายใต้ตู้โตว อีกทั้งร่องอกที่เผยให้เห็นอย่างชัดเจน สวยงามอลังการเป็นอย่างมาก พร้อมที่จะเปิดเผยให้ผู้อื่นได้มอง

“องค์ชาย หม่อมฉันช่วยประคองท่านให้ลุกขึ้นดื่มยาเองเจ้าค่ะ”

ในตอนที่เขามองเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดๆ พลันมีภาพความทรงจำไหลเข้ามาในความคิดของเขาราวกับกระแสน้ำ

ความทรงจำที่ไม่ใช่ของเขา ยังคงฉายขึ้นไม่หยุด และในที่สุดฉินเหยียนก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด

ดวงวิญญาณของเขาย้อนกลับมายังอดีต!

เขาคือองค์ชายสิบสี่แห่งอาณาจักรฉิน เขาหมกมุ่นแต่เรื่องสำมะเลเทเมาและเรื่องผู้หญิง เป็นคนที่ไม่มีความรู้และความสามารถใดๆ เลย อีกทั้งยังเป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้ชื่นชอบน้อยที่สุดอีกด้วย

“ฉิบหายแล้ว นี่เรื่องจริงหรือจ้อจี้?”

“องค์ชาย เป็นอะไรหรือเจ้าคะ?”

ฉินเหยียนได้สติกลับมา แล้วมองไปที่หญิงสาวที่ถือถ้วยยาอยู่ในมือ ความทรงจำของเขาค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น

ผู้หญิงคนนี้มีชื่อว่าซ่งมู่มู่ เป็นญาติห่างๆ ของฮองเฮา เธอเป็นลูกสาวของตระกูลชื่อดังที่ได้เข้ามาศึกษาเรื่องกฎระเบียบและมารยาทต่างๆ ภายในวัง แต่ความจริงแล้วเธอเป็นเหมือนมีดที่อยู่ในมือของฮองเฮาที่เอาไว้ใช้เวลาทำร้ายคนอื่น

ยอมตามใจเหยียนฉินไปทุกเรื่อง คอยพูดเกลี้ยกล่อมด้วยคำพูดหวานๆ และให้ดื่มยาพิษมาเป็นเวลานาน เพื่อให้องค์ชายแปด ลูกชายที่ฮองเฮาเป็นคนให้กำเนิดเองนั้นได้ขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาท เพื่อขจัดปัญหาลูกชายพระสนมขึ้นมาเป็นผู้สืบครองบัลลังก์

ซ่งมู่มู่กลัวว่าฉินเหยียนจะไม่ยอมดื่มยาพิษ ดังนั้นทุกครั้งที่นางนำยามาให้ นางจงใจเปิดเสื้อผ้าด้านหน้าออกเพื่อเป็นการยั่วยวนและดึงดูดความสนใจของฉินเหยียน

ในเวลานี้ นางลดตัวลง ยื่นช้อนไปที่ปากของฉินเหยียนและพูดเบาๆ ว่า

“องค์ชาย เดี๋ยวก็เย็นหมดนะเจ้าคะ รีบๆ ดื่มตอนยังร้อนเถิดเจ้าค่ะ”

ฉินเหยียนได้แต่สาปแช่งในใจ ฉินเหยียนคนก่อนได้ถูกแกฆ่าตายไปแล้ว แกยังคิดอยากจะฆ่าฉัน คิดว่าฉันเป็นร่างโคลนเหรอไง

ในเมื่อสวรรค์เบื้องบนให้ดวงวิญญาณฉันเข้ามาอยู่ในร่างองค์ชายไร้ประโยชน์คนนี้แล้ว ต้องทำให้เต็มที่สิวะ ใช้ชีวิตให้ดี มีความสุขกับการเป็นองค์ชายในสมัยโบราณนี้แทน!

ทันใดนั้นฉินเหยียนก็ปัดถ้วยยาทิ้ง ดึงตัวซ่งมู่มู่เข้ามาข้างตัว

ซ่งมู่มู่ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลยแม้แต่น้อย ทันใดนั้นตัวนางอยู่บนร่างของฉินเหยียน หวาดกลัวเกินกว่าจะกล้าต่อต้าน

ฉินเหยียนนำแขนทั้งสองข้างโอบเอวอันบอบบางของซ่งมู่มู่ จากนั้นพลิกตัวและกดซ่งมู่มู่ไว้ใต้อาณัติของเขา

“อา”

ซ่งมู่มู่ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เมื่อนางเห็นสายตาดุจหมาป่าของฉินเหยียน นางรับรู้ความรู้สึกกลัวโดยสัญชาตญาณ จึงพยายามดิ้นและผลักเพื่อให้ตนออกจากอ้อมแขนของฉินเหยียนโดยเร็ว

“องค์ชาย อย่าเจ้าค่ะ ได้โปรดเคารพตัวเองด้วยเจ้าค่ะ!”

ซ่งมู่มู่ดิ้นไปมาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่มือใหญ่ของฉินเหยียนกลับมุ่งตรงไปยังหน้าอกของนางโดยทันที

“รู้จักกลัวบ้างแล้วหรือ เจ้าเกลี้ยกล่อมให้ข้าดื่มยาบำรุงทุกๆ วัน ตอนนี้ข้าถูกเจ้าทำให้ขาดสติไปเสียแล้วน่ะสิ!”

ฉินเหยียนยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าอันบอบบางของนาง และพูดอย่างเหิมเกริมว่า

“ไม่เสียสละบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย วันหลังข้าจะดื่ม “ยาบำรุง” อย่างเชื่อฟังได้อย่างไรเล่า?”

ซ่งมู่มู่อุทานออกมาด้วยความตกใจ ทั้งเขินอายทั้งกังวล พูดขึ้นมาว่า

“องค์ชาย... ไม่ใช่อย่างนั้นเจ้าค่ะ ท่านเข้าใจผิดแล้วเจ้าค่ะ!”

“ไม่ได้เด็ดขาดเจ้าค่ะ ข้ามีคู่หมั้นหมายอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นคนของฮองเฮา ท่านไม่สามารถ...”

ใบหน้าของฉินเหยียนฝังเข้าไปที่ซอกคอของซ่งมู่มู่ ดมกลิ่นหอมของหญิงสาวอย่างตะกละตะกลาม พยายามระงับความรุ่มร้อนและพูดด้วยเสียงทุ้มว่า

“เป็นคนของฮองเฮาแล้วอย่างไร ข้าเป็นถึงองค์ชาย ในวังนี้ไม่ว่าผู้หญิงแบบใดมีหรือข้าจะไม่ได้? เจ้าวางใจเถิด ข้าจะทะนุถนอมเจ้าอย่างดี!”

ในขณะที่พูด ฉินเหยียนขบติ่งหูของซ่งมู่มู่เล็กน้อย

ซ่งมู่มู่ออกแรงต่อต้านด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี ใช้มือทั้งสองข้างที่บอบบางและขาวเนียนนั้นผลักฉินเหยียนออกไป

แต่เนื่องจากฉินเหยียนมีรูปร่างของชายหนุ่ม อีกทั้งร่างกายที่กำลังรุกร้อนดั่งเปลวไฟในตอนนี้ มือที่ผลักเขาทั้งสองข้างของนางเปรียบเสมือนดั่งชนวนไฟที่คอยเติมเชื้อเพลิงเข้าไปอีก

“ยิ่งเจ้าต่อต้านมากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งรุกร้อนมากเท่านั้น!”

ฉินเหยียนหายใจไม่ออก ไม่สนใจการต่อต้านของซ่งมู่มู่ เขาฉีกชุดแต่งกายในวังของนางออกทันที

“แควก”

ร่างเปลือยเปล่าที่มีผิวขาวดั่งหิมะปรากฏต่อหน้าเขา ตาของฉินเหยียนแดงก่ำ เรารู้สึกร้อนภายในร่างกายมากขึ้น

“ไม่ ไม่...”

ซ่งมู่มู่ถูกฮองเฮาชักใยอยู่เบื้องหลังให้เป็นคนหลอกองค์ชายสิบสี่ดื่มยาพิษ นี่เป็นหน้าที่ประจำวันของนาง นางไม่เคยคิดเลยว่าเพียงแค่นำยามาให้จะทำให้ตนเสื่อมเสียเช่นนี้

ซ่งมู่มู่เป็นเด็กสาววัยสิบหกปี เป็นเด็กสาวที่ยังไม่เคยแต่งงานมาก่อน วันนี้จู่ๆ มีคนปฏิบัติเช่นนี้กับนางทำให้นางสูญเสียสติสัมปชัญญะไปชั่วขณะ

ฉินเหยียนเองก็ไม่คิดที่จะอ่อนโยนกับนางเลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงที่มีจิตใจดั่งงูพิษคนนี้ คิดที่จะฆ่าเขา หากไม่ให้บทเรียนแก่นาง นางจะจำความผิดนี้ได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์