เมืองเปียงยาง หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ในเมืองพลันตกอยู่ในความวุ่นวาย
ท่านเจ้าเมืองถือว่าเป็นคนมีความสามารถจริงๆ เขาโจมตีได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก หลังจากที่เขาหลบหนีมาได้ เขาก็รวบรวมคนที่ภักดีต่อเขาอย่างรวดเร็ว และเริ่มต่อต้านการปกครองของอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เมืองเปียงยางครั้งหนึ่งเคยเป็นของเขา อยู่ภายใต้การปกครองของเขามานานกว่าสิบปี หากพูดว่าเขาเป็นคนไร้ซึ่งอำนาจก็คงพูดเช่นนั้นไม่ได้
ดังนั้นภายใต้การเรียกรวมตัวของคนของเขา คนที่ภักดีในเมืองเริ่มรวมตัวกัน
เวลาเพียงแค่สองวันมีคนหลายคนแปรพักตร์ไปฝั่งเขา ทำให้เขามีกำลังคนมากขึ้น
เรื่องนี้ทำให้อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้โกรธมาก เขาเรียกขุนนางทั้งหมดและผู้นำแปดกองธงที่เพิ่งแต่งตั้งใหม่ให้เข้าร่วมประชุม
เขามองไปที่ทุกคนจากนั้นตะโกนอย่างไม่พอใจว่า
“นี่พวกเจ้าตามล่ามันแล้วหรือ? แต่กลับมีคนมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้ แค่คนๆ เดียวกลับจับตัวมาไม่ได้ ไม่เพียงแต่ปล่อยให้พวกมันหนีไปเท่านั้น แต่กลับปล่อยให้พวกมันรวบรวมคนมาก่อกบฎอีกด้วยหรือ?”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้พูดด้วยความโกรธ
เดิมทีเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้นำแปดกองธงมากนัก แต่ไม่คาดคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ
ทุกคนก้มหน้าลง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ พวกเขาเองก็รู้ดีว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันรุนแรงเกินไป
ในเวลานี้ฮูมู่หลู่ลุกขึ้นยืนด้วยความระมัดระวังและค่อยๆ พูด
“ท่านผู้นำ ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว เช่นนั้นพวกเราต้องหาทางแก้ให้เร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินฮูมู่หลู่พูดเช่นนั้น อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้พลันขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฮูมู่หลู่ เจ้าหมายความว่าอะไรกัน?”
ฮูมู่หลู่หรี่ตาลงแล้วพูดช้าๆ
“ท่านผู้นำ ตามความคิดของข้า พวกเราต้องรีบปราบปรามพวกมันโดยเร็วพ่ะย่ะค่ะ ไม่อาจปล่อยให้บรรดาประชาชนถูกพวกมันล้างสมองเช่นนี้ได้อีกแล้ว!”
“มิฉะนั้น หากเขาทำเรื่องทั้งหมดแย่ลง จะเป็นข่าวร้ายสำหรับเราพ่ะย่ะค่ะ!”
ความกังวลของฮูมู่หลู่ไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล เพราะพวกเขายังใหม่สำหรับเมืองเปียงยาง
แต่ท่านเจ้าเมืองคนนั้นเขาปกครองเมืองมากกว่าสิบปี หากเขาสามารถปลุกระดมประชาชนได้ เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างจะควบคุมยากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ความไม่พอใจของประชนชาจะยิ่งพลุ่งพล่าน เกรงว่าเมืองเปียงยางจะต้องล่มสลาย
เมื่อนึกได้เช่นนั้น อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ก็ถามขึ้นมาทันที
“ฮูมู่หลู่ เช่นนั้นข้าต้องทำเช่นไรหรือ?”
เมื่อได้ยินดังนั้นฮูมู่หลู่พูดขึ้นมาว่า “ท่านผู้นำ อย่างแรกในตอนนี้พวกอาณาจักรฉินยังอยู่ห่างไกลจากเรามาก ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องระดมกำลังทหารป้องกันเมืองจำนวนมากพ่ะย่ะค่ะ”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้เงียบไปหลังจากได้ยินเช่นนั้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มองไปที่คนอื่นแล้วถามว่า
“พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
หลังจากที่คนอื่นๆ ต่างมองหน้ากันไปมาสองสามครั้ง ในที่สุดพวกเขาก็พยักหน้าช้าๆ
แม้ว่าเรื่องนี้จะยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีแก้ปัญหา
วิธีการของพวกเขานั้นมีความเป็นไปได้
เพียงแค่รวบรวมกำลังคนฝั่งตนและสังหารพวกกบฎเสีย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...