ทันทีที่ฉินเหยียนประกาศกร้าวเช่นนี้ ทุกคนในที่นั่นต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป
ที่เขาพูดมานั้นชักจะมากเกินไปแล้ว หลี่ชางรู้สึกได้ถึงภาระอันหนักอึ้งของตัวเองในทันที
“ข้าจะทำตามที่ท่านอ๋องคาดหวังเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ จะปกป้องที่ราบภาคกลางไปจนวันตาย!”
หลี่ชางกัดฟันพูด
“ดี!”
ฉินเหยียนตบไหล่เขา
หลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว ฉินเหยียนมองไปที่ทุกคนด้วยรอยยิ้มและถามออกมาว่า
“ข้าแปลกใจมากที่พวกเจ้าทุกคนมาที่นี่ในวันนี้ ว่าแต่เหตุใดจางฝูถึงไม่อยู่ที่นี่?”
จางฝูเป็นคนให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่ดีเป็นอย่างมาก หากเขาต้องการทำสิ่งใด พูดแล้วต้องทำให้ได้ เขาเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมาก
อย่างไรก็ตามในวันนี้ฉินเหยียนเห็นว่าจางฝูไม่ได้มาเข้าเฝ้า ทำให้เขางุนงง อดไม่ได้ที่จะถามถึง
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนส่ายหน้า
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ มีรายงานจากด้านนอกเข้ามาว่า
“ท่านอ๋อง ใต้เท้าจางต้องการเข้าเฝ้าพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”
“ให้เขาเข้ามา!”
ในไม่ช้า จางฝูก็เดินเข้ามาด้านใน ทักทายฉินเหยียนด้วยความเคารพและพูดว่า “เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนมองเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“วันแรกของวันปีใหม่ เจ้าก็มาสายเลยหรือ ไม่สมกับเป็นเจ้าเลย หรือว่าความสนุกสนานเริงรมย์ในช่วงวันปีใหม่จะทำให้เจ้าเรียนรู้ที่จะสนุกกับมันแล้ว?”
เมื่อได้ยินฉินเหยียนพูดหยอกล้อ เขาพลันหน้าแดงและพูดกลับว่า “ท่านอ๋อง กระหม่อมไปทำธุระมาพ่ะย่ะค่ะ”
“โอ้? เรื่องอะไรล่ะ?” ฉินเหยียนถามอย่างสงสัย
จางฝูได้ยินดังนั้น เขาพลันลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
“ท่านอ๋องยังจำหลิวอวี่หลินได้หรือไม่? ผู้นำตระกูลหลิวน่ะพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า
“แน่นอนว่าต้องจำได้สิ มีเรื่องอะไรหรือ?”
หลิวอวี่หลิน บุตรแห่งกิเลนของเยี่ยนเป่ย ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงเลยทีเดียว
ตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก อีกฝ่ายชี้ให้เขาเห็นว่าอาณาจักรฉินกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติการขาดแคลนอาหารอย่างร้ายแรง ฉินเหยียนรู้สึกว่าชายคนนี้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มองภาพรวมออก ดังนั้นเขาจึงหยิบยื่นไมตรีให้อีกฝ่าย เพราะอย่างเก็บอีกฝ่ายเอาไว้
ผลก็คือเขากลับถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ เขาทำได้แค่ยอมรับผลนั้น
ครั้งที่สองที่เจอกันคือเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยการชักชวนของจางฝู หลิวอวี่หลินจึงยอมสมัครเข้ามา เพราะสนใจในอาณาจักรฉินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยปาก เขาขอตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรฉิน แต่เขาลังเลเล็กน้อย อีกฝ่ายจึงเดินออกไปโดยไม่แม้แต่มองหน้าเข้า
คนธรรมดาที่มีอำนาจ อาจคิดว่าเพราะหลิวอวี่หลินทำให้ตัวเองอับอาย
แต่ฉินเหยียนไม่ใช่คนธรรมดา เขาจึงครุ่นคิดว่าความตั้งใจของอีกฝ่าย แต่ยิ่งคิดนานเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกันแน่
ในเวลานี้ จางฝูกระแอมออกมาเบาๆ แล้วถามอย่างไม่มั่นใจ
“ท่านอ๋อง กระหม่อมขอแนะนำเขาอีกครั้ง วันนี้กระหม่อมพาตัวเขามาแล้ว ท่านเจอเขาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
หลังจากพูดจบ จางฝูก็สังเกตสีหน้าของฉินเหยียนอย่างระมัดระวัง
ฉินเหยียนเลิกคิ้วขึ้น หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็ตอบรับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...