“อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของฝ่าบาทด้วย”
เรื่องที่เสนาบดีกรมพิธีการพูดมานั้นก็มีเหตุผล ฉินชงเองก็ฉุกคิดขึ้นมาเช่นกัน
เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ เป็นเรื่องจริงที่มีหลายส่วนในพระราชวังทรุดโทรมลงไปมาก มองผ่านๆ อาจจะดูน่าประทับใจ ห้ามมองอย่างละเอียด
ทุกๆ ที่ต่างเปิดเผยความทรุดโทรม หากเป็นอาณาจักรในสมัยห่อนคงจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้
แต่ตอนนี้อาณาจักรฉินได้รวมเก้าแคว้นไว้ด้วยกันแล้ว สถานะของอาณาจักรย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้พระราชวังดูทรุดโทรมพอสมควร
ฉินชงขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ
“ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล แต่ข้าไม่มีเงิน กรมพระคลังเองก็ไม่มีเงิน หากมีเงินข้าเองคงใช้เงินเหล่านั้นสร้างบ้านให้ชาวอาณาจักรหลู่แทนที่จะสร้างพระราชวังใหม่อยู่ดี”
“ฝ่าบาททรงมีพระทัยเมตตาพ่ะย่ะค่ะ”
เสนาบดีกรมพิธีการพูดอย่างมีมารยาทก่อนที่จะพูดต่อว่า
“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าสองสิ่งนี้สามารถทำไปพร้อมๆ กันได้ พระราชวังไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก แค่ยี่สิบล้านก็เพียงพอแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ยี่สิบล้านยังไม่มากไปอีกหรือ? เจ้าล้อข้าเล่นหรือไร?”
ฉินชงจ้องเขม่งและพูดว่า
“กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” เสนาดีกรมพิธีการรีบหมอบลงไปกับพื้น
“เอาล่ะ ลุกขึ้นมาคุยกับดีๆ เถอะ” ฉินชงโบกมือส่งสัญญาณให้เสนาบดีกรมพิธีการลุกขึ้น
เสนาบดีกรมพิธีการลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพและเริ่มอธิบายให้ฉินเหยียนฟัง
“กระหม่อมทรงทราบดีว่าพระองค์ทรงมีพระทัยเมตตาต่อประชาชน แต่ฝ่าบาท กระหม่อมรู้ว่าจะหาเงินมาจากที่ใด” เสนาบดีกรมพิธีการพูดเสียงต่ำ จากนั้นสีหน้าและท่าทางดูมีลับลมคมใน
“เอ๋? วิธีหาเงินอะไรกัน?” ใจของฉินชงกระตุก
เสนาบดีกรมพิธีการพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า
“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินมาว่าอ๋องเหยียนกำลังวางแผนสร้างอู่ต่อเรือหลวงที่เมืองอู๋ ใช้เงินร่วมหลายร้อยล้าน ซึ่งทำให้ความมั่นคงของอาณาจักรสั่นคลอน”
“กระหม่อมคิดว่าหยุดพัฒนาเรื่องนั้นก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ เพราะเป็นจุดที่ไม่รู้ว่าจะได้กำไรหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้กรมพระคลังจะยังคงมีเงินเพียงพอ”
เมื่อฉินชงได้ยินเช่นนั้น สีหน้าพลันเข้มขึ้น เขาแทบอยากจะเตะเสนาบดีกรมพิธีการให้กระเด็น
“เรื่องไร้สาระขนดนี้เจ้ายังคิดขึ้นมาได้? เจ้าโง่หรือเปล่า? เจ้ากล้าคิดที่จะเปลี่ยนแผนการของเจ้าสิบสี่หรือ? เจ้าอย่าลืมว่าอาณาจักรฉินมีวันนี้ได้ก็เพราะใคร!”
ในใจฉินชงอยากจะด่าชายชราตรงหน้าให้ตายไปเลย กล้ามีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร
เสนาบดีกรมพิธีการรีบพูดแก้ตัวทันที
“ฝ่าบาท กระหม่อมมิได้มีเจตนาต่อต้านอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ แต่ท้องพระคลังไม่อาจใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเช่นนั้นได้”
“ไม่ได้! หากเจ้ายังคิดเช่นนี้อีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า!”
ฉินชงตะคอก
“ฝ่าบาท...” เสนาบดีกรมพิธีการพยายามจะพูดต่อ แต่ฉินชงรีบขัดจังหวะเขา
“หยุดพูดได้แล้ว หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เจ้าก็กลับไปเถิด หากเจ้าต้องการรายงานเรื่องพวกนั้นอีก ข้าเข้าใจหมดแล้ว”
หลังจากที่ฉินชงพูดจบ เขาก็ไม่สนใจท่าทีของเสนาบดีกรมพิธีการอีกเลย ก้มหน้าอ่านสาส์นต่อไป
หลังจากที่ฉินชงเดินจากไป เสนาบดีกรมพิธีการเต็มไปด้วยความคับข้องใจ เขากำลังทำอะไรอยู่
เขาช่วยฝ่าบาทแก้ไขปัญหามิใช่หรือ
นี่ยังเป็นฝ่าบาทอยู่อีกหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...