องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1305

“อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของฝ่าบาทด้วย”

เรื่องที่เสนาบดีกรมพิธีการพูดมานั้นก็มีเหตุผล ฉินชงเองก็ฉุกคิดขึ้นมาเช่นกัน

เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ เป็นเรื่องจริงที่มีหลายส่วนในพระราชวังทรุดโทรมลงไปมาก มองผ่านๆ อาจจะดูน่าประทับใจ ห้ามมองอย่างละเอียด

ทุกๆ ที่ต่างเปิดเผยความทรุดโทรม หากเป็นอาณาจักรในสมัยห่อนคงจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้

แต่ตอนนี้อาณาจักรฉินได้รวมเก้าแคว้นไว้ด้วยกันแล้ว สถานะของอาณาจักรย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้พระราชวังดูทรุดโทรมพอสมควร

ฉินชงขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ

“ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล แต่ข้าไม่มีเงิน กรมพระคลังเองก็ไม่มีเงิน หากมีเงินข้าเองคงใช้เงินเหล่านั้นสร้างบ้านให้ชาวอาณาจักรหลู่แทนที่จะสร้างพระราชวังใหม่อยู่ดี”

“ฝ่าบาททรงมีพระทัยเมตตาพ่ะย่ะค่ะ”

เสนาบดีกรมพิธีการพูดอย่างมีมารยาทก่อนที่จะพูดต่อว่า

“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าสองสิ่งนี้สามารถทำไปพร้อมๆ กันได้ พระราชวังไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก แค่ยี่สิบล้านก็เพียงพอแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ยี่สิบล้านยังไม่มากไปอีกหรือ? เจ้าล้อข้าเล่นหรือไร?”

ฉินชงจ้องเขม่งและพูดว่า

“กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ!” เสนาดีกรมพิธีการรีบหมอบลงไปกับพื้น

“เอาล่ะ ลุกขึ้นมาคุยกับดีๆ เถอะ” ฉินชงโบกมือส่งสัญญาณให้เสนาบดีกรมพิธีการลุกขึ้น

เสนาบดีกรมพิธีการลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพและเริ่มอธิบายให้ฉินเหยียนฟัง

“กระหม่อมทรงทราบดีว่าพระองค์ทรงมีพระทัยเมตตาต่อประชาชน แต่ฝ่าบาท กระหม่อมรู้ว่าจะหาเงินมาจากที่ใด” เสนาบดีกรมพิธีการพูดเสียงต่ำ จากนั้นสีหน้าและท่าทางดูมีลับลมคมใน

“เอ๋? วิธีหาเงินอะไรกัน?” ใจของฉินชงกระตุก

เสนาบดีกรมพิธีการพูดอย่างเด็ดเดี่ยวว่า

“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินมาว่าอ๋องเหยียนกำลังวางแผนสร้างอู่ต่อเรือหลวงที่เมืองอู๋ ใช้เงินร่วมหลายร้อยล้าน ซึ่งทำให้ความมั่นคงของอาณาจักรสั่นคลอน”

“กระหม่อมคิดว่าหยุดพัฒนาเรื่องนั้นก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ เพราะเป็นจุดที่ไม่รู้ว่าจะได้กำไรหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้กรมพระคลังจะยังคงมีเงินเพียงพอ”

เมื่อฉินชงได้ยินเช่นนั้น สีหน้าพลันเข้มขึ้น เขาแทบอยากจะเตะเสนาบดีกรมพิธีการให้กระเด็น

“เรื่องไร้สาระขนดนี้เจ้ายังคิดขึ้นมาได้? เจ้าโง่หรือเปล่า? เจ้ากล้าคิดที่จะเปลี่ยนแผนการของเจ้าสิบสี่หรือ? เจ้าอย่าลืมว่าอาณาจักรฉินมีวันนี้ได้ก็เพราะใคร!”

ในใจฉินชงอยากจะด่าชายชราตรงหน้าให้ตายไปเลย กล้ามีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร

เสนาบดีกรมพิธีการรีบพูดแก้ตัวทันที

“ฝ่าบาท กระหม่อมมิได้มีเจตนาต่อต้านอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ แต่ท้องพระคลังไม่อาจใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเช่นนั้นได้”

“ไม่ได้! หากเจ้ายังคิดเช่นนี้อีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า!”

ฉินชงตะคอก

“ฝ่าบาท...” เสนาบดีกรมพิธีการพยายามจะพูดต่อ แต่ฉินชงรีบขัดจังหวะเขา

“หยุดพูดได้แล้ว หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เจ้าก็กลับไปเถิด หากเจ้าต้องการรายงานเรื่องพวกนั้นอีก ข้าเข้าใจหมดแล้ว”

หลังจากที่ฉินชงพูดจบ เขาก็ไม่สนใจท่าทีของเสนาบดีกรมพิธีการอีกเลย ก้มหน้าอ่านสาส์นต่อไป

หลังจากที่ฉินชงเดินจากไป เสนาบดีกรมพิธีการเต็มไปด้วยความคับข้องใจ เขากำลังทำอะไรอยู่

เขาช่วยฝ่าบาทแก้ไขปัญหามิใช่หรือ

นี่ยังเป็นฝ่าบาทอยู่อีกหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์