ขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นต่างมองไปที่องค์ชายสิบสี่ด้วยความงุนงง ทุกคนต่างแสดงท่าทีเยาะเย้ยและดูถูกออกมา
ไท่ฟู่เป็นคนโค้งคำนับจ่อฝ่าบาท แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับการยั่วยุของฉินเหยียน
“การทดสอบหมากรุกถูกกำหนดโดยฝ่าบาท ท่านมีข้อสงสัยประการใด?”
มีคนพูดเยาะเย้ยเบาๆ
“ข้าคิดว่าเขาคงไม่กล้ากระมัง”
“ที่เจ้าพูดมาไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เขาเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่ใช่คนโง่”
“แม้คิดว่าเขาเป็นคนฉลาด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าการทดสอบในวันนี้คือหมากรุก”
“ที่พูดมาก็สมเหตุสมผล”
ฉินเหยียนมองไปทั่วทั้งท้องพระโรงด้วยสายตาว่างเปล่า
เขากลัวพวกเศษขยะเหล่านี้หรือ?
เหอเหอ!
ประสานมือและกล่าวว่า
“เสด็จพ่อ ในเมื่อต้องการแข่งหมากรุก เช่นนั้นข้าจะไม่รังแกบรรดาท่านพี่”
“แข่งหมากรุกเพื่อท้าทายพวกเขาทุกคน!”
เสียงตะโกนอย่างมั่นใจดังขึ้นในตำหนักจินหลวน
คำพูดที่ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง!
บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และบุ๋นต่างพากันเงียบ และเบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ
แม้แต่ฮ่องเต้ฉินและฮองเฮาเองก็ยังแสดงท่าทีเหมือนกัน
ทุกคนต่างคิดว่าองค์ชายสิบสี่จะยอมถอยเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แต่ไม่มีใครคาคคิดว่าเขาจะยังกล้าพูดจาอวดดีและท้าทายทุกคนเช่นนี้
“เขาเสียสติไปแล้วกระมัง?”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้
ทำให้ทั้งท้องพระโรงที่เงียบสงัดเกิดเสียงดังเซ็งแซ่ดั่งคลื่นซัดสาด
“องค์ชายสิบสี่ทรงตรัสว่าอะไรหรือ? ข้าได้ยินผิดไปแน่ๆ!”
“เจ้าได้ยินถูกต้องแล้ว! ข้าเองก็ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น!”
“เขา เขาเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน?”
“อะแฮ่ม!”
หลังจากที่ฮ่องเต้ฉินได้สติ เขากระแอมออกมาสองครั้ง
หัวหน้าขันทีกล่าวว่า
“เงียบ!”
เสียงที่ดังเซ็งแซ่ค่อยๆ เงียบลง
จากนั้นฮ่องเต้ฉินจึงถามในสิ่งที่เขาสงสัย
“เหยียนเอ๋อร์ ที่เจ้าพูดว่าจะท้าทายทุกคน หมายความว่าอย่างไร?”
ฉินเหยียนมองไปยังรอบๆ และพูดอย่างมั่นใจว่า
“หมายความว่า ข้าไม่สนใจว่าพวกเขาจะส่งมากี่คน หรือจะมีพวกอาจารย์คอยประกบบอกพวกๆ ท่านพี่ว่าควรเล่นอย่างไร ข้าก็ไม่ปฏิเสธ ข้าสามารถเล่นหมากรุกกับพวกเขาทุกคนได้ในเวลาเดียวกัน”
“เพียงแค่หากข้าแพ้ในครั้งนี้ ข้าจะยอมถูกตัดหัวให้พวกเขาเอาไปโยนเล่น!”
“เสียสติไปแล้ว! เขาเสียสติไปแล้วจริงๆ!”
บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นในท้องพระโรงต่างหารือกันอีกครั้ง
ไม่ใช่เพราะคิดว่าองค์ชายสิบสี่มีความสามารถเล่นหมากรุกได้จริงๆ แต่กลับคิดว่าองค์ชายสิบสี่นั้นถูกเวทย์ควบคุมหรือไม่ก็คงเป็นคนโง่จริงๆ
คนๆ เดียจะสามารถแข่งกับคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาแพ้ เขายอมถูกตัดหัว นี่ไม่เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือ!
ในที่สุดฮ่องเต้ฉินพลันได้สติกลับมา แต่ก่อนที่จะทันได้ห้ามปราม ฮองเฮาฉินซวงหลานพลันลุกขึ้นเต็มไปด้วยความโกรธและพูดอย่างรวดเร็วว่า
“เช่นนั้นก็เป็นไปตามนี้! หากแพ้ต้องยอมถูกตัดหัว!”
“ฮองเฮา!”
ฮ่องเต้ฉินต้องการหยุดนาง แต่ฮองเฮาฉินซวงหลานยังคงพูดอย่างจริงจัง
“ฝ่าบาท ท่านเองก็ทรงเห็นว่าองค์ชายสิบสี่ไม่สนใจเรียนรู้มาตั้งแต่ยังเด็ก นิสัยดื้อรั้น หากท่านไม่มอบบทเรียนให้แก่เขา อีกทั้งยังปล่อยให้กำเริบเสิบสานเช่นนี้ไปอีกเรื่อยๆ อาจจะสร้างปัญหามากมายอีกในอนาคตเพคะ!”
“อืม ที่ฮองเฮาพูดก็มีเหตุผล”
ฮ่องเต้ฉินเห็นด้วยกับคำกล่าของฮองเฮา
“เตรียมหมากรุก!”
บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นที่เล่นหมากรุกได้ ทุกคนต่างรวมตัวกันในกลุ่มของตน ปรึกษาหารือกันว่าใครจะเล่นอย่างไร
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ท้องพระโรงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคัก
มีเพียงฉินเหยียนเท่านั้นที่ตัวคนเดียว สายตายังคงมองไปยังรอบๆ เหมือนกันหงส์ในฝูงกา
จ้าวจือหย่าที่ถูกฉินเหยียนพิชิตใจด้วยความรู้ของเขา เมื่อเห็นว่าเขากลายเป็นเป้าหมายอีกครั้ง นางอดไม่ได้ที่จะกังวล
หลังจากคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว นางเดินช้าๆ ไปยังด้านหน้าฉินเหยียน ประสานมือของนางไว้ที่หน้าอกแล้วพูดว่า
“องค์ชายสิบสี่ ด้วยความรู้และความสามารถที่ท่านแสดงในวันนี้ หากมีโอกาสเช่นนี้ท่านคงจะกลายเป็นอาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
“แต่ด้วยพระลักษณะนิสัยของท่าน สุดท้ายแล้วก็วนกลับมาทำร้ายท่าน ท่านอดทนมาหลายต่อหลายปี เหตุใดวันนี้ถึงร้องขอความตายล่ะเจ้าคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...