"ฮึ หลักการนี้ยังต้องให้เด็กเมื่อวานซืนเช่นเจ้ามาสอนข้าหรือ?"
ไท่ฟู่สะบัดมือและเดินจากไปอย่างเย่อหยิ่ง
ฉินเหยียนกลอกตาด้วยรอยยิ้ม
"เฒ่าชราเช่นเจ้าเสแสร้งได้ดีจริงๆ!"
.........
เมื่อเหล่าทหารที่เฝ้าเหมืองได้รับคำสั่งจึงช่วยกันเปิดประตูด่านถงกวาน
ด้านนอกประตูคือจ้าวฉี่หมิง อัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าว เขาขี่ม้าตัวเขื่องและนำทัพอยู่ด้านหน้า ด้านหลังของเขาคือคณะผู้แทนเจรจาของอาณาจักรจ้าวกว่าสิบคนที่เข้ามาในด่านถงกวานด้วยท่าทีอันทรงพลัง
ทันทีที่เข้าไปในเมืองจ้าวฉี่หมิงก็ตกตะลึงกับกำแพงสูงที่ล้อมรอบพื้นที่ว่างเปล่าตรงหน้า เขาไม่คิดว่าด่านถงกวานจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในเวลาเพียงไม่กี่วัน
จ้าวฉี่หมิงขมวดคิ้วและกำมือแน่นเพื่อระงับโทสะในใจ
ดูเหมือนว่าอาณาจักรฉินไม่เพียงแต่ไม่มีเจตนาที่จะคืนด่านถงกวาน พวกเขายังคิดจะยึดครองมันเป็นของตนเองอีกด้วย!
"มันมากเกินไปแล้ว!"
ยิ่งสำรวจมากเท่าไรสีหน้าของจ้าวฉี่หมิงก็ยิ่งไม่น่าดูมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่คณะตัวแทนเจรจาของอาณาจักรจ้าวที่อยู่ด้านหลังก็ยังซุบซิบและวิพากษ์วิจารณ์เบาๆ
ตอนนี้ยังมิใช่เวลามากังวลเรื่องนี้ จ้าวฉี่หมิงจึงดุทันทีว่า
"หุบปากให้หมด อย่าลืมจุดประสงค์ของพวกเรา"
เสียงวิพากษ์วิจารณ์หยุดลงทันที แม้ว่าคณะทูตของอาณาจักรจ้าวจะไม่พอใจแต่การมาเยือนครั้งนี้นอกจากจะเพื่อทวงด่านถงกวานคืนกลับมาแล้วพวกเขายังมีจุดประสงค์ที่สำคัญยิ่งกว่า
เวลานี้ฉินเหยียนยืนอยู่บนกำแพงเมืองและจ้องมองไปที่คณะทูตของอาณาจักรจ้าว แต่มิได้มีความคิดที่จะลงไปต้อนรับ
จ้าวฉี่หมิงและคณะของเขามาที่ด้านล่างกำแพงเมืองด้วยท่าทีที่ทรงพลัง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองฉินเหยียนก็เห็นว่าฉินเหยียนมิได้ลุกขึ้นเพื่อทักทายเขา จึงกล่าวขึ้นมาว่า
"ข้าคือจ้าวฉี่หมิง อัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าว หรือว่านี่เป็นมารยาทในการต้อนรับแขกของต้าฉินของพวกท่าน?"
ฉินเหยียนเลิกคิ้วและกล่าวว่า
"นี่มิใช่มารยาทในการต้อนรับแขกของต้าฉิน แต่เป็นท่าทีที่ข้าปฏิบัติต่อต่อแม่ทัพที่พ่ายศึก”
สีหน้าของจ้าวฉี่หมิงมืดครึ้มทันที เขาได้ยินมานานแล้วว่าองค์ชายสิบสี่แห่งต้าฉินวาจาคมคาย วันนี้เมื่อได้พบช่างไม่ไว้หน้ากันจริงๆ
และในเวลานี้
คณะของไท่ฟู่แห่งต้าฉินก็ออกมาต้อนรับด้วยท่าทีที่ทรงพลังโดยที่เสียงดังขึ้นก่อนจะปรากฏตัว
"โอ้ นี่มิใช่เหล่าจ้าวหรือ จ้าวฉี่หมิงอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าว!"
สีหน้าของจ้าวฉี่หมิงเปลี่ยนเป็นสีเขียวและขาว เขายิ้มเล็กน้อยและโค้งคำนับ
เมื่อคณะผู้แทนเจรจาของสองอาณาจักรได้พบกันย่อมทักทายกันอย่างสุภาพและยอมอ่อนข้อให้กันอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
"ในเมื่ออัครมหาเสนาบดีจ้าวเดินทางมาไกล เช่นนั้นข้าจะทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างดีที่สุดโดยจะพาพวกท่านเดินไปรอบๆด่านถงกวาน”
เมื่อกล่าวคำพูดนี้ออกมา คณะทูตของอาณาจักรจ้าวก็มีสีหน้ามืดครึ้ม
หมายความว่าอย่างไร?
ด่านถงกวานเป็นของอาณาจักรจ้าวแล้วอาณาจักรฉินก็ยึดครองมันมาเป็นของตนเอง และยังทำตัวเสมือนเจ้าของบ้านอีกด้วย พวกเขาคิดว่าด่านถงกวานเป็นของตนเองเช่นนั้นหรือ?
ในขณะที่กำลังพูดคุยกัน คณะทูตแห่งอาณาจักรจ้าวก็มุ่งหน้าไปยังค่ายเชลยศึกด้วยท่าทีที่ทรงพลัง
ฉินเหยียนที่อยู่บนกำแพงเมืองมองดูคณะทูตแห่งอาณาจักรจ้าวเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...