องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 145

จ้าวฉี่หมิง อัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าวก็ทำหน้าที่ของตนเอง เขาจ้องมองพลางกล่าวว่า

"รบก็รบ! หากเก่งนักเจ้าก็ปล่อยทหารสี่หมื่นนายของอาณาจักรจ้าวของพวกเราแล้วมาต่อสู้กัน!"

ไท่ฟู่เหลือบมองจ้าวฉี่หมิง และตะคอกอย่างเย็นชาว่า

"คำพูดนี้ช่างพูดออกมาได้ คิดจะใช้แม่ทัพที่พ่ายแพ้มาพลิกสถานการณ์ เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือ?"

คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้จ้าวฉี่หมิงโมโหจนอกกระเพื่อมและหน้าแดง เหล่าทหารของอาณาจักรจ้าวที่อยู่รอบๆต่างก็ก้มหน้าลงด้วยความอับอาย แต่ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและต่างก็กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว

จ้าวฉี่หมิงชี้ไปที่จมูกของไท่ฟู่และก่นด่าว่า

"เจ้า! เจ้ามันปากสุนัขย่อมคายงาช้างออกมามิได้!"

ราชครูอันสูงส่งกลับถูกเปรียบเทียบเป็นสุนัข ไท่ฟู่โกรธจนมึนงง

เมื่อได้พบฉินเหยียน องค์ชายที่มีดาบชื่อเซียวคอยอุ้มชูอยู่ผู้นี้ เขาสู้ไม่ได้ก็ช่างเถอะ แต่อัครมหาเสนาบดีของอาณาจักรที่พ่ายสงครามยังกล้าปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นเศษสวะ ช่างอุกอาจเกินไปแล้ว

ไท่ฟู่ไม่สนใจภาพลักษณ์ของเขา เขาพับแขนเสื้อขึ้นและชี้ไปที่จ้าวฉี่หมิงพลางตะโกนว่า

"เจ้าคนหยาบคาย! เจ้าคนปากพล่อย โจรเฒ่าที่พูดจาไร้สาระ สู้ไม่ได้ก็โจมตีข้าเป็นการส่วนตัว!"

ทั้งสองสนทนากันไปมาจากการเจรจาระหว่างอาณาจักรทั้งสองก็กลายเป็นการทะเลาะวิวาทของคนทั้งสองไปโดยปริยาย

"เจ้าว่าใครพูดจาเหลวไหล ด้วยคุณธรรมเช่นนี้ของเจ้าก็สามารถเป็นราชครูของฮ่องเต้แห่งอาณาจักรฉินได้ ต้าฉินของพวกเจ้าคงไม่มีคนแล้วจริงๆกระมัง!"

"เจ้าเป็นเพียงอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าว จะหยิ่งยโสอะไร ชาวจ้าวคงตายกันไปหมดแล้วจึงส่งผู้ที่ไร้สามารถเช่นเจ้ามาเจรจา!"

ฉินเหยียนถอยหลังไปสองสามก้าวอย่าเงียบๆด้วยใบหน้าที่กำลังสนุกอยู่กับละครตรงหน้า เขามองไปที่ไท่ฟู่และจ้าวฉี่หมิงที่ทะเลาะกันจนหน้าและคอเปลี่ยนเป็นสีแดง

จ้าวจือหย่าถามที่ข้างหูของฉินเหยียนว่า

"ท่านอ๋องเพคะ หากยังทะเลาะกันต่อไปเช่นนี้ จะไม่เกิดเรื่องขึ้นใช่ไหมเพคะ?"

ฉินเหยียนดูไม่แหย่แยแส เขายิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า

"จะเกิดอะไรขึ้นได้เล่า นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้มีศึกษาเล่าเรียนทั้งสองคนชี้หน้าด่าทอกัน เรื่องใหม่ๆเช่นนี้ยังจะไม่รีบดูอีก จะคิดมากทำไม"

แม้จ้าวจือหย่าจะไม่รู้ว่าฉินเหยียนมีแผนการอะไร แต่ในเมื่อเขาบอกว่าไม่เป็นไรก็คงไม่เป็นไร นอกจากนี้นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นไท่ฟู่เสียกิริยาเช่นนี้ ดูเหมือนว่าอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าวที่มีฝีปากกล้าคงจะมิใช่เพียงคำเล่าลือ

"เจ้า ลดความหยิ่งยโสให้น้อยลงสักหน่อย ทหารของอาณาจักรฉินของพวกเราสามารถทำลายกองทัพของเจ้าได้ครั้งหนึ่ง ก็ย่อมมีครั้งที่สอง!"

"ไอ้เฒ่าชรา ฝันไปเถอะ หากสู้กันอีกครั้ง แม่ทัพของอาณาจักรจ้าวของข้าจะต้องสังหารพวกเจ้าหมดไม่เหลือ!"

ทั้งสองต่างก็ไม่ลดราวาศอกและโกรธมากจนหายใจไม่ออก แล้วความเร็วในการต่อล้อต่อเถียงกันก็ชะลอลง หากมิใช่เพราะยังคำนึงถึงภาพลักษณ์ของอาณาจักรของตนแล้วล่ะก็พวกเขาจะต้องต่อสู้กันอย่างแน่นอน

ในเวลานี้มีทหารมารายงานและกระซิบที่ข้างหูของฉินเหยียนว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์