ทูตอาณาจักรจ้าวมีสีหน้าและท่าทางน่าเกลียดกันทุกคน ชี้นิ้วไปที่ผู้เล่นฝั่งอาณาจักรจ้าวในสนามและมองด้วยสายตาดูถูก
“ก็แค่พวกหมูโง่ๆ แม้แต่หมูยังดีกว่าพวกเจ้าเลย กล้าทำให้อาณาจักรจ้าวต้องเสียหน้า!”
“เจ้าปล่อยให้อาณาจักรฉินทำคะแนนตีเสมอได้อย่างไร เล่นได้แย่มาก!”
“ไร้ประโยชน์สิ้นดี สงครามก็แพ้ หากการแข่งขันชู่จวียังแพ้อีก เจ้าทำให้อาณาจักรจ้าวต้องใช้ชีวิตอยู่บนความอับอายไปตลอด!”
กลุ่มทูตอาณาจักรจ้าวบนกำแพงเมืองที่สวมชุดสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบ แต่พวกเขากลับพูดจาไม่น่าฟังออกมา
ในสนามผู้เล่นฝั่งอาณาจักรจ้าวต่างพยายามกันอย่างเต็มที่ แต่ละคนหน้าตามอมแมม เหงื่อเต็มไปทั่วร่าง หายใจหอบ ซึ่งแตกต่างกับคนที่อยู่บนกำแพงเมืองอย่างสิ้นเชิง
หลังจากเสียแต้มไปเมื่อครู่ ในใจของผู้เล่นอาณาจักรจ้าวต่างรู้สึกเจ็บปวดใจมากพอแล้ว กลัวถูกกลุ่มทูตอาณาจักรจ้าวตำหนิอีก หัวใจของพวกเขายิ่งขมขื่นมากขึ้น คนพวกนี้ได้แต่ยืนดูอยู่ด้านบน ไม่สนใจความรู้สึกของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่สนใจว่าตนจะชนะหรือแพ้ก็เท่านั้น
อาณาจักรฉินที่ชนะในแต้มนี้ ไท่ฟู่ยืดตัวตรงขึ้นทันที ลูบเคราของเขาแล้วพูดอย่างภูมิใจว่า
“เจ้าจ้าว นี่สิถึงเรียกว่าทหารที่อวดเก่งย่อมพ่ายแพ้ เจ้ามันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน ฮ่าๆๆ!”
สีหน้าของจ้าวฉี่หมิงเปลี่ยนไปในทันที สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธจนสามารถพ่นไฟออกมาได้
“ภูมิใจอะไรขนาดนั้น ตอนนี้ก็แค่เสมอกันก็เท่านั้น ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเสียหน่อย!”
ฉินเหยียนที่ยังไม่สาแก่ใจพูดออกมาว่า
“การแข่งขันชู่จวีในครั้งนี้น่าตื่นเต้นเสียจริง ใจข้ายังเต้นไม่หยุดเลย! พูดได้เลยว่าฝั่งอาณาจักรจ้าวแม้จะพ่ายแพ้แต่ก็ยังสง่างาม!”
ไท่ฟู่ส่ายหัวและพูดปัดอย่างติดตลกว่า
“แพ้ก็คือแพ้ สง่างามตรงไหนกัน! การแข่งขันนี้ก็เหมือนกับสงคราม มองแค่ผลลัพธ์ก็เท่านั้น หากผลลัพธ์คือไม่ชนะ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์!”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา สีหน้าของจ้าวฉี่หมิงยิ่งโมโหมากขึ้น เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ทหารของอาณาจักรจ้าวในสนามต่างมองหารอยแตกบนพื้น คิดหวังว่าจะเอาหน้าแทรกลงไปได้ พวกเขาสะอายใจและไร้ซึ่งขวัญกำลังใจ
ฉินเหยียนเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย จึงให้กำลังใจว่า
“เมื่อพิจารณารอบด้านแล้วทักษะการเล่นของพวกเขานั่นยอดเยี่ยม ความฮึกเหิมของพวกเขาก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน แม้ว่าจะแพ้ ผู้เล่นฝั่งอาณาจักรจ้าวยังไม่ท้อแท้ จิตวิญญาณของเขาไม่มีคำว่ายอมแพ้ ยังพอมีเวลา เช่นนั้นเรามาทำให้สุดความสามารถกันเถอะ!”
คำพูดเหล่านี้ถือเป็นกำลังใจที่ดีให้กับผู้เล่นฝั่งอาณาจักรจ้าว ยืนดูการแข่งขันจากกำแพงสูงเหมือนกัน แต่ทำไมถึงมีช่องว่างระหว่างกันมากถึงขนาดนี้
ตอนที่ผิดหวัง แต่กลับได้รับกำลังใจดีๆ เช่นนี้ เป็นสิ่งที่ต้องขอบคุณ ผู้เล่นฝั่งอาณาจักรจ้าวมองไปที่ฉินเหยียนด้วยความเคารพ
ไท่ฟู่เคาะลิ้นแล้วพูดเสียงเย็นว่า
“เมื่อครู่ไม่รู้ว่าผู้ใดคุยโวโอ้อวด แต่แล้วผลเป็นอย่างไรล่ะ ยกหินขึ้นมาหล่นทับเท้าตัวเองแท้ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...