องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 158

อีกด้านหนึ่ง

หลิวเชียนเชียนและเหล่าชาวนาและช่างฝีมือพาจ้าวจีเอ๋อร์ที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวกลับมาที่เวิ่งเฉิงแล้ว เธอก็รีบมาเข้าพบฉินเหยียนที่กำแพงเมืองเพื่อรายงานสถานการณ์ โดยไม่เสียเวลาเลยแม้แต่น้อย

เมื่อจ้าวฉี่หมิงเห็นองค์หญิงสามถูกพาตัวกลับมาแล้ว หัวใจของเขาก็เต้นรัว แล้วเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ

“หะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”

ตามแผนแล้ว ครั้งนี้คณะทูตอาณาจักรจ้าวน่าจะพาตัวองค์หญิงสามหนีออกจากด่านถงกวานแล้วสิ แล้วเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

หลิวเชียนเชียนย่อตัวทำความเคารพฉินเหยียนแล้วพูดว่า “รายงานเพคะท่านอ๋อง ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านได้ตรัสเอาไว้เพคะ กองทัพอาณาจักรจ้าวรุกล้ำมายังชายแดน ระเบิดที่ซ่อนไว้ในหุบเขาซวงจื่อได้ทำประโยชน์ครั้งใหญ่เพคะ”

ฉินเหยียนคาดไว้แต่แรกแล้วจึงไม่ได้ถามอะไรมาก แต่กลับมองไปยังจ้าวจีเอ๋อร์ที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“เกิดอะไรขึ้นกับนาง เหตุใดหน้าตาจึงมอมแมมเช่นนี้?”

หลิวเชียนเชียนเหลือบมองจ้าวจีเอ๋อร์ “ขณะที่ถอยกลับมาเราเห็นหุบเขาด้านหน้าพังทลายลงเพคะ นางคงตกใจกับระเบิดฟ้าคำรณเพคะ”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วจ้าวจือหย่าก็ขมวดคิ้วแน่น นางรู้แล้วว่าเป็นเพราะคณะทูตอาณาจักรจ้าวอยากลักพาตัวจ้าวจีเอ๋อร์หลบหนีขณะเกิดความวุ่นวาย “องค์ชายเพคะ จ้าวจีเอ๋อร์คิดหนีเพคะ”

ฉินเหยียนขมวดคิ้ว “เจ้าคิดจะหนีงั้นรึ เพราะเหตุใด ข้าไม่ดีกับเจ้างั้นรึ?”

ไท่ฟู่ตัวป่วนรู้สึกตกใจ หากองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวหนีกลับอาณาจักรได้จริงๆ แล้วอาณาจักรฉินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้ ยังไม่ทันที่ฉินเหยียนจะพูดจบ ไท่ฟู่รีบตะโกนแทรกขึ้นแทนอย่างเดือดดาลว่า

“เสียแรงที่อาณาจักรฉินของเราต้อนรับอย่างดี ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าอาณาจักรจ้าวจะจิตใจอำมหิตมากถึงเพียงนี้ ทหาร! เอาตัวไปคุมขังให้หมด หลังสงครามจบแล้วตัดศีรษะต่อหน้าทุกคนพร้อมกันให้หมด!”

จ้าวฉี่หมิงพูดเสียงเย็นชาว่า “หึ พวกอาณาจักรฉินตระบัดสัตย์คำพูด ไม่น่าเชื่อถือ ปฏิบัติต่อองค์หญิงสามของเราเช่นนี้ พวกเจ้าต้องถูกสวรรค์ลงทัณฑ์แน่!”

ไท่ฟู่เดือดดาลอย่างมาก เขาชักดาบติดตัวของทหารหัวกะทิที่อยู่ข้างๆแล้วชี้ไปยังจ้าวฉี่หมิงพร้อมพูดว่า

“เจ้าคนเจ้าเล่ห์ที่เอาแต่กล่าวไร้สาระ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้แล้วยังบังอ่านกล่าวเช่นนี้อีกนะ ข้าจะฟันเจ้าเดี๋ยวนี้!”

จ้าวฉี่หมิงไม่คำนึงถึงความตาย เขาไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย แผนการในครั้งนี้ล้มเหลวแล้ว ไม่เพียงแต่จะกู้ด่านถงกวานกลับมาไม่ได้ แถมเชลยศึกและทหารในเมืองต่างก็ได้ทรยศกันหมด ช่วยองค์หญิงสามไว้ไม่ได้อีก ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดมันก็เท่านี้

เขาเป็นถึงอัครเสนาบดี ก่อนออกเดินทางได้ให้คํามั่นสัญญาโดยการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรตามกฎทหาร บัดนี้กลับพ่ายแพ้หมดรูป แล้วจะมีหน้ามีชีวิตต่อไปได้อย่างไร เขาตะโกนเสียงดังว่า

จากนั้นก็ได้โบกมือให้เหล่าทหารหัวกะทิ “พาตัวอัครเสนาบดีลงไป ให้กินให้ดื่มเลี้ยงดูเอาไว้ อย่างไรก็เป็นถึงอัครเสนาบดีนี่นะ อย่าทำให้รู้สึกว่าเราต้อนรับไม่รอบคอบล่ะ”

ทหารหัวกะทิคุมตัวจ้าวฉี่หมิงออกไป เขาเหมือนหมูที่รอวันถูกเชือด ตะโกนขัดขืนไม่หยุด “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ ฆ่าข้า......”

จนกระทั่งจ้าวฉี่หมิงถูกทหารหัวกะทิพาตัวออกไปจากสายตาแล้ว เสียงตะโกนร้องอย่างขีดสุดของเขาจึงจะค่อยๆหายไปด้วย

ฉินเหยียนสั่งให้เชลยศึกอาณาจักรจ้าวจำนวนสี่หมื่นนายกลับไปยังค่ายเชลยแล้ว ก็ได้หันไปมองจ้าวจีเอ๋อร์ที่ไม่พูดไม่จา เขายื่นมือออกไปจับคางของนางแล้วพูดว่า “เป็นคนของข้าแล้วแท้ๆ เหตุใดจึงยังไม่รู้จักอยู่อย่างสงบอีก?”

จากนั้นก็โน้มตัวไปใกล้ใบหูของจ้าวจีเอ๋อร์แล้วกระซิบว่า “ตกมาอยู่เงื้อมของข้าแล้ว เจ้ายอมรับชะตาชีวิตเสียเถอะ”

คำพูดของฉินเหยียนราวกับมีพลังเวทมนตร์ มันดังก้องอยู่ในหัวของจ้าวจีเอ๋อร์ไม่หยุด นางค่อยๆได้สติกลับมาแล้วมองฉินเหยียนอย่างผวา สุดท้ายหนีไม่พ้นเงื้อมมือของเขาจริงๆ น้ำตาที่ไหลอย่างไม่รู้สาเหตุไหลลงบนใบหน้าของนาง นางยอมรับชะตาแล้ว

ฉินเหยียนยืนขึ้นแล้วสั่งหลิวเชียนเชียนว่า “องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวได้รับความตื่นตกใจ เจ้าช่วยพานางกลับไปชำระกายแล้วดูแลทีนะ”

หลิวเชียนเชียนพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วย่อตัวพร้อมพูดว่า “เพคะ”

เมื่อทั้งคู่เดินออกไปแล้ว หน่วยสอดแนมที่ยืนรักษาการณ์รีบมารายงานว่า “รายงานพ่ะย่ะค่ะอ๋องเหยียน ทหารที่อยู่แนวหน้าส่งข่าวมาว่าภูเขาถล่มทับทหารอาณาจักรจ้าวล้มตายกันไปมากมาย กองทหารที่พ่ายแพ้ที่เหลืออยู่กำลังอ้อมมายังด่านถงกวานพ่ะย่ะค่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์