องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 159

ใบหน้าของฉินเหยียนไม่มีความลนลานเลย กลับพูดอย่างนิ่งเฉยว่า “รู้แล้วล่ะ หลายวันมานี้พวกเจ้าเหนื่อยหน่อยนะ บอกกับเหล่าสหายว่าคืนนี้มีงานเลี้ยงฉลองชัยชนะ ให้ทุกคนมากินดื่มกันเต็มที่”

ทหารรักษาการณ์กะพริบตาปริบๆ แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเลย แต่อ๋องเหยียนนำทัพทำสงครามและได้รับชัยชนะอย่างไม่คาดคิดมาหลายต่อหลายครั้ง แน่นอนว่าเขาจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของอ๋องเหยียนอย่างไม่มีเงื่อนไข ทหารรักษาการณ์ประสานมือคารวะแล้วรีบไปกระจายคำสั่งทันที

แต่ไท่ฟู่กลับไม่ได้รู้สึกสงบ เขาพูดอย่างร้อนรนว่า “องค์ชายสิบสี่ ข้าคงต้องพูด ว่าอาณาจักรจ้าวยังมีกองกำลังเหลืออยู่ เราจะไม่ฉวยโอกาสนี้เพื่อจับกุมศัตรูให้หมดรึพ่ะย่ะค่ะ?”

องค์ชายใหญ่ฉินชงเองก็พูดขึ้นว่า “นั่นสิน้องสิบสี่ กองกำลังสองอาณาจักรทำสงครามกันจะประมาทไม่ได้ เพื่อป้องกันการโจมตีโต้กลับของอาณาจักรจ้าว เรารีบเตรียมความพร้อมกันจะดีกว่านะ”

ฉินเหยียนเดินไปโอบไหล่ขององค์ชายใหญ่แล้วพูดเปลี่ยนประเด็น “ตอนนี้มันยังอยู่ในขอบเขตการควบคุมของข้าอยู่ เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เองน่า วันนี้เราได้รับชัยชนะอีกแล้วนะ ต้องฉลองกันสักหน่อย คืนนี้พวกเราพี่น้องไม่เมาไม่เลิกนะ!”

เมื่อสิ้นเสียงก็ดึงองค์ชายเจ็ดฉินอวี่เดินจากไปด้วย ปล่อยให้ไท่ฟู่ยืนงงอยู่กับที่คนเดียว ไท่ฟู่หันไปบ่นกับจ้าวจือหย่าว่า

“นี่! เจ้าคิดว่านี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แนวหน้ากำลังทำสงครามแต่เหล่าองค์ชายกลับรวมตัวกันกินดื่ม จะเหมาะสมได้อย่างไร!”

จ้าวจือหย่ารู้ว่าฉินเหยียนไม่เคยทำอะไรแบบปกติ ไม่รู้ว่าครั้งนี้คิดแผนบ้าบออะไรออกมาอีก จะเตรียมรับมือกับกองทัพอาณาจักรจ้าวที่ได้รับความพ่ายแพ้ไปยังไง

“อย่าร้อนใจไปเลยท่านไท่ฟู่ องค์ชายสิบสี่คือของขวัญของมวลมนุษย์ ท่านเองก็ไม่เคยเห็นวิชาอสนีบาต ข้าคิดว่าองค์ชายคงมีแผนอยู่แล้ว ท่านเองก็เหนื่อยจากการเดินทางมา และงานเลี้ยงในวันนี้ก็เตรียมไว้เพื่อต้อนรับท่านเป็นพิเศษ เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”

เมื่อนางพูดดังนั้นก็ถือว่าช่วยกู้หน้าของไท่ฟู่คืนมาได้บ้าง

ไท่ฟู่รีบวางมาดแล้วใช้มือไขว้หลัง “หึ นำทางไป!” แล้วเขาก็เดินตามหลังฉินเหยียนไปอย่างรวดเร็ว

ฉินเหยียนเดินไปด้านหน้าสุดของขบวนอย่างรวดเร็ว จ้าวจือหย่าเองก็รีบตามมาและพูดโน้มน้าวอย่างลับๆล่อๆว่า

“องค์ชายเพคะ มีแผนอย่างไรช่วยบอกข้าได้ไหมเพคะ?”

ฉินเหยียนสีหน้ามึนงง “แผนรึ แผนอะไร?”

“ก็แผนที่จะต่อกรกับกองกำลังที่เหลือของอาณาจักรจ้าวไงเพคะ”

ฉินเหยียนหัวเราะแล้วใช้นิ้วมือแตะคางของจ้าวจือหย่าแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นาง ข้าใช้ความพยายามมากมายในการสร้างเวิ่งเฉิงขึ้น มันต้องได้ใช้ประโยชน์บ้างสิ อย่าร้อนใจไปเลย ค่อยๆดูไปเถอะ ตอนนี้ไปเตรียมงานเลี้ยงก่อน ข้าจะตามไปภายหลัง”

เมื่อพูดจบแล้วเขาเปิดเต็นท์แล้วเดินเข้าไป

จ้าวจือหย่าไม่ได้รับคำตอบจึงเดินหนีไปอย่างจนปัญญา และไปเตรียมงานเลี้ยงตามที่ฉินเหยียนสั่งมา

......

ภายในเต็นท์

เมื่อจ้าวจีเอ๋อร์ถูกพาตัวกลับมาแล้ว หลิวเชียนเชียนก็ได้ให้ไส้ศึกหญิงอาณาจักรจ้าวตักน้ำอาบมาให้จ้าวจีเอ๋อร์ที่มอมแมมชำระกาย

อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่เต็มไปด้วยน้ำสะอาด และจ้าวจีเอ๋อร์ที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็อยู่ด้านหลังฉากอาบน้ำ หลิวเชียนเชียนช่วยถอดชุดให้นางและพูดโน้มน้าวไปด้วยว่า

“ชีวิตของเจ้าดีมากเลยจริงๆ ข้ารู้สึกอิจฉาจริงๆเจ้าที่ได้รับความโปรดปรานจากองค์ชายสิบสี่ แต่เจ้ากลับคิดหนี เฮ้อ”

ฉินเหยียนหยิบผ้าเปียกขึ้นมาแล้วยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าของจ้าวจีเอ๋อร์ นางรีบเบื้อนหน้าหนีแล้วถอยหลังอย่างลนลาน

“อย่าแตะต้องข้านะ”

ฉินเหยียนขมวดคิ้ว “เป็นผู้หญิงของข้าแล้วแท้ๆ ข้าเคยเห็นร่างกายทุกส่วนของเจ้าแล้ว มีอะไรให้อายอีกงั้นรึ”

“เจ้า ไร้ยางอายจริงๆ!”

ฉินเหยียนโยนผ้าเปียกลงกับพื้น “หนีไม่สำเร็จ งั้นก็ยอมรับการลงทัณฑ์จากข้าเสียเถอะ”

“เจ้าจะทำอะไร?” จ้าวจีเอ๋อร์จนมุม

“เจ้าคิดว่าไงละ”

“ไม่นะ......”

เมื่อมีเสียงดัง“แคว่ก”แล้ว ผ้ารัดหน้าท้องผืนสุดท้ายที่อยู่บนร่างกายก็ได้ถูกกระชากออกไป

“เจ้าคนตัณหากลับ เจ้ามันร้าย......”

ดอกไม้เบิกบาน......จินตนาการด้วยตนเอง......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์