เพียงแต่สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คือคำพูดต่อไปของฉินเหยียน
"ทุกคนจงฟัง โอรสสวรรค์ทำผิดมีโทษเท่าสามัญชน ผู้ที่สร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผลและผู้ที่ดูถูกผู้อื่นจะต้องถูกโบยสามสิบไม้!"
"โบยสามสิบไม้?"
เมื่อผู้ที่ก่อปัญหาได้ยินก็ตกใจเป็นอย่างมาก
"อ๋องเหยียน โปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว ขออ๋องเหยียนโปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดพะยะค่ะ!"
ฉินเหยียนกล่าวอย่างเข้มงวดและชอบธรรมว่า
"หากไม่มีกฎเกณฑ์ก็ไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำได้ หากไม่สั่งสอนเจ้าสักหน่อย เจ้าก็จะไม่เข้าใจถึงหลักการที่ว่ามนุษย์ล้วนเท่าเทียมกัน ใครก็ได้ ลากไปโบย!"
"พะยะค่ะ!"
ทหารชั้นยอดก้าวไปข้างหน้าและลากผู้สร้างปัญหาออกไป
เหล่านักโทษของอาณาจักรจ้าวหลั่งน้ำตา และชื่นชมฉินเหยียนจากใจอย่างสมบูรณ์
ชาวประชาก็เช่นเดียวกัน มีเพียงการติดตามเจ้านายเช่นนี้เท่านั้นจึงจะได้รับความเคารพและมีชีวิตที่ดี
เหล่าชาวประชาต่างคุกเข่าลงทั้งสองข้างและก้มศีรษะลงกับพื้นพลางกล่าวว่า
"อ๋องเหยียนทรงพระปรีชา!"
เหล่านักโทษของอาณาจักรจ้าวต่างคุกเข่าลงเพื่อแสดงความจงรักภักดี
"ข้าน้อยเต็มใจรับใช้อ๋องเหยียน จะบุกน้ำลุยไฟสู้ไม่ถอยพะยะค่ะ!"
ฉินเหยียนโน้มตัวลงและประคองเหล่านักโทษให้ลุกขึ้น
"ไม่ต้องมากพิธี ทุกคนลุกขึ้นเถิด ไม่ต้องคุกเข่าให้ข้า ข้ามิได้สูงส่งไปกว่าพวกเจ้า"
"พวกเจ้าออกแรง ส่วนข้าออกเงิน ทุกคนล้วนมีความสัมพันธ์ในการงานอย่างเท่าเทียมกัน ลุกขึ้นเถิด!"
นักโทษของอาณาจักรจ้าวยืนขึ้นด้วยความซาบซึ้ง หัวใจของพวกเขาอบอุ่นเป็นอย่างมาก พวกเขารู้สึกขอบคุณและเชื่อฟังฉินเหยียนจากก้นบึ้งของหัวใจ
ฉินเหยียนกวาดตามองฝูงชนและกล่าวต่อว่า
"จากนี้ไป ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่จะไม่มีการแบ่งแยกฉินจ้าว"
"ความสามัคคีของเจตจำนงเป็นฐานที่มั่นที่เข้มแข็ง พวกเรามีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เมื่อถึงเวลาพวกเจ้าสามารถรับภรรยาและลูกๆมาอยู่ด้วยกันได้"
"นอกจากนี้หลังจากสร้างเมืองแล้วข้าจะเลือกสถานที่ที่ดีเพื่อใช้เป็นสถานศึกษา"
"และเชิญเหล่าอาจารย์มาสอนหนังสือ เพื่อที่ลูกๆของพวกเจ้าจะอ่านออกเขียนได้ เมื่อพวกเขาโตขึ้นจะสามารถสอบเข้ารับราชการเป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่วงศ์ตระกูล!"
คำพูดนี้ทำให้เหล่านักโทษของอาณาจักรจ้าวยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้น
เหล่านักโทษของอาณาจักรจ้าวคิดว่าการที่ฉินเหยียนสามารถปล่อยพวกเขานั้นนับว่าเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงแล้ว ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะยังได้รับอนุญาตให้รับภรรยาและลูกๆมาอยู่ที่นี่ หากครอบครัวสามารถมีชีวิตอยู่ภายใต้การนำของฮ่องเต้ เช่นนี้ พวกเขาจะต้องมีความสุขมากกว่าอยู่ในอาณาจักรจ้าวอย่างแน่นอน
แขนที่ถือจอบอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารอคอยการที่จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวอีกครั้ง
หลังจากเหล่าชาวประชาแยกย้ายกันไปทุกคนก็มีกำลังใจมากยิ่งขึ้นที่จะทำงาน
จ้าวจือหย่าที่ยืนอยู่ข้างๆฉินเหยียนน้ำตาไหล มือที่ถือพู่กันเพื่อจดบันทึกอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินอ๋องเหยียนกล่าวเช่นนี้ แต่เมื่อได้ยินอีกครั้งในใจยังคงรู้สึกสั่นไหว
ฉินเหยียนทักทายผู้คนโดยไม่มีท่าทีเสแสร้งแม้แต่น้อย หลังจากให้ทุกคนแนกย้ายไปแล้ว เขาจึงมองไปที่องค์หญิงสามและหยางจิ่นซิ่วที่อยู่ตรงมุม
จ้าวจีเอ๋อร์ต่อสู้กับฉินเหยียนมาเป็นเวลานาน และเวลานี้นางก็ชื่นชมฉินเหยียนจากใจและไม่คิดจะต่อสู้อีก
แต่หยางจิ่นซิ่วนั้นแตกต่างออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่หู่นิวผู้นี้ได้ประจักษ์ถึงการกระทำของฉินเหยียนและประทับใจในเสน่ห์ของเขา เพียงแต่มิได้พูดออกมา
ไม่ว่าจะอย่างไรมิมีผู้ใดสามารถเทียบกับฉินเหยียนได้ไม่ว่าจะเป็นขุนนางระดับสูงหรือผู้สูงศักดิ์ก็ตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...