ฮ่องเต้ฉินจ้องใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของจ้าวชี่ว์ปิ้งแล้วหัวเราะเสียงดังพร้อมพูดว่า
“หากอาณาจักรจ้าวคิดจะระดมกำลังมาโจมตีอาณาจักรฉินจริง แล้วจะส่งเจ้ามาเพื่อเจรจาทำไมกัน?”
สีหน้าของจ้าวชี่ว์ปิ้งแย่ยิ่งขึ้น ฮ่องเต้ฉินพูดซ้ำเติมเขาต่อว่า
“ใช่ว่าพวกเจ้าไม่อยากยึดด่านถงกวานคืน แต่พวกเจ้าสู้ไม่ไหวจึงได้ใช้แผนนี้ อยากจะไถ่คืนด้วยเงิน!”
จ้าวชี่ว์ปิ้งถูกเปิดเผย เขาพูดด้วยใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวว่า
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าเองก็ขอเตือนฮ่องเต้ฉินไว้ ว่าใต้หล้านี้จะยังมีที่ยืนของอาณาจักรจ้าวของข้า สุดท้ายแล้วชัยชนะจะตกเป็นของใครมันก็ไม่แน่หรอกนะ!”
ฮ่องเต้ฉินเผยความดุร้ายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าจะคอยดู!”
การเดินทางมาอาณาจักรฉินในครั้งนี้ ฮ่องเต้ฉินไม่ไว้หน้าจ้าวชี่ว์ปิ้งเลย สุดท้ายก็ไม่ได้ด่านถงกวานคืน ไถ่คืนได้เพียงจ้าวฉี่หมิงคนเดียว ในระหว่างทางกลับอาณาจักรจ้าว อัครเสนาบดีจ้าวฉี่หมิงและจ้าวชี่ว์ปิ้งนั่งอยู่บนรถม้าเดียวกัน ทั้งสองต่างพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า
“บัดนี้อาณาจักรฉินโอหังยิ่งนัก ข้าจะคอยดูว่าพวกมันจะได้ใจถึงเมื่อไร รออาณาจักรจ้าวของข้าพักฟื้นสักหน่อย จะฆ่าพวกมันไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก”
“เมื่อกลับไปแล้วเราจะต้องอย่าทำตัวเด่นเดี๋ยวจะเป็นภัย ในยามที่อาณาจักรฉินเกิดความโกลาหลขึ้น เราจะออกจู่โจมครั้งเดียวในจุดตาย ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ด่านถงกวานเลย ต่อให้เป็นเมืองหลวงของฮ่องเต้ฉินนั่นก็จะแย่งมาด้วย!”
จ้าวชี่ว์ปิ้งรู้สึกสงสัยจึงถามขึ้นว่า “อาณาจักรฉินจะเกิดความโกลาหลรึ? อัครเสนาบดีจ้าวรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”
จ้าวฉี่หมิงยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า “เจ้าไม่เข้าใจ อาณาจักรฉินยังไม่มีรัชทายาทแต่กลับมีองค์ชายมากมาย ทุกคนล้วนอยากแย่งชิงบัลลังก์ทั้งนั้น ข้าเพียงแค่ใส่ไฟนิดเดียว แต่ละพรรคของอาณาจักรฉินจะต้องล้างสมองกันเองและเกิดความขัดแย้งภายในแน่นอน ญาติดีกันสิแปลก”
จ้าวชี่ว์ปิ้งพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ยังไม่มีการเลือกรัชทายาท จะต้องเกิดความโกลาหลแน่นอน อาณาจักรฉินจะล่มสลายเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว”
......
ตำหนักหย่างซิน
แพร้ง เสียงแก้วชาสีขาวถูกเขวี้ยงจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
ฮ่องเต้ฉินตะคอกว่า “เจ้าลูกเนรคุณ!”
หัวหน้ากิจการพระราชวังคุกเข่าตัวสั่นอยู่กับพื้น “ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ! เดี๋ยวจะประชวรเอาได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินเดินไปเดินมาอย่างเดือดดาล สีหน้าของเขาแดงก่ำ ชี้ไปยังสาส์นแต่ละฉบับที่อยู่บนโต๊ะแล้วด่าอย่างโกรธเกรี้ยว
“เจ้าดูว่าเนื้อความในสาส์นเขียนอะไรไว้ ส่งจดหมายสงครามมาขอเสบียงกับข้าทุกวัน! ข้าแทบจะขนท้องพระคลังให้จนหมดแล้วแต่เขายังไม่พอใจอีก! นี่เขาคิดจะทำอะไร! คิดจะก่อกบฏรึไง!”
หัวหน้ากิจการพระราชวังกังวลความปลอดภัยของฮ่องเต้ฉิน จึงได้ฝืนโน้มน้าวว่า
“ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ บางทีการต่อสู้ในแนวหน้าอาจตึงเครียด เสบียงใกล้จะหมดแล้วก็เป็นได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินเตะกระถางธูปในตำหนักหย่างซิน ความเดือดดาลในใจของเขาไม่มีที่ระบาย จึงได้ตะโกนว่า
“ตึงเครียดอะไรกัน! ก็แค่ทำตามอำเภอใจไร้สาระเพราะสร้างความดีความชอบได้เพียงน้อยนิด ได้ใจเพราะได้รับความโปรดปราน! วันๆเอาแต่เร่งขอเสบียง คิดอยากให้ข้ายกบัลลังก์ให้เขาตอนนี้เลยรึไง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...