พระราชวังอาณาจักรฉิน
ขณะที่ไท่ฟู่และสมาชิกกลุ่มหนึ่งกำลังสังสรรค์กันในพระตำหนักของพระมารดาองค์ชายใหญ่ เพื่อร่วมกันวางแผนลับ หารือเรื่องสำคัญ
“หวงเฟย จนถึงตอนนี้ยังมองสถานการณืไม่ออกอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
สีหน้าของพระมารดาองค์ชายใหญ่ต่างแสดงความกลัว
“ข้าเป็นแค่พระสนมในวังหลัง เรื่องในราชสำนัก ข้าไม่กล้าพูดอะไรมาก”
ไท่ฟู่ตะคอกอย่างเย็นชา
“เฮอะ พูดให้ตนเองไร้ความผิด!”
“อย่าหาว่าข้าไม่เตือน ท่านเองก็ได้เห็นกับตาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับองค์ชายเจ็ดและพระมารดาของเขา”
“หากองค์ชายใหญ่เองสมรู้ร่วมคิดกับองค์ชายสิบสี่ อย่าโทษที่ฝ่าบาทใจร้าย!”
สิ่งที่ไท่ฟู่พูดออกมานั้นช่างเหมาะเจาะ ในช่วงนี้ฮ่องเต้ฉินเริ่มไม่พอใจหลายเรื่องและสับสนเล็กน้อย เขาละทิ้งภรรยาและลูกๆ ทำให้ทัง้ราชสำนักตื่นตระหนก แม้แต่ในวังหลังเองก็หวาดกลัวด้วยเช่นกัน
สาเหตุมาจากอ๋องเหยียนที่อยู่เขตชายแดน ราชสำนักรายงานว่าประชาชนต่างรักและเคารพฉินเหยียน โดยอ้างว่าเขาได้รับความเคารพเปรียบประหนึ่งฮ่องเต้ และฮ่องเต้ที่ยิ่งใหญ่
การสนับสนุนจากประชาชนคือสิ่งสำคัญ แต่ทำให้เกิดความเกลียดชังได้เช่นกัน
พระมารดาขององค์ชายใหญ่เป็นพระสนมคนโปรดของฮ่องเต้ฉิน ดังนั้นนางจึงเข้าใจความรู้สึกของฮ่องเต้ฉินเป็นอย่างมาก
การที่สมรู้ร่วมคิดกับอ๋องเหยียน องค์ชายเจ็ดถูกทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง และพระมารดาของเขาและพระญาติต่างตกที่นั่งลำบากเช่นกัน
ในวันที่พระมารดาองค์ชายเจ็ดถูกส่งตัวไปยังตำหนักเย็น นางได้เห็นทุกกระบวนการแล้ว พระสนมคนหนึ่ง ถูกขันทีเจ็ดถึงแปดคนลากตัวไปยังตำหนักเย็น เสียงร้องของนางที่ดังเหมือนหมูถูกเชือดดังก้องไปทั่วเมืองหลวง
ตำหนักเย็นนั้นเป็นที่ขังคน หากเข้าไปแล้วก็ไม่อาจออกมาได้อีก ความตั้งใจที่ทำงานหนักมาหลายปีกลับต้องสูญเปล่า!
พระมารดาองค์ชายใหญ่หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบด้วยมืออันสั่นเทา นางพยายามข่มความกลัวในใจ และพยายามคิดมาตรการตอบโต้อย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้ ต้องเรียกชงเอ๋อร์กลับมาทันที!”
“นำสมบัติทั้งสี่ในห้องหนังสือมาเดี๋ยวนี้! ข้าจะเขียนจดหมายเรียกให้องค์ชายใหญ่กลับมา บอกว่าข้าป่วยหนัก!”
...
เมืองใหม่
จวนเจ้าเมือง
วันนี้องค์ชายใหญ่มายังจวนเจ้าเมืองเพื่อแนะนำฉินเหยียน
“น้องสิบสี่ ในฐานะที่ข้าเป็นพี่ชายเจ้า ข้าขอพูดอะไรกับเจ้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่ หลายเรื่องแล้วที่เจ้าเมินเฉย ก็เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว เจ้าขาดสติถึงขนาดนี้ได้อย่างไร”
“พี่ใหญ่ วันนี้ขอดื่มกับท่านพี่เสียหน่อยได้หรือไม่? แค่แก้วเดียวก็ช่วยข้าคลายกังวลได้ ทำให้ใจของข้าคลายความทุกข์จนหมดสิ้น”
พวกเขาทั้งสองดื่มด้วยกัน จากนั้นทหารชั้นดีเข้ามารายงานตัว
“กราบทูลรายงานองค์ชายใหญ่ มีจดหมายด่วนมาจากพระมารดา ขอพระองค์ทรงอ่านเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“จดหมายจากเสด็จแม่ข้าอย่างนั้นหรือ?”
องค์ชายใหญ่วางแก้วเหล้าลง ขมวดคิ้วพลางเปิดซองจดหมาย
ทันใดนั้นสีหน้าเขาพลันมืดมนและพูดอย่างเป้ฯกังวลว่า
“เสด็จแม่ข้าป่วยหนัก ข้าต้องกลับเมืองทันที!”
ฉินเหยียนไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจอะไรมากนัก ก่อนหน้านี้ในตอนเช้าเขาได้รับข่าวแล้วว่าองค์ชายเจ็ดถูกขังในพระตำหนักของจระกูล และเขาก็เดาได้อยู่แล้วว่าองค์ชายใหญ่เองต้องถูกเรียกตัวกลับแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...