ฉินเหยียนออกคำสั่งทันที หลี่กวงและเด็กรับใช้ต่างถูกทหารชั้นดีล้อมตัวเอาไว้ กล้าทำร้ายพวกพี่น้องพวกเขา วันนี้ต้องเอาคืนอย่างสาสม!
ประตูใหญ่ของจวนเจ้าเมืองเปิดออก ในลานกว้างมีหลี่กวงและเด็กรับใช้ของเขาถูกทหารทุบตีจนต้องนอนลงกับพื้นและร้องครวญคราง
ประชาชนต่างพากันมายืนมุงตรงประตูอย่างคึกคัก ตบมือดีใจ คิดว่าพวกข้าราชสำนักที่ชอบอาศัยตำแหน่งและบารมีรังแกคนที่อ่อนแอกว่า สมควรแล้วที่ถูกลงโทษเช่นนี้ รับผลกรรมที่ตนก่อเอาไว้!
...
อีกด้านหนึ่ง
พระราชวังอาณาจักรฉิน
องค์ชายใหญ่ฉินชงเข้าเฝ้าฮ่องเต้ฉิน
“กราบทูลเสด็จพ่อ ตามที่ลูกรู้มา หลี่กวงมิใช่คนดี ยโสโอหัง ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า การที่มอบหมายหน้าที่ส่งเสบียงอาหารให้แก่เขานั้น เหรงว่าจะเป็นอันตรายต่อน้องสิบสี่พ่ะย่ะค่ะ”
“ในมือของลูกมีคนหนึ่งที่เป็นคนซื่อสัตย์ ขยัน ทำงานหนีก ลุกอยากจะให้เสด็จพ่อช่วยพิจารณา ส่งเข้าไปแทนหลี่กวงด้วยเถิดขอรับเสด็จพ่อ”
พูดจบ เขาก็โค้งคำนับพร้อมคุกเข่าลงอย่างถ่อมตัวต่อหน้าฮ่องเต้ฉิน
ฮ่องเต้ไม่ตอบ ยืนขึ้น เอามือไพล่หลัง ยืนข้างหน้าต่างและมองดูท้องฟ้า
“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าหลี่กวงเป็นคนเช่นไร?”
เมื่อองค์ชายใหญ่ฉินชงได้ยินเช่นนั้น เขารีบพูดกลับไปว่า
“ในเมื่อเสด็จพ่อทรงทราบอยู่แล้ว เหตุใดถึงยังส่งเข้าอย่างนั้นหรือ?”
ฮ่องเต้ฉินหันหลังกลับ แสดงสีหน้าไม่อาจอธิบายได้ ค่อยๆ พูดออกมาว่า
“ชงเอ๋อร์ เจ้าเองก็อยู่ในท้องพระโรง เจ้าเองก็ได้ยินในสิ่งที่ขุนนางพูด ทุกคนต่างพูดว่าเจ้าสิบสี่คิดกบฏและไม่ซื่อสัตย์ต่อข้า”
“ข้าไม่ได้ฟังความข้าเดียว ดังนั้นมันไม่สำคัญว่าข้าจะส่งใครไป สิ่งสำคัญก็คือน้องสิบสี่ของเจ้าคิดอย่างไรกับข้า”
องค์ชายใหญ่ฉินชงรู้สึกสับสนในคำอธิบายที่คลุมเครือของฮ่องเต้ฉิน เขาถามออกไปอย่างระมัดระวั
“เสด็จพ่อกำลังทดสอบน้องสิบสี่อยู่หรือว่าจงรักภักดีต่อท่านหรือไม่?”
ฮ่องเต้ฉินเองมีคำตอบในใจเอาไว้แล้ว พยักหน้า
“หลี่กวงเป็นแค่ตัวปัญหาที่ไม่ยอมใคร เขาได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญและถูกส่งตัวไปยังเขตชายแดน จะรู้ได้ว่าเจ้าสิบสี่ยังมีใจเชื่อฟังอยู่หรือไม่ดูได้จากวิธีที่เขาปฏิบัติตต่อหลี่กวง”
“หากชายคนนี้ยังสบายดี แสดงว่าเจ้าสิบสี่ยังคงเกรงกลัวข้าอยู่ และทุกอย่างจะเรียบร้อย”
“แต่ถ้าคนๆ นี้ตาย เช่นนั้นเป็นอันยืนยันได้แล้วว่าเจ้าสิบสี่มีใจเป็นอื่น เมื่อถึงเวลาไม่ต้องให้ข้าพูดอะไรมาก พวกบรรดาจ้าราชสำนักในท้องพระโรงจะไม่มีวันปล่อยเจ้าสิบสี่ไป”
ฮ่องเต้ฉินหันกลับมามององค์ชายใหญ่พร้อมกับขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ชงเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนอ่อนโยน หูเบา และเชื่อคนง่าย แม้ข้ารู้อยู่เสมอว่าเจ้าได้อุทิศตนเพื่อราชสำนักและภักดีต่อข้า”
“แต่ในฐานะองค์ชายใหญ่ของข้า คิดจะทำเรื่องใดเจ้าต้องหนักแน่นในความคิดของตัวเอง ห้ามให้คำพูดของคนอื่นมาทำให้เจ้าไขว้เขวได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...