ฮ่องเต้ฉินโกรธมากจนเป็นลม หมอหลวงทุกคนต่างมารวมตัวกันที่นี่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล ต่างยุ่งอยู่กับการวินิจฉัยและการรักษา
หลังจากที่จับชีพจรของฮ่องเต้ฉินและรอให้ฮ่องเต้ฉินได้ดื่มยาต้ม ถึงจะได้ออกมารายงานว่า
“ฝ่าบาททรงสบายดี ได้รับการรักษาแล้ว พระองค์ต้องพักผ่อนสักสองสามวัน ระหว่างนี้ทรงอย่าทำให้พระองค์ท่านต้องโมโหเลย”
บรรดาขุนนางต่างพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมๆ กัน หากฝ่าบาทยังคงสบายดี บรรดาองค์ชายจะยังคงรักกัน แต่หากพระองค์ทรงประชวรในตอนนี้ เกรงว่าบรรดาองค์ชายได้เป็นศัตรูกันแน่
องค์ชายใหญ่ฉินชงรีบเสนอขึ้นมาว่า
“ในเมื่อเสด็จพ่อต้องได้รับการพักผ่อน พวกเราพี่น้องไม่ควรรบกวนท่านในเวลานี้”
บรรดาองค์ชายคนอื่นต่างเห็นด้วย ประการแรกต้องการให้ฮ่องเต้ฉินพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ประการที่สองต้องแจ้งข่าวว่าฮ่องเต้ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงแก่คนในราชวัง พวกเขาจะได้ไม่เคร่งเครียด
แต่ไท่ฟู่กับไม่คิดเช่นนั้น เขาฉวยโอกาสใช้สถานะที่เป็นอาจารย์ของฮ่องเต้ เริ่มแพร่เรื่องนี้ออกนอกราชวัง
“องค์ชายสิบสี่ อ๋องเหยียน ไม่เชื่อฟังคำของบิดา ไม่เชื่อฟังคำของข้าในฐานะข้าราชสำนัก เราไม่อาจไว้ชีวิตคนที่คิดกบฏเช่นนี้ได้ พวกเราต้องตัดเงินและเสบียงของเขา!”
“ใช่ ไท่ฟู่พูดถูก ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของอ๋องเหยียน”
“ข้าจะรอรวบรวมรายชื่อสมาชิกเพื่อฟ้องร้ององค์ชายสิบสี่และยึดอำนาจของเขา เราจะไม่ยอมถูกเขาควบคุมอีกต่อไป!”
...
ทันทีที่องค์ชายใหญ่ ฉินชง กลับมายังตำหนักของตนเอง เขาได้รับจดหมายจากฉินเหยียน
ในจดหมายเขียนว่า
พี่ใหญ่ ข้าได้เอ่านจดหมายลับจากท่านพี่แล้ว แต่ทว่าหลี่กวงต้องตาย
หากไม่ฆ่าเขา ประชาชนจะขาดความเชื่อมั่น หากฆ่าเขา ประชาชนจะยังคงรวมเป็นหนึ่ง
ดังนั้นข้าต้องทำเช่นนี้ ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่ต้องฆ่าเขา
ข้าต้องใช้เรื่องนี้ทำให้ประชาชนได้รู้ว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม คนชั่วจะต้องได้รับโทษ
องค์ชายใหญ่ฉินชงถอนหายใจหลังจากอ่านจดหมายจบ
“น้องสิบสี่ เจ้าช่างใส่ใจประชาชนยิ่งนัก เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่อย่างข้าแล้ว ข้ารู้สึกละอายใจจริงๆ”
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือต้องหาวิธีการจัดการกับความโกรธเกรี้ยวของเสด็จพ่อ
ท้องพระโรงในวันนี้ หากไม่ใช่เพราะเสด็จพ่อโกรธจนเป็นลมหมดสติไป ข้าเกรงว่าตอนนี้คงมีคำสั่งสั่งไปยังเขตชายแดนเป็นแน่
แม้ว่าเจ้าสิบสี่จะไม่ถูกโทษประหาร แต่เขาไม่สามารถหลีกหนีความผิดไปได้อยู่ดี
ดังนั้นองค์ชายใหญ่ฉินชงรีบหยิบพู่กันขึ้นมาและเขียนจดหมายแจ้งฉินเหยียนเกี่ยวกับอาการป่วยหนักของเสด็จพ่อทันที และถามถึงวิธีการตอบโต้
...
ไม่กี่วันต่อมา
“รายงานขอรับ มีจดหมายลับจากเมืองหลวง”
หลังจากที่ฉินเหยียนได้รับจดหมายลับองค์ชายใหญ่แล้ว เขาอ่านมันอย่างละเอียด จากนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบ
จ้าวจือหย่าได้ยินเรื่องการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวงมาบ้าง จึงรีบมาหาฉินเหยียน
“องค์ชาย เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
“ข้ารู้แล้ว”
ใจของฉินเหยียนเหมือนกำลังจมน้ำ เขามองไปยังเมืองใหม่ที่ทั้งคึกคักและมีชีวิตชีวาอยู่ด้านนอกหน้าต่าง จากนนั้นกลับมาจมดิ่งในความคิดอีกครั้ง
จ้าวจือหย่าไม่รู้เหตุผล ดังนั้นจึงถามออกไปว่า
“องค์ชาย ไม่ใช่ว่าจือหย่าไม่ได้เตือนท่าน หากท่านทำเช่นนี้ รู้อยู่แล้วว่าหลี่หวงเป็นคนที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งเป็นการส่วนตัว แต่ท่านยังคงฆ่าเขา เรื่องนี้ทำให้เบื้องบนต้องขุ่นเคืองมิใช่หรือ?”
ฉินเหยียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดอย่างใจเย็น
“รู้แล้วอย่างไร อยู่ใกล้กษัตริย์ ก็เหมือนอยู่ใกล้เสือ ท่านพ่อคิดอยากจะใช้คนๆ นี้ทดสอบข้า หากข้ายอมกล้ำกลืนความโกรธ ก็เท่ากับว่าเมืองใหม่ที่ข้าสร้างขึ้นมาต้องพังทลายลง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...