องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 271

ฮ่องเต้ฉินมีใบหน้าที่หนักอึ้ง และกวาดตามองเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ทั่วทั้งราชสำนักพลางคิดอยู่ในใจว่าอำนาจที่มอบให้กับเจ้าสิบสี่นั้นมากเกินไปหรือไม่

ในตอนแรกที่มีศึกสงครามกับอาณาจักรจ้าวลูกสิบสี่ได้นำทัพและชนะศึกสงครามซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่สูญเสียทหารแม้แต่คนเดียว เขาปิติยินดีมากจึงมอบอำนาจมากมายให้เป็นรางวัลอย่างต่อเนื่อง

เวลานี้เมื่อมาคิดดูแล้วเป็นการช่วยทรราชทำเรื่องชั่วช้า ติดปีกให้เสือจริงๆ

หากทำตามคำแนะนำของเหล่าขุนนางทันทีโดยริบอำนาจทั้งหมดของเจ้าสิบสี่ หากทำอะไรเลยเถิดจนเจ้าสิบสี่ก่อกบฏแล้วจะทำอย่างไร

แต่หากไม่ริบอำนาจกลับคืนและปล่อยให้ฉินเหยียนขยายอำนาจต่อไปอย่างอิสระ ก็เกรงว่าหากคิดจะปราบปรามเขาอีกครั้งก็จะยากยิ่งขึ้นแล้ว

ในขณะที่กำลังสับสนวุ่นวายอยู่นั้นเอง องค์ชายใหญ่ฉินชงก็ประสานมือและกล่าวว่า

"ทูลเสด็จพ่อ ลูกมีเรื่องจะกราบทูลพะยะค่ะ!"

ดวงตาที่เหมือนมีดของไท่ฟู่มองไปยังองค์ชายใหญ่ทันที และถามอย่างเย็นชาว่า

"องค์ชายใหญ่ ท่านมีจุดประสงค์อันใด ท่านคิดจะแก้ตัวแทนองค์ชายสิบสี่เช่นนั้นหรือ? หรือท่านจะบอกว่าท่านเป็นปลาข้องเดียวกันกับองค์ชายสิบสี่และคิดจะกบฏ?"

องค์ชายใหญ่ฉินชงเหลือบตามองไท่ฟู่ และกล่าวตอบโต้ว่า

"ไท่ฟู่ท่านกล่าวผิดแล้ว ดังคำกล่าวที่ว่าข้าวสามารถกินไม่เลือกได้ทว่าคำพูดมิอาจกล่าวพล่อยๆได้ ความภักดีของข้าที่มีต่อราชสำนักเสด็จพ่อย่อมประจักษ์!"

ไท่ฟู่พูดไม่ออกหลังจากถูกตอบโต้ ทว่าเขายังคงจ้องมององค์ชายใหญ่ด้วยสายตาที่คมกริบ

องค์ชายใหญ่ฉินชงเพิกเฉยต่อไทยฟู่ และประสานมือกราบทูลต่อว่า

"เสด็จพ่อโปรดพิจารณา เมื่อท่านเห็นเนื้อหาของฎีกาก็จะเข้าใจจุดประสงค์ของลูกพะยะค่ะ"

ฮ่องเต้ฉินโบกมือ และหัวหน้ากิจการพระราชวังก็เข้าใจทันที เขาหยิบฎีกาจากมือขององค์ชายใหญ่ฉินชงและอ่าน

"กราบทูลเสด็จพ่อ น้องสิบสี่อาศัยว่าตนเองได้รับการโปรดปรานและความไว้วางใจจึงมีท่าทีหยิ่งยโสโอหัง กำเริบสืบสาน จะละเว้นมิได้อย่างเด็ดขาด"

"ทว่าเขามีอำนาจมากเกินไป หากคิดจะทำลายความเย่อหยิ่งของเขาให้สิ้นซากและทำให้เขายอมแพ้ จะรีบร้อนมิได้อย่างเด็ดขาด"

"ลูกเห็นว่าควรค่อยๆลดทอนอำนาจของเขา ด่านเจียยวี่เป็นป้อมปราการชายแดน อำนาจของเขาที่ด่านเจียยวี่สามารถถอนกลับได้ก่อน จากนั้นจึงจะกำจัดอำนาจอื่นๆของเขาให้เขาค่อยๆสูญเสียอำนาจ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ทั่วทั้งราชสำนักต่างก็ประหลาดใจ

แม้แต่ไท่ฟู่ก็ไม่คิดว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากขององค์ชายใหญ่ และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

คิดไม่ถึงจริงๆว่าองค์ชายใหญ่จะเป็นนกสองหัว ตีสองหน้า!

ทั้งยังซ่อนมันไว้อย่างดีจนทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าเขาและองค์ชายสิบสี่เป็นพวกเดียวกัน

ดูแล้ววันหน้าจะประมาทเขามิได้จริงๆ!

เมื่อขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ทั่วทั้งราชสำนักได้ยินฎีกาขององค์ชายใหญ่ฉินชงที่มีจุดประสงค์เพื่อลงโทษองค์ชายสิบสี่ต่างก็ประสานมือและกล่าวว่า

"องค์ชายใหญ่กล่าวได้อย่างถูกต้อง กระหม่อมเห็นด้วยพะยะค่ะ!"

ฮ่องเต้ฉิน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าบุตรชายคนโตของเขาผู้นี้จะมีไหวพริบเช่นนี้

ตามคำกล่าวขององค์ชายใหญ่ การค่อยๆริบอำนาจสามารถป้องกันการตอบโต้อย่างเด็ดขาดได้ หากทำได้อย่างเหมาะสมก็จะสามารถเรียกอำนาจของทั้งสามกองทัพคืนกลับมาได้ นับเป็นวิธีที่ดีในการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆ

ดูเหมือนว่าคำเตือนของเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนจะไม่เสียเปล่า เขาจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจและกล่าวว่า

"เช่นนั้นก็ทำตามที่ลูกของข้ากล่าว รีบร่างคำสั่งให้ยกเลิกอำนาจขององค์ชายสิบสี่ที่ด่านเจียยวี่และส่งไปยังชายแดนทันทีเพื่อถ่ายทอดพระราชโองการ!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์