เด็กๆหน้าแดงเมื่อถูกฉินเหยียนดุ และยื่นมือออกมาด้วยความอับอาย
ฉินเหยียนพับแขนเสื้อขึ้นและหยิบไม้บรรทัดขึ้นมาลงโทษด้วยตนเอง ในขณะที่ตีเขาก็สั่งสอนไปด้วย
"ต่อไปข้าไม่อยากได้ยินการเปรียบเทียบสถานะของตนเองกับผู้อื่นอีกต่อไป หากจะเทียบก็ควรจะเทียบการศึกษา เทียบว่าผู้ใดโตขึ้นไปแล้วสามารถเป็นขุนนางได้!"
เด็กๆบังฝ่ามือที่ถูกตีด้วยไม้บรรทัดจนแดง และกล่าวด้วยความอับอายว่า
"เข้าใจแล้วพะยะค่ะ"
เสียงการลงโทษที่ลานทำให้เหล่าผู้คงแก่เรียนที่กำลังพักกลางวันอยู่ออกมาดู
เมื่อเห็นว่าอ๋องเหยียนกำลังสั่งสอนเด็กๆจึงรีบไปต้อนรับ และกล่าวอย่างถ่อมตนว่า
"ไม่ทราบว่าท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ขอท่านอ๋องโปรดอภัยพะยะค่ะ"
ฉินเหยียนตีก็ตีแล้วสั่งสอนก็สั่งสอนแล้ว หลังจากให้เด็กๆแยกย้ายกันไปแล้วจึงตอบว่า
"ข้ามาที่นี่วันนี้ด้วยเหตุผลอื่น พวกท่านไปเรียกผู้เรียนที่โตแล้วและมีความสามารถในสถานศึกษามาให้หมด ข้าอยากจะทดสอบพวกเขา"
ไม่นาน
ผู้เรียนที่โตแล้วและมีความสามารถทุกคนในสถานศึกษาต่างมารวมตัวกันที่สถานศึกษา
เมื่อทุกคนมากันครบแล้ว ผู้คงแก่เรียนจึงประสานมือและกราบทูลว่า
"กราบทูลอ๋องเหยียน คนครบแล้วพะยะค่ะ"
ฉินเหยียนพยักหน้าจากนั้นจึงกล่าวว่า
"วันนี้ข้าจะออกข้อสอบหนึ่งข้อ พวกเจ้าจงวิเคราะห์อย่างรอบคอบและเขียนความเข้าใจของพวกเจ้าออกมา"
หลังจากกล่าวจบเขาก็ยกพู่กันขึ้นมาเขียนว่า
สร้างคุณค่าทางจิตวิญญาณให้กับแผ่นดิน ให้ความปลอดภัยในชีวิตแก่ประชาราษฎร์ สืบทอดและสืบสานความรู้ที่หายไปของปราชญ์ และสร้างรากฐานแห่งสันติภาพแก่ชนรุ่นหลัง
หลังจากผู้เข้าสอบอ่านแล้วจึงคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงเขียนความเข้าใจของตนเองที่มีต่อประโยคทั้งสี่นี้ลงบนกระดาษ
ในเวลานี้เอง ทหารชั้นยอดจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นด้านนอกลานแล้วเข้ามาอย่างร้อนรนและเร่งรีบ
"รายงาน! อ๋องเหยียนพะยะค่ะ"
"ชู่ว!"
หลังจากฉินเหยียนทำท่าทางและส่งเสียงชู่วแล้วจึงส่งสัญญาณให้ทุกคนตอบคำถามต่อไป
ส่วนเขารีบเดินออกมาจากสถานศึกษา
"มีเรื่องอะไร?"
ทหารชั้นยอดกระซิบว่า
"เมืองหลวงส่งราชโองการมาและขอให้ท่านไปรับราชโองการทันทีพะยะค่ะ"
ฉินเหยียนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพึมพำว่า
"ท้องฟ้ากำลังจะเริ่มเปลี่ยนแล้ว!"
บนถนนที่พลุกพล่าน ชาวบ้านต่างมารวมตัวกันที่ด้านนอกสถานศึกษา ในขณะที่ทุกคนกำลังจับจ้องอยู่ก็เห็นอ๋องเหยียนมาถึง
ชาวบ้านต่างคุกเข่าและก้มศีรษะลงกับพื้นอย่างเคารพนบนอบด้วยท่วงท่าที่สะเทือนฟ้า
"ถวายบังคมอ๋องเหยียนพะยะค่ะ!"
เมื่อขันทีที่ถ่ายทอดพระราชโองการเห็นเช่นนี้จึงเลิกคิ้วสูงและเชิดศีรษะยืดอกอย่างหยิ่งยโส และกล่าวว่า
"องค์ชายสิบสี่ ศักดินาสามพัน อ๋องเหยียนแห่งราชวงศ์ฉินยังไม่คุกเข่าเพื่อรับราชโองการอีก!"
ฉินเหยียนคุกเข่าลงด้วยความเคารพต่อหน้าสาธารณะชน
"หม่อมฉันน้อมรับราชโองการพะยะค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...