องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 272

สรุปบท ตอนที่ 272 เหตุใดจึงต้องเรียนหนังสือ: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

ตอน ตอนที่ 272 เหตุใดจึงต้องเรียนหนังสือ จาก องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 272 เหตุใดจึงต้องเรียนหนังสือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติกโบราณ องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ ที่เขียนโดย Namfon เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เด็กๆหน้าแดงเมื่อถูกฉินเหยียนดุ และยื่นมือออกมาด้วยความอับอาย

ฉินเหยียนพับแขนเสื้อขึ้นและหยิบไม้บรรทัดขึ้นมาลงโทษด้วยตนเอง ในขณะที่ตีเขาก็สั่งสอนไปด้วย

"ต่อไปข้าไม่อยากได้ยินการเปรียบเทียบสถานะของตนเองกับผู้อื่นอีกต่อไป หากจะเทียบก็ควรจะเทียบการศึกษา เทียบว่าผู้ใดโตขึ้นไปแล้วสามารถเป็นขุนนางได้!"

เด็กๆบังฝ่ามือที่ถูกตีด้วยไม้บรรทัดจนแดง และกล่าวด้วยความอับอายว่า

"เข้าใจแล้วพะยะค่ะ"

เสียงการลงโทษที่ลานทำให้เหล่าผู้คงแก่เรียนที่กำลังพักกลางวันอยู่ออกมาดู

เมื่อเห็นว่าอ๋องเหยียนกำลังสั่งสอนเด็กๆจึงรีบไปต้อนรับ และกล่าวอย่างถ่อมตนว่า

"ไม่ทราบว่าท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ขอท่านอ๋องโปรดอภัยพะยะค่ะ"

ฉินเหยียนตีก็ตีแล้วสั่งสอนก็สั่งสอนแล้ว หลังจากให้เด็กๆแยกย้ายกันไปแล้วจึงตอบว่า

"ข้ามาที่นี่วันนี้ด้วยเหตุผลอื่น พวกท่านไปเรียกผู้เรียนที่โตแล้วและมีความสามารถในสถานศึกษามาให้หมด ข้าอยากจะทดสอบพวกเขา"

ไม่นาน

ผู้เรียนที่โตแล้วและมีความสามารถทุกคนในสถานศึกษาต่างมารวมตัวกันที่สถานศึกษา

เมื่อทุกคนมากันครบแล้ว ผู้คงแก่เรียนจึงประสานมือและกราบทูลว่า

"กราบทูลอ๋องเหยียน คนครบแล้วพะยะค่ะ"

ฉินเหยียนพยักหน้าจากนั้นจึงกล่าวว่า

"วันนี้ข้าจะออกข้อสอบหนึ่งข้อ พวกเจ้าจงวิเคราะห์อย่างรอบคอบและเขียนความเข้าใจของพวกเจ้าออกมา"

หลังจากกล่าวจบเขาก็ยกพู่กันขึ้นมาเขียนว่า

สร้างคุณค่าทางจิตวิญญาณให้กับแผ่นดิน ให้ความปลอดภัยในชีวิตแก่ประชาราษฎร์ สืบทอดและสืบสานความรู้ที่หายไปของปราชญ์ และสร้างรากฐานแห่งสันติภาพแก่ชนรุ่นหลัง

หลังจากผู้เข้าสอบอ่านแล้วจึงคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงเขียนความเข้าใจของตนเองที่มีต่อประโยคทั้งสี่นี้ลงบนกระดาษ

ในเวลานี้เอง ทหารชั้นยอดจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นด้านนอกลานแล้วเข้ามาอย่างร้อนรนและเร่งรีบ

"รายงาน! อ๋องเหยียนพะยะค่ะ"

"ชู่ว!"

หลังจากฉินเหยียนทำท่าทางและส่งเสียงชู่วแล้วจึงส่งสัญญาณให้ทุกคนตอบคำถามต่อไป

ส่วนเขารีบเดินออกมาจากสถานศึกษา

"มีเรื่องอะไร?"

ทหารชั้นยอดกระซิบว่า

"เมืองหลวงส่งราชโองการมาและขอให้ท่านไปรับราชโองการทันทีพะยะค่ะ"

ฉินเหยียนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพึมพำว่า

"ท้องฟ้ากำลังจะเริ่มเปลี่ยนแล้ว!"

บนถนนที่พลุกพล่าน ชาวบ้านต่างมารวมตัวกันที่ด้านนอกสถานศึกษา ในขณะที่ทุกคนกำลังจับจ้องอยู่ก็เห็นอ๋องเหยียนมาถึง

ชาวบ้านต่างคุกเข่าและก้มศีรษะลงกับพื้นอย่างเคารพนบนอบด้วยท่วงท่าที่สะเทือนฟ้า

"ถวายบังคมอ๋องเหยียนพะยะค่ะ!"

เมื่อขันทีที่ถ่ายทอดพระราชโองการเห็นเช่นนี้จึงเลิกคิ้วสูงและเชิดศีรษะยืดอกอย่างหยิ่งยโส และกล่าวว่า

"องค์ชายสิบสี่ ศักดินาสามพัน อ๋องเหยียนแห่งราชวงศ์ฉินยังไม่คุกเข่าเพื่อรับราชโองการอีก!"

ฉินเหยียนคุกเข่าลงด้วยความเคารพต่อหน้าสาธารณะชน

"หม่อมฉันน้อมรับราชโองการพะยะค่ะ"

บางครั้งเขาก็ขมวดคิ้ว บางครั้งเขาก็ยิ้ม บางครั้งก็พยักหน้าเห็นด้วย และบางครั้งก็ก้มหน้าลงครุ่นคิด

อันที่จริงเหตุผลของสี่ประโยคนี้ง่ายมาก เรียนหนังสือเพื่ออะไร ผู้ที่มีอุดมการณ์และปณิธานจะมีความคิดที่คล้ายคลึงกันและเขียนว่า "ฝึกฝนตนเอง เลี้ยงครอบครัว ปกครองบ้านเมือง และนำสันติสุขมาสู่ใต้หล้า"

เหตุผลที่เขาออกข้อสอบเช่นนี้มาก็เพื่อทดสอบว่านักเรียนคนใดสามารถสร้างประโยชน์ให้กับครอบครัวและประเทศชาติได้

เวลานี้ราชสำนักต้าฉินเต็มไปด้วยขุนนางที่ชั่วร้าย นอกจากองค์ชายใหญ่แล้วไม่มีผู้ใดอยู่ฝ่ายเดียวกับเขาเลย

สามคนกลายเป็นเสือ หากเป็นเช่นนี้นานวันเข้าเขาจะแบกความผิดมากขึ้น เมื่อคิดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็จะยากเหมือนขึ้นสวรรค์

แทนที่จะปล่อยมันไปมิสู้ใช้ประโยชน์จากทุกโอกาส ส่งคนของเขาเข้าไปเป็นขุนนางและเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายในราชสำนัก เพื่อให้พ่อของเขาได้ยินเสียงที่แตกต่างออกไป

สิ่งที่ทำให้ฉินเหยียนประหลาดใจก็คือกระดาษคำตอบที่นักเรียนเหล่านี้ส่งมาวิเคราะห์ประโยคทั้งสี่ได้ละเอียดถึงเพียงนี้และบางคนถึงกับรวมปณิธานอันยิ่งใหญ่ของตนเองเข้ากับสี่ประโยคนี้ซึ่งทำให้ฉินเหยียนรู้สึกตกตะลึง

เขาเลือกกระดาษคำตอบที่ได้ "คะแนนเต็ม" ในใจและสั่งว่า

"จือหย่า เจ้าไปหานักเรียนเหล่านี้และจัดการให้คนส่งพวกเขาไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรฉินทันที และมอบผู้มีความสามารถเหล่านี้ให้กับพี่ใหญ่ของข้า"

จ้าวจือหย่าได้อ่านคำตอบเหล่านี้แล้ว และนางก็ตกใจมากเช่นกัน

โดยเนื้อแท้แล้วข้อสอบนี้อยู่ในระดับสูง ผู้ที่สามารถเขียนคำตอบออกมาได้ล้วนนับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถ

หากคนเหล่านี้สามารถเป็นขุนนางเข้ารับใช้ราชสำนักต้าฉินได้ย่อมเป็นโชคของต้าฉิน

"เพคะ จือหย่าจะรีบไปจัดการ"

"ข้าไปกับเจ้าด้วย"

ในขณะที่ฉินเหยียนกำลังจะไปพบเสาหลักในอนาคตกับจ้าวจือหย่า ทันทีที่ออกมาจากประตูจวนเจ้าเมืองเขาก็เห็นคนสองคนคุกเข่าอยู่ที่ประตู

พวกเขาคือหญิงหม้ายแซ่หลี่ และฉีเยี่ยนเอ๋อร์บุตรสาว ทั้งคู่คุกเข่าอยู่ที่ประตู

ฉินเหยียนรีบประคองทั้งสองอย่างรวดเร็ว

"อาซ้อ เหตุใดท่านจึงต้องคุกเข่าเล่า?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์