หลิวหรูซือเผชิญหน้ากับที่หลงใหลของผู้ชม ค่อยๆ ลงไปบนเวที เหลือบมองทุกคนอย่างไม่ถือตัวและสง่างาม จากนั้นริมฝีปากแดงของนางเผยอขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า
“ในเมื่อวันนี้ต้องเลือกนางโลมที่สวยที่สุด ดังนั้นต้องแสดงความสามารถกันเสียหน่อย ให้ผู้ชมทุกท่านถามคำถาม ข้าจะแต่งกลอนสดต่อจากคำถามของทุกท่านเอง!”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกไป ผู้ชมต่างพากันเสียสติในทันที
“อะไรนะ แต่งบทกลอนสดอย่างนั้นหรือ! วันนี้จะต้องเปิดโลกทัศน์ข้าให้กว้างขึ้นอย่างแน่นอน!”
“ข้าขอถาม! ข้าถามเอง!”
“ให้โอกาสข้า ข้าจะถามคำถาม!”
ด้านล่างเวทีกลุ่มผู้ชมที่เป็นนักเรียนต่างตะโกนอย่างดุเดือด ทุกคนต้องการทดสอบหลิวหรูซือ ว่าหญิงงามตัวเล็กนางนี้มีความรู้และความสามารถจริงหรือไม่
บรรดาชายหนุ่มที่มาจากตระกูลขุนนางต่างหลงใหลในความงามของหลิวหรูซือ โดยเงินไปบนเวทีจำนวนมากเพื่อพยายามดึงดูดความสนใจของหลิวหรูซือ
ฉากนี้ดุเดือดอยู่พักหนึ่ง และเกิดการถกเถียงกันอย่างไม่มีสิ้นสุด
หลิวเชียนเชียนทำหน้าที่คุมสถานการณ์เดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ทุกท่าน โปรดอยู่ในความเงียบ! ในเมื่อทุกท่านต้องการถามถามคำถาม ทำไมไม่ลองใช้วิธีที่กระชับและชัดเจนล่ะเจ้าคะ”
“ผู้ที่วางเดิมพันให้กับหลิวหรูซือมากที่สุดในครัง้นี้ จะได้เป็นคนถามคำถาม!”
ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง เพื่อที่จะได้มีโอกาสตั้งคำถามหลิวหรูซือ ผู้ชมไม่ลังเลที่จะทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อวางเดิมพัน
เด็กหนุ่มที่มาจากตระกูลร่ำรวยเดิมพันหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นคนแรกที่ถามคำถาม
“ว่ากันว่าแม่นางหลิวเป็นหญิงเก่งมากความสามารถทั้งด้านบทกวีและร้องเพลง ข้าสงสัยว่าเจ้าสามารถสรุปความสามารถของผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดนางได้หรือไม่”
หลังจากที่เด็กหนุ่มคนนั้นถามคำถามจบ ผู้ชมก็เริ่มพูดคุยกันทันที
“บทกลอนบทเดียวที่ต้องสรุปความสามารถของหญิงงามทั้งแปดนางได้ หากให้เวลาข้าสามวันสามคืน เกรงว่าข้าก็คงไม่สามารถอธิบายความสามารถของหญิงงามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแน่นอน!”
“โอ้ นี่ไม่ได้หมายความว่าจงใจทำให้คนอื่นลำบากหรือ!”
“ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งคำถามเจ้าเล่ห์ขนาดนี้เลย?”
คนที่ถูกถามคำถามยังไม่ได้ร้อนใจ แต่ผู้ชมกลับร้อนใจแทน นักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบนางกลับเริ่มบ่น
ในทางกลับกันหลิวหรูซือยังคงสงบ มีรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้า นางหายใจอย่างสงบนิ่ง
“เมื่อเทียบความงามกับหญิงงามทั้งเจ็ดแล้ว ข้าไม่อาจเทียบได้ แต่หากให้ข้าแต่งบทกลอนมาอธิบายพี่น้องหญิงงามทั้งเจ็ดนี้ ข้าคิดว่าบทกลอนนี้เหมาะสมที่สุดเจ้าค่ะ”
ผู้ชมต่างมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขารู้ว่าหลิวหรูซือมากความสามารถ แต่พวกเขาในระยะเวลาอันสั้นนางจะสามารถแต่งกลอนออกมาได้อย่างไร
สายตาที่นิ่งสงบของหลิวหรูซือกวาดสายตามองผู้ชม ริมฝีปากแดงเผยอขึ้นเล็กน้อย นางเอ่ยออกมาว่า
“เมฆาดุจอาภรณ์บุปผาดั่งหญิงงาม”
“ลมวสันต์พัดผ่านรั้ว เม็ดน้ำค้างปรากฏกาย”
“หากมิใช่พานพบที่ภูผาหยก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...