ฟ้าแลบฟ้าร้อง น้ำฝนเทกระหน่ำลงมา นอกตำหนักมีฝนลมพายุอย่างแรง ทำให้แสงเทียนในตำหนักสลัว
ฮ่องเต้ฉินนั่งลงบนที่นอน ของเขาพูดด้วยน้ำเสียงสงสัยและแผ่วเบา แต่กลับไม่กล้าสบตาฉินเหยียน
“เจ้ากำลังโทษข้าใช่รึไม่?”
ฉินเหยียนคุกเข่าลงกับพื้น เขายังคงประสานมือคารวะอยู่
“มิใช่พ่ะย่ะค่ะ เมื่อได้รับการอุปถัมภ์ก็จะต้องตอบแทน ในเมื่อเป็นองค์ชาย ก็จะต้องตอบแทนอาณาจักรอย่างสุดกำลัง โอรสสวรรค์จะต้องเฝ้าประตูแผ่นดิน ฮ่องเต้สละชีวิตเพื่ออาณาจักร เพื่อทุกชีวิต แล้วลูกจะกล้าโทษท่านพ่อได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ!”
“โอรสสวรรค์จะต้องเฝ้าประตูแผ่นดิน ฮ่องเต้สละชีวิตเพื่ออาณาจักรสินะ!” ฮ่องเต้ฉินเงยหน้าจ้องมองฉินเหยียนแล้วพูดอย่างเข้มงวดว่า “ทุกคำของเจ้าล้วนเป็นคำพูดของฮ่องเต้ทั้งนั้น แต่กลับบอกว่าไม่อยากนั่งบนบัลลังก์ เจ้าจะพูดความจริงในใจต่อข้าไม่ได้เลยรึไง?”
ฉินเหยียนพูดต่อว่า “ลูกยินดีที่จะช่วยท่านพ่อพิชิตอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้ท่านได้อยู่คงกระพัน แต่ลูกไม่อยากถูกบัลลังก์ผูกมัด ทิวทัศน์ที่งดงาม ภูเขาและแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์นี้ ลูกเป็นผู้รักอิสระมาไหนต่อไหน ไม่อยากถูกขังอยู่ในพระราชวังนี้จริงๆ ท่านพ่อ นี่คือความในใจของลูกพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินอ้าปาก ครู่หนึ่งกว่าจะพูดขึ้นว่า “แม้ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าจะมีความกรุณา แต่เขาโง่เขลาและไม่รู้จักวิธีปรับตัว หากให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ มันก็ยากที่จะเอาชนะตระกูลขุนนางใหญ่ได้ แม้พี่เจ็ดของเจ้าจะมีคุณธรรมสูง แต่เขาเคยทรยศญาติมิตรของตนเอง หากยกบัลลังก์ให้เขา จะต้องเกิดความวุ่นวายเดือดร้อนเป็นแน่ เขาต้องหักหลังดินแดนของข้าเป็นแน่!”
ฮ่องเต้ฉินเดินเข้าไปพยุงฉินเหยียนแล้วพูดอย่างจริงใจว่า “สำหรับข้าแล้ว เจ้าคือผู้ที่เหมาะสมกับบัลลังก์มากที่สุด!”
แม้ฉินเหยียนจะถูกพยุงให้ลุกขึ้น แต่ก็ยังปฏิเสธอ้อมค้อมว่า “ท่านพ่อได้โปรดคืนคำเถิด มันยากที่ลูกจะทำได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ฉินจับมือของฉินเหยียนไว้ เขาบีบมือของฉินเหยียนจนเจ็บโดยไม่รู้ตัว
“ท่านพ่อ การพิชิตดินแดนนั้นง่ายดาย แต่การเฝ้าดูแลมันนั้นแสนยาก ลูกปรารถนาที่จะเที่ยวชมภูเขาและแม่น้ำ พิชิตดินแดนอันกว้างใหญ่ในอนาคต จนใต้หล้านี้ไม่มีดินแดนของฮ่องเต้องค์ไหนอีก ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดก็ล้วนเป็นดินแดนของเรา นี่คือความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของลูก โปรดท่านพ่ออนุญาตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
จู่ๆฮ่องเต้ฉินก็ผ่อนคลายลง เขาก็เดินกลับไปที่เตียงอย่างช้าๆ ราวกับชายชราในช่วงพลบค่ำ และพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
“ตอนนี้ต่อให้ข้าอยากยกบัลลังก์ให้เจ้าก็คงจะทำไม่ได้แล้ว ดินแดนของข้ามีแต่อันตรายเต็มไปหมด”
ฉินเหยียนจึงใช้โอกาสนี้พูดขึ้นว่า “ท่านพ่อกังวลเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ความกังวลของพระองค์ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน”
ฮ่องเต้ฉินตะคอกถามขึ้นว่า “เจ้าถูกข้าส่งไปยังจวนจงเหริน แล้วเจ้าจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในระยะนี้และความกังวลของข้าได้อย่างไรกัน?”
ฉินเหยียนพูดตรงๆว่า “ท่านพ่อ ตำหนักหย่านซินนั้นเป็นสถานที่ที่ท่านพักผ่อนสงบใจ แต่ท่านยังสวมชุดเกราะและพกกระบี่ชื่อเซียวไว้ข้างกายเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าจะต้องมีใครกุมอำนาจในพระราชวังเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ แต่ในราชสำนักผู้ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่มีเพียงไท่ฟู่ผู้เป็นราชครูของท่านพ่อเท่านั้น”
ฮ่องเต้ฉินจ้องมองฉินเหยียน “พูดต่อสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...