ตำหนักหย่านซิน
ขันทีเกาและคนรับใช้ในพระราชวังได้นำอาหารอันโอชะออกมาทีละอย่างและวางโต๊ะเต็มไปหมด ฮ่องเต้ฉินเดินไปนั่งก่อนแล้วจึงโบกมือให้ฉินเหยียน
“เหยียนเอ๋อร์ มานั่งสิ”
“พ่ะย่ะค่ะ” ฉินเหยียนมานั่งตรงข้ามของฮ่องเต้ฉินอย่างเคารพ
ทันใดนั้นเองฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็เดินเข้ามายังข้างกายของฮ่องเต้ฉินอย่างสง่างาม นางคอยเทเหล้าคีบอาหารให้ ตั้งแต่ที่ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เข้ามา ฉินเหยียนก็จ้องมองฉีเยี่ยนเอ๋อร์ไม่ละสายตา เขารู้สึกละอายใจเหลือเกิน
ฮ่องเต้ฉินเห็นดังนั้นแล้วก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์อยู่หน่อยว่า
“นี่คือนางสนมฉีกุ้ยเหรินคนใหม่ของข้า เหยียนเอ๋อร์ ที่เจ้าคอยจ้องมองนางเช่นนี้เพราะเคยรู้จักกันมาก่อนงั้นรึ?”
ฉินเหยียนละสายตาแล้วยิ้มพร้อมพูดว่า “เมื่อครู่นี้ข้าน้อยเสียกิริยาไป ท่านพ่ออย่าได้ใส่ใจเลยพ่ะย่ะค่ะ ทั่วทั้งราชสำนักล้วนรู้ดีว่าลูกเจ้าชู้ พอได้เจอหญิงงามก็จำต้องชายตามองบ้าง แก้นิสัยเสียนี้ไม่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ ลูกขอดื่มเพื่อแสดงความเคารพ ขอยินดีกับท่านพ่อที่ได้คนโปรดคนใหม่พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วเขาก็ยกจอกเหล้าขึ้นแล้วดื่มจนหมด
ฮ่องเต้ฉินเองก็ผ่อนคลายลง เขาพูดขึ้นว่า “เจ้าเด็กนี่ ผู้หญิงของข้าก็คือผู้หญิงของข้า จะมาแหกกฎศีลธรรมไม่ได้”
ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นดังที่ท่านพ่อสั่งสอนพ่ะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้นเองฮ่องเต้ฉินก็คิดถึงเรื่องแผนกลหญิงงามที่ฉินเหยียนพูดเมื่อครู่นี้ เขารู้สึกถึงบางอย่างในใจแล้วมองไปยังฉีเยี่ยนเอ๋อร์ จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า
“ฉีกุ้ยเหริน ก่อนที่เจ้าจะเข้ามาในพระราชวัง หัวใจของเจ้ามีเจ้าของรึไม่?”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์พูดอย่างผวาว่า “เหตุใดฝ่าบาทจึงกล่าวเช่นนี้ละเพคะ หม่อมฉันได้รับความกรุณาธิคุณมากมาย ไม่ว่าเมื่อไรหัวใจของหม่อมฉันก็มีเพียงฝ่าบาทผู้เดียวเพคะ”
ในขณะที่ฉีเยี่ยนเอ๋อร์พูด สีหน้าของนางก็จริงจังอย่างมาก นั่นทำให้ฮ่องเต้ฉินเลิกสงสัยไปทันที เขาหัวเราะเสียงดังพูดว่า
“เช่นนั้นก็ดี” จากนั้นก็ยกจอกเหล้าขึ้นมาแล้วพูดอย่างหนักใจว่า “เหยียนเอ๋อร์ ระยะนี้เจ้าคงลำบากมามาก แต่ข้าเป็นฮ่องเต้ เจ้าเป็นโอรสของข้า เจ้าและข้าต่างใจเชื่อมถึงกัน เจ้าคงจะเข้าใจความลำบากของข้าใช่รึไม่?”
ฉินเหยียนเองก็ยกจอกเหล้าขึ้นอย่างเคารพแล้วพูดว่า “ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ ในตำแหน่งหน้าที่ ท่านคือฮ่องเต้ จะต้องเห็นใต้หล้ามาก่อนเสมอพ่ะย่ะค่ะ”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ฮ่องเต้ฉินรู้สึกสบายใจขึ้น เขาดื่มเหล้าแล้วถอนหายใจพูดว่า
“หากข้าสามารถคลี่คลายสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้ได้ ภายหลัง ข้าจะเป็นฮ่องเต้แสนชาญฉลาดให้จงได้”
ฉินเหยียนเองก็ดื่มตามแล้วพูดว่า “ท่านพ่อ บัดนี้เราหารือเรื่องการรับมือกับไท่ฟู่ก่อนจะดีกว่า เรื่องอื่นไว้ก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้นฮ่องเต้ฉินก็กระตือรือร้นขึ้นมา “เจ้าลองว่ามาอย่างละเอียดสิเหยียนเอ๋อร์!”
ฉินเหยียนวางจอกเหล้าลงแล้วพูดเสียงเบาว่า “วันพรุ่งนี้ท่านพ่อทำเช่นนี้ก่อน......จากนั้นค่อย......ท้ายสุด......”
ฮ่องเต้ฉินตั้งใจฟัง สีหน้าของเขาปรากฏความสงสัยขึ้นมา
“ว่าอย่างไรนะ? เจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่รึไม่? หากเป็นเช่นนี้ ไท่ฟู่คงไม่ได้ทำการกบฏทันทีหรอกใช่รึไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...