คำพูดนี้ทำเอาไท่ฟู่มึนงงไปหมด เขาพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “ฝ่า ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เมื่อครู่นี้ทรง......”
ไท่ฟู่ไม่อยากจะเชื่อหูของตนเองเลย ฮ่องเต้ฉินพูดอย่างเคร่งขรึมว่า
“ไท่ฟู่คือราชครูของข้า แถมยังเป็นข้าราชการเก่าแก่ของข้า หากเจ้ากราบลากลับถิ่นเกิดแล้วใครจะช่วยข้าบุกโจมตีอาณาจักรจ้าวกัน”
ไท่ฟู่รู้สึกยังไม่ค่อยเข้าใจ ก็ได้ยินฮ่องเต้ฉินออกคำสั่งว่า “ขอแต่งตั้งไท่ฟู่ บัญชาการทั้งหกกรม และเข้าร่วมการหารือการบุกโจมตีอาณาจักรจ้าว”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วไท่ฟู่ก็อึ้งไป พอมาคิดอย่างละเอียดแล้ว หรือก่อนหน้านี้เขาจะกังวลมากเกินไปรึ? หลังจากคิดดูแล้วพระองค์ไม่เพียงแต่ไม่ได้ลงโทษเขาเท่านั้น แต่ยังให้อำนาจแก่เขาในการบังคับบัญชาทั้งหกกรมด้วย ซึ่งเทียบเท่ากับการเลื่อนตำแหน่ง ความสุขเกิดขึ้นกะทันหันมากเกินไปแล้ว
ฮ่องเต้ฉินจ้องมองไท่ฟู่ด้วยตาเป็นประกายแล้วพูดว่า “ข้าให้เวลาเจ้าเจ็ดวัน ในช่วงเจ็ดวันนี้ เจ้าจงพาเหล่าเน่ยเก๋อทั้งหกกรมไปร่วมกันหารือการวางกลยุทธ์ที่ห้องหนังสือหลวงเสีย”
“ภายในเจ็ดวัน เจ้าจะต้องคิดแผนการเอาชนะออกมาให้ได้ ข้าได้ตัดสินใจแล้ว จะต้องบุกโจมตีอาณาจักรจ้าวให้จงได้! ไท่ฟู่ เจ้ามีสิ่งใดอยากพูดรึไม่?”
ไท่ฟู่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ใบหน้าของเขาแสดงความดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขาประสานมือคารวะแล้วพูดเสียงดังว่า
“ฝ่าบาทเชื่อใจข้าน้อยถึงเพียงนี้ ข้าน้อยจะทุ่มสุดกำลัง จะต้องช่วยทั้งหกกรมวางแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุมให้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้ฉินโน้มตัวไปข้างหน้าและบอกกับไท่ฟู่ด้วยสีหน้าครุ่นคิดว่า
“เรื่องในราชสำนักช่วงสองวันนี้ก็ขอมอบให้ไท่ฟู่ช่วยจับตาดูแทนข้าด้วย ข้าเพิ่งได้นางสนมคนโปรดมาใหม่ เป็นบุตรสาวบุญธรรมของเจ้าด้วย แต่ละคนมีรูปลักษณ์ที่ดียิ่ง รูปร่างแสนสมบูรณ์ ข้าชื่นชอบอย่างมากทีเดียว เจ็ดวันนี้ข้าเองก็ถือว่าให้ตนเองได้หยุด หลังจากทำงานราชการมาหลายสิบปีก็ถึงเวลาผ่อนคลายสักหน่อย ไท่ฟู่มีปัญหาอันใดรึไม่?”
“นี่มัน......” นี่มันความสุขที่เหนือความคาดหมายชัดๆ!
ดวงตาของไท่ฟู่ประกาย บุตรสาวบุญธรรมเหล่านั้นถูกฝ่าบาทจับกุมมาที่แท้ก็เพื่อสนองเรื่องนั้นนี่เอง เขาเกือบคิดว่าโดนจับอะไรได้แล้ว การวางแผนที่เขาทำมานับหลายปีถูกเปิดโปงแล้วเสียอีก คราวนี้ไท่ฟู่ก็วางใจได้แล้ว ช่างเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก เขารีบประสานมือคารวะแล้วพูดว่า
“อย่างไรก็ทรงรักษาตัวด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้ฉินโบกมือแล้วพูดว่า “โธ่ หมายความว่าอย่างไรกัน ข้ายิ่งมีอายุก็ยิ่งแข็งแรง!”
จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องแล้วพูดว่า “เมื่อเจ้าช่วยทั้งหกกรมวางกลยุทธ์ที่ดีออกมาได้แล้ว ข้าจะมอบอำนาจสั่งการทางด้านทหารให้ไท่ฟู่ และแต่งตั้งไท่ฟู่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดอย่างเป็นทางการ”
“องค์ชายใหญ่เองก็กำลังอยู่ในระหว่างทางกลับเมืองหลวง ถึงตอนนั้นให้ฉินชงช่วยเหลือไท่ฟู่ ฟังคำสั่งจากเจ้าเพื่อโจมตีอาณาจักรจ้าว!”
ที่แท้การที่เรียกองค์ชายใหญ่กลับมาจากชายแดนก็เพื่อเรื่องทำสงครามระหว่างสองอาณาจักรนี่เอง เดิมทีไท่ฟู่ยังคิดว่าเพราะป้องกันการกบฏของตนเองเสียอีก เขาเป็นกังวลเพราะเรื่องนี้มาหลายวันเชียวล่ะ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเขาก็คงกังวลมากเกินไปเองจริงๆ จึงได้คำนับขอบพระทัย
“ข้าน้อยจะไม่ทำให้ต้องผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้ฉินค่อยๆลุกขึ้นแล้วออกคำสั่งว่า “เรียกรวมทั้งหกกรมแล้วรีบทำหารหารือเถิด ข้าจะกลับตำหนักแล้ว”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วเขาก็เดินลงจากบัลลังก์โดยมีขันทีเกาปรนนิบัติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...