องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 337

ห้องหนังสือหลวง

บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นทุกคนต่างมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ในห้องหนังสือหลวงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงดังอย่างมาก เหล่าเสนาบดีทั้งหกกรมต่างมีความเห็นเป็นของตนเอง และถกเถียงกันไม่หยุด

เสนาบดีกรมกลาโหมยืนหยัดในความเห็นของตนเอง

“ควรส่งกองกำลังบุกไปยังเมืองหลวงอาณาจักรจ้าว แล้วโจมตีพวกมันให้ไม่ทันตั้งตัวสิ!”

เสนาบดีกรมมหาดไทยส่ายหน้าปฏิเสธว่า

“หามิได้ แผนนี้ใช้การไม่ได้หรอก นั่นถือเป็นวิธีที่โง่เขลานัก ไม่ได้เด็ดขาด”

เสนาบดีกรมอาญาออกความเห็นว่า

“หรือจะเริ่มบุกทะลวงจากเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุน ค่อยๆบุกไปยังเมืองหลวงล่ะ”

เสนาบดีกรมพระคลังปฏิเสธว่า “มิได้! ด้วยเงินในคลังปัจจุบันนี้ เกรงว่าจะไม่อาจเอาชนะอาณาจักรจ้าวได้ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีอย่างแน่นอน”

เสนาบดีทั้งหกกรมต่างถกเถียงกัน ไม่มีใครยอมใคร อภิปรายไม่มีที่สิ้นสุด และทุกคนคิดว่าสิ่งที่พวกเขาพูดเป็นกลยุทธ์ที่ดี แต่หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่มีกลยุทธ์ใดใช้การได้เลย

ไท่ฟู่สีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาจ้องมองแผนที่อาณาจักรที่วางอยู่บนโต๊ะเขม็ง และฟังเสียงถกเถียงกัน เขาตะโกนเสียงดังว่า

“ไม่มีกลยุทธ์ใดใช้การได้! คิดหาแผนการใหม่ต่อไปเสีย!”

......

ผ่านไปสามวัน ในห้องหนังสือหลวงยังคงสว่างอยู่ ไท่ฟู่และเหล่าเสนาบดีทั้งหกกรมกินอยู่กันในห้องนั้นทั้งหมด เพียงเพื่อที่จะหารือกลยุทธ์อันสมบูรณ์ออกมาให้ได้เท่านั้น

ไท่ฟู่ปฏิเสธแผนการของเน่ยเก๋อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนเน่ยเก๋อทั้งหกกรมก็แก้ไขแผนต่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลังจากการพลิกผันหลายครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กลยุทธ์ที่เอาชนะได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับข้อมูลเบาะแสเชิงลึกบ้างแล้ว ซึ่งทำให้พวกไท่ฟู่รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง พวกเขาจึงทำงานหนักขึ้นและหารือกันไม่หยุด

อีกด้านหนึ่ง

ตำหนักหย่านซินเองก็มีแสงเทียนส่องสว่างเช่นเดียวกัน โดยให้ฉีเยี่ยนเอ๋อร์คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายฮ่องเต้ฉินเพียงคนเดียวทุกวัน แม้แต่ฮองเฮาฉินซวงหลานเองก็ยังย่างเท้าเข้ามาในตำหนักหย่านซินไม่ได้ อย่าว่าแต่จะได้พบฮ่องเต้ฉินเลย และยิ่งไปกว่านั้น ในระยะเวลาอันสั้นนี้ ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็ได้เลื่อนตำแหน่งจากฉีกุ้นเหรินเป็นพระสนมฉีแล้ว

ในประวัติศาสตร์ไม่มีผู้ใดที่รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้มาก่อน นั่นทำให้เหล่าพระสนมอื่นๆต่างไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

ขณะนี้ฮ่องเต้ฉินสีหน้าซีดเซียว ทรุดโทรมอย่างมาก ดวงตาหมองคล้ำคู่นั้นจมลึกเข้าไปในเบ้าตาของเขา เขาสวมชุดเกราะที่เปิดออกครึ่งหนึ่ง ร่างกายราวกับถูกบีบให้แห้งไปแล้ว เขานั่งพิงอยู่บนที่นอน

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์สวมผ้ารัดท้องแล้วคลุมผ้าบางพาดไหล่เอาไว้ นางพิงตัวลงในอ้อมแขนของฮ่องเต้ฉินราวกับปลาหมึกไร้กระดูก นางหยิบโสมขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วป้อนฮ่องเต้ฉินด้วยปากของนางเอง เพื่อรักษาร่างกายของเขาให้คงอยู่ ฮ่องเต้ฉินจะรับประทานของบำรุงทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นโสม ตังกุย เขากวางอ่อน เขาจะรับประทานเสมือนเป็นอาหารไปเลย

เพราะมีเพียงในยามที่ร่วมสุขบนที่นอนกับฉีเยี่ยนเอ๋อร์เท่านั้น จึงจะทำให้ฮ่องเต้ฉินลืมความอัยตรายถึงชีวิตไปได้ชั่วขณะ

......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์