ห้องหนังสือหลวง
บรรดาขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นทุกคนต่างมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ในห้องหนังสือหลวงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงดังอย่างมาก เหล่าเสนาบดีทั้งหกกรมต่างมีความเห็นเป็นของตนเอง และถกเถียงกันไม่หยุด
เสนาบดีกรมกลาโหมยืนหยัดในความเห็นของตนเอง
“ควรส่งกองกำลังบุกไปยังเมืองหลวงอาณาจักรจ้าว แล้วโจมตีพวกมันให้ไม่ทันตั้งตัวสิ!”
เสนาบดีกรมมหาดไทยส่ายหน้าปฏิเสธว่า
“หามิได้ แผนนี้ใช้การไม่ได้หรอก นั่นถือเป็นวิธีที่โง่เขลานัก ไม่ได้เด็ดขาด”
เสนาบดีกรมอาญาออกความเห็นว่า
“หรือจะเริ่มบุกทะลวงจากเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุน ค่อยๆบุกไปยังเมืองหลวงล่ะ”
เสนาบดีกรมพระคลังปฏิเสธว่า “มิได้! ด้วยเงินในคลังปัจจุบันนี้ เกรงว่าจะไม่อาจเอาชนะอาณาจักรจ้าวได้ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีอย่างแน่นอน”
เสนาบดีทั้งหกกรมต่างถกเถียงกัน ไม่มีใครยอมใคร อภิปรายไม่มีที่สิ้นสุด และทุกคนคิดว่าสิ่งที่พวกเขาพูดเป็นกลยุทธ์ที่ดี แต่หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่มีกลยุทธ์ใดใช้การได้เลย
ไท่ฟู่สีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาจ้องมองแผนที่อาณาจักรที่วางอยู่บนโต๊ะเขม็ง และฟังเสียงถกเถียงกัน เขาตะโกนเสียงดังว่า
“ไม่มีกลยุทธ์ใดใช้การได้! คิดหาแผนการใหม่ต่อไปเสีย!”
......
ผ่านไปสามวัน ในห้องหนังสือหลวงยังคงสว่างอยู่ ไท่ฟู่และเหล่าเสนาบดีทั้งหกกรมกินอยู่กันในห้องนั้นทั้งหมด เพียงเพื่อที่จะหารือกลยุทธ์อันสมบูรณ์ออกมาให้ได้เท่านั้น
ไท่ฟู่ปฏิเสธแผนการของเน่ยเก๋อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนเน่ยเก๋อทั้งหกกรมก็แก้ไขแผนต่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลังจากการพลิกผันหลายครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กลยุทธ์ที่เอาชนะได้อย่างสมบูรณ์ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับข้อมูลเบาะแสเชิงลึกบ้างแล้ว ซึ่งทำให้พวกไท่ฟู่รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง พวกเขาจึงทำงานหนักขึ้นและหารือกันไม่หยุด
อีกด้านหนึ่ง
ตำหนักหย่านซินเองก็มีแสงเทียนส่องสว่างเช่นเดียวกัน โดยให้ฉีเยี่ยนเอ๋อร์คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายฮ่องเต้ฉินเพียงคนเดียวทุกวัน แม้แต่ฮองเฮาฉินซวงหลานเองก็ยังย่างเท้าเข้ามาในตำหนักหย่านซินไม่ได้ อย่าว่าแต่จะได้พบฮ่องเต้ฉินเลย และยิ่งไปกว่านั้น ในระยะเวลาอันสั้นนี้ ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็ได้เลื่อนตำแหน่งจากฉีกุ้นเหรินเป็นพระสนมฉีแล้ว
ในประวัติศาสตร์ไม่มีผู้ใดที่รับการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้มาก่อน นั่นทำให้เหล่าพระสนมอื่นๆต่างไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
ขณะนี้ฮ่องเต้ฉินสีหน้าซีดเซียว ทรุดโทรมอย่างมาก ดวงตาหมองคล้ำคู่นั้นจมลึกเข้าไปในเบ้าตาของเขา เขาสวมชุดเกราะที่เปิดออกครึ่งหนึ่ง ร่างกายราวกับถูกบีบให้แห้งไปแล้ว เขานั่งพิงอยู่บนที่นอน
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์สวมผ้ารัดท้องแล้วคลุมผ้าบางพาดไหล่เอาไว้ นางพิงตัวลงในอ้อมแขนของฮ่องเต้ฉินราวกับปลาหมึกไร้กระดูก นางหยิบโสมขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วป้อนฮ่องเต้ฉินด้วยปากของนางเอง เพื่อรักษาร่างกายของเขาให้คงอยู่ ฮ่องเต้ฉินจะรับประทานของบำรุงทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นโสม ตังกุย เขากวางอ่อน เขาจะรับประทานเสมือนเป็นอาหารไปเลย
เพราะมีเพียงในยามที่ร่วมสุขบนที่นอนกับฉีเยี่ยนเอ๋อร์เท่านั้น จึงจะทำให้ฮ่องเต้ฉินลืมความอัยตรายถึงชีวิตไปได้ชั่วขณะ
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...