องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 380

สายตาของทุกคนมองไปยังปิ่นทองเสี่ยวเยว่ ร่างกายของนางสั่นไม่หยุด ร้องไห้จนใบหน้าอาบน้ำตาและพูดว่า

“คนตระกูลสั่งให้ข้าวางยาพิษในอาหารของท่านอ๋องที่เสวยในทุกวันเพคะ! แต่ท่านอ๋องมีบุญคุณท้วมหัวหม่อมฉัน ช่วยให้หม่อมฉันหลุดพ้นจากความลำบาก ต่อให้ตระกูลซ่งจะใช้แผนชั่วร้ายเพื่อบงการหม่อมฉัน ขู่เข็ญต่างๆนานา หม่อมฉันก็ไม่กล้าคิดสังหารท่านอ๋องเลยแม้แต่น้อย ท่านอ๋องโปรดตรวจสอบอีกครั้งเถิดเพคะ!”

ปิ่นทองเสี่ยวเยว่สารภาพความจริงออกมาอย่างสุดเสียง นางพูดไปด้วยและใช้ศีรษะโขกพื้นเพื่อกราบกรานไปด้วย

สิบเอ็ดปิ่นทองคนอื่นๆไม่อยากจะเชื่อ ต่างก็ต่อว่าและเอาผิดนางที่ทรยศหักหลัง

“ข้าไม่เคยคิดจะลงมือจริงๆนะ ต่อให้สังหารครอบครัวข้าจนหมดสิ้น ข้าก็ไม่มีทางทำร้ายท่านอ๋อง”

เสี่ยวเยว่สารภาพเองเช่นนี้ก็ง่ายขึ้นเยอะ ฉินเหยียนจ้องมองเสี่ยวเยว่แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“ใครในครอบครัวถูกตระกูลซ่งจับตัวเอาไว้รึ?”

ปิ่นทองเสี่ยวเยว่เงยหน้าขึ้น หน้าผากของนางโขกจนแดงไปหมด พูดด้วยสีหน้าที่เศร้าสลดว่า

“น้องชายแท้ๆของหม่อมฉันเพคะ”

ต่อมาเสี่ยวเยว่ก็ได้เล่าความเวทนาที่นางได้ประสบมา ในอดีตครอบครัวของเสี่ยวเยว่ฐานะถือว่าดี นางเกิดในครอบครัวพ่อค้ารายย่อย พ่อแม่ของนางทำธุรกิจเล็กๆในเขตซุ่นชิ่ง และมีสมบัติอยู่บ้าง แต่ต่อมาตระกูลซ่งมีอำนาจใหญ่ในเขตซุ่นชิ่ง เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ยึดกิจการต่างๆมาเป็นของตนเอง ส่งลูกน้องมาหลายสิบคนเพื่อสังหารพ่อแม่ของนางต่อหน้านางและน้องชายอย่างอำมหิต

น้องชายของเสี่ยวเยว่ตกใจกลัวจนเป็นบ้าไป แถมยังจับสองพี่น้องไป เสี่ยวเยว่ถูกรับเป็นบุุตรสาวบุญธรรม น้องชายถูกจับไปใช้แรงงาน เป็นทาสรับใช้ตระกูลซ่ง

เมื่อพูดถึงน้องชาย ปิ่นทองเสี่ยวเยว่ก็ร้องไห้อย่างหนัก เหล่าปิ่นทองคนอื่นๆที่ยืนอยู่รอบๆเองก็ตาแดงก่ำ สิ่งที่พวกนางได้ประสบมาไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก หากไม่ใช่เพราะตระกูลซ่ง พวกนางก็ไม่มีทางเป็นเช่นนี้

ปิ่นทองเสี่ยวเยว่พูดต่อด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “น้องชายคือครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่หม่อมฉันเหลืออยู่ คนตระกูลซ่งใช้ชีวิตของน้องชายมาขู่เข็ญข้า ว่าหากหม่อมฉันไม่สังหารท่านอ๋อง พวกเขาจะสังหารน้องชายหม่อมฉันเพคะ!”

“หม่อมฉันเองก็ไม่คิดจะทำร้ายท่านอ๋อง หม่อมฉันคิดเอาไว้แล้วว่า หากน้องชายต้องตายไปเพราะเหตุนี้ หม่อมฉันจะตามเขาไป บุญคุณของท่านอ๋อง หม่อมฉันจะทดแทนในชาติหน้าเพคะ”

ฉินเหยียนรู้สึกประทับใจเช่นกัน เมื่อต้องเผชิญหน้าเช่นนี้ หญิงสาวที่อ่อนแอคนนี้กลับสามารถรักษาหัวใจอันบริสุทธิ์เอาไว้ได้ ช่างไม่ง่ายดายเลย เขาพูดเสียงอ่อนโยนว่า

“ช่างเป็นผู้มีชีวิตที่ยากลำบากนัก ในเมื่อเจ้ายอมรับสารภาพเอง ข้าเองก็ไม่เอาความที่ผ่านมา ลุกขึ้นเถิด”

เสี่ยวเยว่หลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง โค้งคำนับว่า “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่เมตตาเพคะ!”

ทันใดนั้นเองต้าหย่งก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน แล้วมอบจดหมายลับให้แก่ฉินเหยียน

“อ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ จดหมายนกพิราบจากองค์ชายเจ็ดพ่ะย่ะค่ะ ได้เตรียมมุ่งหน้าไปจัดการกับตระกูลซ่งตามคำสั่งของท่านแล้วพ่ะย่ะค่ะ ”

ฉินเหยียนรับจดหมายลับมาเปิดดูแล้วพูดกับปิ่นทองเสี่ยวเยว่ว่า “ทางเมืองหลวงได้ส่งคนไปช่วยคนที่ตระกูลซ่งแล้ว ส่วนจะสามารถช่วยน้องชายเจ้าออกมาได้รึไม่นั้น รอฟ้าสางก็รู้เอง”

ปิ่นทองเสี่ยวเยว่ไม่คิดว่าอ๋องเหยียนไม่เพียงแต่จะไม่เอาเรื่องนาง กลับยังส่งคนไปช่วยน้องชายของนางอีกด้วย นางคุกเข่าอีกครั้งแล้วโขกศีรษะกราบกรานแล้วพูดอย่างตื้นตันว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์