องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 399

จวนตระกูลฉิน

เด็กรับใช้นำเนื้อหาในประกาศรายงานกับฉินอวี้เฟิงแล้ว ฉินอวี้เฟิงก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที และพูดอย่างดีใจว่า

“มีเรื่องดีๆเช่นนี้ด้วยรีเนี่ย! รีบไปดูเร็วว่ายังเหลือเสบียงอีกเท่าไร เอาออกมาแลกที่ให้หมด!”

ผู้ดูแลพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวลอย่างจนปัญญาว่า “ท่านชายขอรับ ในจวนไม่มีเสบียงที่เหลือแล้วขอรับ เมื่อวานได้เปิดคลังเสบียงไปแลกเป็นเงินหมดแล้ว แม้แต่มื้ออาหารในวันนี้ก็ยังเป็นเนื้อที่หลงเหลือ ไม่มีเสบียงที่เหลือที่พอจะเอาออกมาได้แล้วขอรับ”

ฉินอวี้เฟิงได้ยินดังนั้นก็จ้องผู้ดูแลเขม็งแล้วด่าทอว่า “เจ้าคนหัวรั้น! เงินที่ได้มาจากการขายเสบียงเอาไว้ตั้งโชว์รึไง? ไปเอาเงินซื้อเสบียงก็ได้แล้วไม่ใช่รึไง เจ้าโง่ รีบไปซื้อเสบียง!”

ผู้ดูแลตกใจจนสะดุ้งโหยง แล้วรีบสั่งให้เด็กรับใช้ไปซื้อข้าวสารในตลาด

แต่พอเดินดูอยู่นานก็พบว่าไม่มีร้านข้าวสารร้านไหนที่เปิดเลย แม้กระทั่งพ่อค้าเร่ขายก็ไม่ขายข้าวสาร นั่นทำเอาผู้ดูแลกังวลใจอย่างมาก เดินไปทั่วเขตเสียงดังแล้วแต่ก็ไม่มีข้าวสารขายเลย เขาจนปัญญามาก และเหลือบไปเห็นว่าในมือของชาวเมืองมีข้าวสารอยู่ จึงได้พาคนไปถามว่าขายรึไม่ เขายอมจ่ายในราคาสูง แต่ก็ถูกปฏิเสธกันหมด

ในสถานการณ์เช่นนี้เหล่าชาวเมืองก็ล้วนนำข้าวสารไปแลกที่นากันหมด ข้าวสารที่เดิมราคาไม่กี่อีแปะ แต่ตอนนี้ต่อให้จ่ายหนึ่งตำลึงทองก็ซื้อไม่ได้ มีข้าวสารแปลว่ามีที่นา ใครจะโง่ขายข้าวสารกัน

เหล่าเด็กรับใช้ไม่ได้อะไรกลับมาเลย และเดินไปรายงานฉินอวี้เฟิงว่า “ทะ ท่านชายขอรับ ไม่มีข้าวสารเลยขอรับ”

ฉินอวี้เฟิงที่นั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ จินตนาการถึงเรื่องราวดีๆอยู่ เมื่อได้ยินรายงานของผู้ดูแลก็ตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น พร้อมพูดเสียงเข้มงวดว่า “พูดบ้าอะไรของเจ้า มีเงินยังซื้อข้าวสารไม่ได้รึ?”

ผู้ดูแลตกใจสะดุ้งโหยงแล้วพูดด้วยเสียงสั่นคลอนว่า “ตอนนี้เหล่าชาวเมืองต่างก็เอาข้าวสารไปแลกที่นากันหมด ไม่ว่าจะจ่ายเท่าไรก็ไม่ยอมขาย ข้าเองก็จนปัญญาแล้ว”

ฉินอวี้เฟิงมองผู้ดูแลแล้วรู้สึกเดือดดาล จึงด่าทอว่า “จะด่าแกว่าโง่หรือโง่ดี! ข้าหาเงินได้มากมาย เหตุใดยังต้องไปซื้อข้าวอีก ไปซื้อที่นาที่วิสาหกิจเลยไม่ดีรึไง!”

ผู้ดูแลพูดอย่างลำบากใจว่า “ท่านชายขอรับ ทางวิสาหกิจปฏิบัติการคืนพื้นที่นาแก่ชาวนา นั่นเป็นการผลักดันของทางพระราชสำนัก เกรงว่าจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข......”

“หยุดพล่ามเรื่องไร้สาระกับข้าได้แล้ว!”

ฉินอวี้เฟิงตะคอกอย่างเดือดดาลขึ้นแทรกผู้ดูแล เขาจ้องเขม็งอย่างเดือดดาลว่า

“มีเงินจะทำอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ข้าไม่เชื่อหรอกนะว่าเงินจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ตามข้ามา!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็นำเงินและพาพวกคนรับใช้มุ่งหน้าไปยังวิสาหกิจทันที

ที่หน้าประตูวิสาหกิจมีคนต่อคิวยาวเหยียด ทุกคนต่างถือข้าวมาแลกที่ดิน ฉินอวี้เฟิงเพิกเฉยและเดินตรงไปยังทางเข้า ขาตบถุงเงินหนักๆต่อหน้าผู้ดำเนินงานแล้วถามอย่างโอหังว่า

“เงินพวกนี้ซื้อที่ได้เท่าไร”

ผู้ดำเนินงานไม่มองเขาเลยแม้แต่หางตา และพูดอย่างประชดประชันว่า

“ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระราชสำนัก ไม่เก็บแม้แต่อีแปะเดียว รับเพียงข้าวห้าถังเท่านั้น”

ฉินอวี้เฟิงรู้สึกเสียหน้าจึงชี้หน้าด่าผู้ดำเนินงานว่า “เจ้ารู้รึไม่ว่าข้าคือใคร กล้ากล่าวพูดแบบนี้กับข้า! เงินพวกนี้เพียงพอต่อการซื้อชีวิตเจ้าด้วยซ้ำ!”

ผู้ดำเนินงานประสานมือคารวะต่อท้องฟ้า “ข้าปฏิบัติตามข้อบังคับของพระราชสำนัก ถูกต้องทุกประการ เจ้ายังกล้าขู่ข้ารึ ชีวิตข้าอยู่นี่แล้ว เจ้ากล้าเอาไปรึไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์