องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 469

สรุปบท ตอนที่ 469 คำพูดดีๆ ยากต่อการโน้มน้าวพวกที่หิวโหย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

สรุปตอน ตอนที่ 469 คำพูดดีๆ ยากต่อการโน้มน้าวพวกที่หิวโหย – จากเรื่อง องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

ตอน ตอนที่ 469 คำพูดดีๆ ยากต่อการโน้มน้าวพวกที่หิวโหย ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดยนักเขียน Namfon เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาเดียวกัน

มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในหอหม่านโหลว

สถานการณ์ในรัฐจ้าวได้พัฒนามาถึงจุดนี้และสิ้นสุดลงแล้ว ตามคำแนะนำของฉินเหยียน อาณาจักรจ้าวนั้นจะล่มสลายลง ในวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะล่มสลายนั้น ทั้งอาณาจักรและประชาชนจะตายลงโดยไร้ความหวัง

อูฐที่หิวโหยนั้นใหญ่กว่าม้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาณาจักรเลย

คนที่จมน้ำต่างดิ้นรนกันอย่างสิ้นหวัง ยังมีความหวังริบหรี่ เมื่อการตอบโต้ครั้งสุดท้ายของอาณาจักรจ้าวนั้นรุนแรงเกินไป หลิวเชียนเชียนและคนอื่นๆ อาจจะต้องเป็นคนที่ทุกข์ทนทรมานแทน

ในเมื่อรู้อยู่ก่อนแล้ว แน่นอนว่าจะต้องรีบเตรียมพร้อม

อ๋องเหยียนได้บันทึกเอาไว้ว่า อย่าเอาไข่ทุกฟองใส่ไว้ในตะกร้า

เมื่อหลิวเชียนเชียนล่อลวงอู๋ซานกุ่ยได้สำเร็จ นางก็เริ่มแจกจ่ายเงินที่หอหม่านโหลวหามาได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นไปยังอาณาจักรอื่นๆ ตามวิธีทางธุรกิจ

ของโบราณล้ำค่าและภาพวาดที่มีชื่อเสียงทั้งหมดในหอหม่านโหลวได้รับการแลกเปลี่ยนเป็นเงินและทอง ทรัพย์สินส่วนตัวขนาดใหญ่ไม่อาจนำกลับไปด้วยได้ ถูกซ่อนอยู่ในภูเขาบางแห่งไว้กลับมาเอาคืนในอนาคต

หอหม่านโหลวในตอนนี้ ด้านในนั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยนอกจากอาคารที่ไม่อาจรื้อถอนไปได้

นกพิราบส่งจดหมายบินรับและส่งจดหมายไปทั่วท้องฟ้า

ในเวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง หลิวเชียนเชียนกลับได้รับจดหมายถึงสิบฉบับ ซึ่งเนื้อหานั้นเกี่ยวกับสงครามฝั่งแนวหน้า

อ่านไปด้วยพลางรู้สึกร้อนรน มองไปรอบๆ อย่างใจจดใจจ่อ

“ทำไมซูปั้นเฉิงยังไม่มาอีก เจ้าคนขี้เกียจ!”

...

บนถนนที่มีคนเดินทางกับคับคั่ง

ซูปั้นเฉิงนั่งอยู่ยนรถม้า ฮัมเพลงอย่างสบายใจ โดยมีลูกชายคนโต ซูซิน อยู่ข้างๆ

หลิวเชียนเชียนเรียกให้ซูปั้นเฉิงไปยังหอหม่านโหลวเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ

ซูปั้นเฉิงคิดว่าเป็นเรื่องธุรกิจ เขาจึงพาลูกชายมาด้วย

ซูปั้นเฉิงค่อนข้างภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้เป็นอย่างมาก

เขาสามารถอ่านบัญชีและแยกประเภทได้เมื่อตอนอายุแค่เพียงแปดขวบ และจัดการบัญชีได้เมื่ออายุสิบขวบ เขาเกิดมาเพื่อเป็นพ่อค้า

ซูปั้นเฉิงหวังว่าลูกชายของเขาจะสืบทอดธุรกิจต่อจากตน เขาจึงให้ลูกชายคนโตคนนี้เข้ามาทำความคุ้นเคยกับธุรกิจของตระกูลซูโดยเร็วที่สุด แม้ว่าการที่ทำงานกับเขานั้นจะเหนื่อยมากก็ตาม

ต้องรู้ว่าตอนนี้ซูปั้นเฉิงเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรจ้าว ความมั่งคั่งที่เขาครอบครองนั้นพูดได้เลยว่ารวยพอๆ กับอาณาจักรอื่นๆ

เขาสร้างบ้านสิบเจ็ดหลังที่มีขนาดใหญ่เท่าพระราชวังในเมืองหลวงของทั้งแปดเมือง และเงินทองมากมายนับไม่ถ้วน

ไม่เพียงเท่านั้น การปล่อยเงินกู้ให้คนรวยและคนจน ทำให้เขาได้ประโยชน์อย่างมาก

แม้แต่ญาติของฮ่องเต้อาณาจักรจ้าวเองยังเป็นลูกค้าของเขา เขามีทั้งเงินและชื่อเสียง นี่คือจุดสูงสุดในชีวิตของเขาแล้ว

“นายท่าน เรามาถึงแล้ว”

รถม้าหยุดลง ซูปั้นเฉิงรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นหอหม่านโหลวทำเงินได้มากมายเช่นนี้

“ผู้ดูแลหอหลิวก็กังวลเกินไปแล้ว!”

“แม้ว่าสถานการณ์ในอาณาจักรจ้าวจะไม่ดี แต่ไม่ว่าเจ้าจะว่าอย่างไร ก็ไม่มีทางส่งผลกระทบได้อย่างแน่นอน”

“นอกจากนี้ข้ายังได้บริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้แก่ราชวงศ์ในทุกๆ เดือน คนในราชวงศ์ต่างเป็นเพื่อนของข้า หากเกิดเรื่องขึ้นข้าต้องรู้อย่างแน่นอน”

“อีกอย่าง เจ้าดูอู๋ซานกุ่ยสิ เขาเป็นคนบ้าบิ่นและกล้าหาญ ถึงได้ถูกคนอาณาจักรฉินเช่นพวกเจ้าจึงยุยงให้เขาเป็นกบฏ เขาเองก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นหรอก”

ซูปั้นเฉิงนั้นเหมือนถูกเส้นผมยังภูเขา เขาคิดเสมอว่าตนนั้นรู้มากแล้ว แต่คนไม่รู้อะไรอย่างเขายังกล้าคิดวิเคราะห์แนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในโลกใบนี้อีก

หลิวเชียนเชียนพยายามยื้ออยู่พักหนึ่งและพูดอย่างจริงจังว่า

“ผู้จัดการซู ในบรรดาเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุน มีเพียงอวิ๋นเฉิงเท่านั้นที่ยังพยายามยื้ออยู่ อู๋ซานกุ่ยที่ได้รับการสนับสนุนจากฝั่งแนวหน้า ตอนนี้ได้หันกลับมาต่อต้านเขาแล้ว เขาได้พิชิตซานเซี่ยถูกยึดครองแล้ว และเมืองหลวงของจังหวัดหลักที่ใกล้เปี้ยนจิงก็ตกอยู่ในมือเขาแล้ว อีกไม่นานอู๋ซานกุ่ยจะโจมตีเปี้ยนจิง หากไม่หนีก็อาจจะสายเกินไป”

ซูปั้นเฉิงยิ้มอย่างขมขื่นและพูดกลับว่า

“พูดเช่นนี้ พวกเจ้าเป็นผู้หญิงผมยาวแต่ความรู้กลับสั้นนัก”

“เจ้ามาจากอาณาจักรฉิน เจ้าสนใจแค่อาณาจักรฉินเท่านั้น ข้าไม่ตำหนิเจ้าในเรื่องนี้”

“แต่ให้ข้าอธิบายให้ชัดเจนในวันนี้ สงครามระหว่างอาณาจักรจ้าวและอาณาจักรฉินนั้น อาณาจักรฉินของเข้าพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”

“เมืองเล็กๆ อย่างอวิ๋นเฉิง ขนาดผ่านมาสามเดือนแล้วพวกเจ้ายังเอาชนะไม่ได้เลย ฝ่ายเราแค่ส่งแม่ทัพหญิงออกไปโจมตี เจ้ากลับต้องหนีหัวซุกหัวซุน อาณาจักรฉินของพวกเจ้าไม่ต้องกลัวเลย”

“ดังนั้นข้าขอแนะนำเจ้า อย่าพูดให้เสียน้ำลายเลย ทำไม เจ้ายุอู๋ซานกุ่ยได้ เจ้าคิดจะยุข้าด้วยอย่างนั้นหรือ เจ้าไม่ได้ดูถูกซูปั้นเฉิงมากเกินไปหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์