ฉินชงมองไปที่น้องแปดที่กำลังร้องไห้อย่างคร่ำครวญบนกำแพงเมือง รู้สึกสับสนเป็นอย่างมากในเวลานี้
ตอนนี้ไท่ฟู่ได้ยกทัพขึ้นเพื่อก่อกบฏแล้ว เขาจะยอมแพ้ไม่ยึดเมืองอวิ๋นเฉิงต่อได้อย่างไรเล่า
หากเขาเมินเฉยต่อการก่อกบฏของไท่ฟู่และยืนกรายที่จะโจมตีเมืองอวิ๋นเฉิง น้องแปดต้องตายอย่างแน่นอน
หากเขายอมแพ้การสู้รบในเวลานี้ เช่นนั้นสงครามระหว่างอาณาจักรจ้าวและอาณาจักรฉินจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องล่าถอย เมืองที่ยึดมาได้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้ สุดท้ายแล้วพวกเขาต้องยอมรับความพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
ผลลัพธ์ที่เลวร้ายได้ปรากฏเด่นชัดขึ้นในใจแล้ว เขากำลังตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาควรทำเช่นไรดี?
ฉินชงกำลังคิดมาตรการตอบโต้ในใจ แต่เสียงร้องโห่ของกองทัพส่วนตัวตระกูลซ่งกลับดังขึ้น อีกทั้งเสียงร้องขององค์ชายแปดทำให้เขาไม่สบายใจ
ในตอนนี้ไม่มีทางอื่น นอกจากจะต้องฝากความหวังไว้ที่ฉินเหยียน น้องสิบสี่ของเขา
เขาจึงตัดสินใจพูดออกไปว่า
“ข้าขอสั่งให้ถอนทัพ!”
เมื่อตระกูลขุนนางได้ยินเรื่องถอนทัพ พวกเขาต่างแสดงความไม่พอใจ
“พวกเราถอนทัพไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ เมืองอวิ๋นเฉิงอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว!”
สีหน้าของฉินชงหม่นหมองลงทันที ในสายตาของตระกูลขุนนางสนใจแค่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ไม่สนใจชีวิตของคนอื่นเลย
เขามองไปที่คนเหล่านั้นด้วยสายตาเย็นชา มีความไม่พอใจในน้ำเสียง เขาพูดอย่างเด็ดขาดว่า
“ข้าสั่งว่าให้ถอนทัพออกไปสิบลี้!”
พูดจบ เขาก็หันหัวม้าเดินกลับไปทันที
บรรดาตระกูลขุนนางไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป เขาทำได้เพียงทำตามคำแนะนำของฉินชงและถอนกำลังออกไปเท่านั้น
ด้านในกำแพงเมือง
ภายใต้การป้องกันที่แข็งแกร่งของทหารที่สวมชุดเกราะหลายสิบคน ไท่ฟู่นั่งอยู่ตรงกลางหัวเราะเบาๆ
“องค์ชายใหญ่ฉินชง ช่างโง่เขลาเสียจริง การถอนทัพเป็นกลยุทธ์ทางการทหารที่ล่าช้าที่สุดในความคิดของข้า จากนี้ขึ้นอยู่กับแผนการแยกตัวของข้าแล้ว ทำให้อาณาจักรฉินหาทางหนีทีไล่ไม่ได้!”
“ทหาร ส่งข้อความลับไปยังตระกูลใหญ่ ขอให้พวกเขาทำตามวิธีของข้า และเริ่มก่อกบฏต่ออาณาจักรฉิน ณาจักรฉินจะต้องเป็นของคนอื่นอย่างแน่นอน!”
“ขอรับ!”
กองทัพส่วนตัวตระกูลซ่งทำตามคำแนะนำของไท่ฟู่ทันที เริ่มเขียนจดหมายลับและปล่อยนกพิราบนำข้อความส่งไปทันที
ในเวลานี้ นกพิราบจำนวนนับำม่ถ้วนบินขึ้นทะยานไปบนท้องฟ้า บินไปยังเมืองที่อาณาจักรฉินได้ครอบครองอยู่
...
อีกด้านหนึ่ง
ฉินเหยียนและพรรคพวกของเขามาถึงคูเมืองที่สอง เมืองหลิว
เมื่อต้าหย่งเห็นนกพิราบส่งข้อความบินผ่านไป เขาตั้งธนูขึ้นและยิงธนูทันที จากนั้นจับนกพิราบและหยิบจดหมายลับขึ้นมาส่งให้ฉินเหยียน
ฉินเหยียนหยิบจดหมายลับแล้วเปิดออกด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ
“ข้าคาดเดาเอาไว้แล้วว่า หากไท่ฟู่ยึดเมืองอวิ๋นเฉิงไว้ได้ เขาจะต้องคิดกบฏอย่างแน่นอน และจะต้องยุยงตระกูลขุนนางอื่นๆ ให้คิดกบฏตามเขา”
“ท้ายที่สุดแล้ว เพียงแค่มือเดียวไม่มีพลังมากนัก มีแค่กำปั้นเท่านั้นที่จะโจมตีคนอื่นได้ เช่นนี้ทำให้อาณาจักรฉินอยู่ในวิกฤต”
“โชคดีที่ข้าคิดมาอย่างรอบคอบ ได้จัดการคนเหล่านั้นก่อนแล้ว”
หลังจากที่ติดตามอ๋องเหยียนมาเป็นเวลานาน ต้าหย่งก็รู้ว่าอ๋องเหยียนเป็นคนคิดทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ไม่มีสิ่งใดรอดเงื้อมมือเขาไปได้ ดังนั้นเขาจึงถามออกไปแค่ว่า
“อ๋องเหยียน ตอนนี้อยู่ที่เมืองหลิวแล้ว คาดว่าคนในเมืองจะต้องไปรับจดหมายลับนี้เช่นเดียวกัน เราควรทำเช่นไรดี?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...