องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 494

สรุปบท ตอนที่ 494 ชื่อเสียงของแม่ทัพสือ: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์

สรุปตอน ตอนที่ 494 ชื่อเสียงของแม่ทัพสือ – จากเรื่อง องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดย Namfon

ตอน ตอนที่ 494 ชื่อเสียงของแม่ทัพสือ ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ โดยนักเขียน Namfon เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ประตูซานเซี่ย

ความขัดแย้งในเมืองอวิ๋นเฉิงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้กองทัพของอู๋ซานกุ่ยยังนิ่งเฉย

หากเขาไม่อาจบรรลุความร่วมมือกับอาณาจักรฉินได้ เช่นนั้นเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เพราะศัตรูจะบุกมาหาเขาจากทั้งสองฝั่ง

หากรู้ก่อนหน้านี้ เขาน่าจะโจมตีเมืองอวิ๋นเฉิงเสียก่อน เขาคำนวณผิดไปจริงๆ!

อู๋ซานกุ่ยรอให้ทูตกลับมา เขารอแทบไม่ไหวแล้ว เขากังวลมากจนไม่เป็นอันทำอะไร

ในเวลานี้ มีทหารยามเข้ามารายงานว่า

“ราบงานต่อท่านแม่ทัพ ทูตกลับมาแล้วขอรับ!”

ทันใดนั้นดวงตาของอู๋ซานกุ่ยก็เป็นประกายขึ้น รีบพูดขึ้นมาว่า

“เร็วเข้า ไปเรียกเขาเข้ามา!”

ทหารยามยกมือขึ้น

“ท่านแม่ทัพ ทูตได้พาคนคนหนึ่งมาด้วยขอรับ”

อู๋ซานกุ่ยงุนงงเล็กน้อย

“เขาพาใครมากัน?”

ทหายามพูดต่อ

“เป็นทูตจากอาณาจักรฉินขอรับ”

อู๋ซานกุ่ยขมวดคิ้วและโบกมือปัดว่า

“พาตัวเข้ามา”

หลังจากนั้นไม่นาน แม่ทัพสือก็ถูกพาตัวเข้ามาด้านใน

เมื่อเขาเห็นสือเหล่ยเป็นครั้งแรก สีหน้าของอู๋ซานกุ่ยพลันไม่พอใจ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ยจะใส่เสื้อเกราะหนังสัตว์มาด้วย

นี่คือดินแดนของเขา หากอาณาจักรฉินกล้าส่งแม่ทัพเข้ามาควบคุม นี่ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอำนาจที่ชัดเจนให้เขาหรือ?

แม้ว่าทั้งสองกองทัพจะต่อสู้กันโดยไม่ได้สังหารทูต แต่หากสถานะการเจรจาของทั้งสองฝ่ายไม่เท่าเทียมกัน อาจจะสูญเสียความคิดและความตั้งใจเดิมของตนเองไป ใครก็ตามที่อ่อนแอกว่าจะต้องเสียเปรียบการเจรจาในครั้งนี้

เพื่อที่จะสถาปนาอำนาจของเขา อู๋ซานกุ่ยชักดาบออกมา แล้วชี้ไปที่สือเหล่ย พร้อมกับพูดอย่างไม่พอใจว่า

“ใครส่งเจ้ามา!”

ทหารยามสองคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกห้องก็ชักดาบออกมาเช่นกัน เผชิญหน้ากับสือเหล่ยด้วยท่าทีดุร้าย

เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ของอู๋ซานกุ่ย สือเหล่ยประสานมือทักทายอย่างใจเย็น

“ข้าคือแม่ทัพสือ สือเหล่ย ผู้บัญชาการกองทัพจิ้งจอกขององค์ชายสิบสี่ ฉินเหยียน”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ทุกคนพลันหายใจ้เข้าลึกๆ

ชื่อของแม่ทัพสือถือเป็นชื่อต้องห้ามในอาณาจักรจ้าว ใครก็ตามที่มาจากกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นทหารชั้นผู้น้อยหรือโจรป่า ต่างไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงของแม่ทัพสือคนนี้

อู๋ซานกุ่ยสับสนขึ้นในทันที ไม่รู้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร เขาหยุดและถามออกไปว่า

“เจ้ารอสักครู่!”

ในใจของเขาตอนนี้สับสนวุ่นวายไปหมด เขาไม่ได้ร่วมมือกับไท่ฟู่หรือ เหตุใดถึงกลายเป็นอาณาจักรฉินไปได้?

อีกอย่างแม่ทัพสือไม่ใช่กองทัพโจรป่าหรอกหรือ เขาแปรพักตร์มาอยู่กับอาณาจักรฉินตั้งแต่เมื่อใด

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

จู่ๆ อู๋ซานกุ่ยก็เกิดคำถามขึ้นในใจ

ทหารที่เฝ้าพื้นที่โดยรอบพูดคุยเสียงดัง

ทันทีที่เขาเดินผ่าน ทหารที่อยู่รอบๆ ต่างตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูกเหมือนได้เจอคนที่ชื่นชอบ

เนื่องจากมีข่าวลือเกี่ยวกับแม่ทัพสือมากมายในอาณาจักรจ้าว

มีบางเรื่องเล่าว่าเขาใช้กองทัพทหารดั่งใช้เวทมนตร์ นำทหารอห่งสวรรค์หนึ่งร้อยแปดนายจุติบนโลก ใช้กฎแห่งสวรรค์ และสู้รบไม่มีวันตาย

แม้แต่แม่ทัพหยางจิ่นซิ่ว แม่ทัพหญิงแห่งตระกูลหยางที่คอยปกป้องเมืองเวิ๋นเฉิงมาเป็นเวลาหลายเดือนก็ไม่ใช่ศัตรูที่คู่ควรกับเขา

องค์ชายทั้งสิบสามคนแห่งอาณาจักรฉิน มีทหารหลายล้านคน แต่พวกเขากลับพ่ายแพ้ทุกครั้งด้วยน้ำมือของแม่ทัพสือ เขาได้ฆ่าและตัดหัวทหารจำนวนนับไม่ถ้วน และเป็นตัวอย่างที่ดีในใจของทหารกองทัพอาณาจักรจ้าว

มีตำนวนเกี่ยวกับเขาในใต้หล้านี้มานานแล้ว และบรรดาทหารต่างรู้จักเขา

นอกจากนี้อาณาจักรจ้าวเองก็ไม่ลังเลเลยที่จะใช้เงินจำนวนมากเพื่อดึงตัวเขามา โดยเสนอว่าตราบใดที่แม่ทัพสือยอมตกลง ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสามกองทัพก็จะตกเป็นของเขา

ซึ่งหมายความว่าตราบใดที่แม่ทัพสือได้รับเลือก อู๋ซานกุ่ยก็ไร้ความหมาย

ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว แม่ทัพสือไม่ยอมตกลงต่ออาณาจักรจ้าว

แต่พวกเขาไม่คิดว่าแม่ทัพที่โด่งดังจะแปรพักตร์ไปอยู่กับอาณาจักรฉิน

ในเวลาเดียวกัน

ทันทีที่สือเหล่ยเดินออกมา อู๋ซานกุ่ยที่อยู่ด้านหลังพลันหมดความอดทน ขอให้ทูตส่วนตัวรายงานสถานการณ์ทั้งหมด

องครักษ์ส่วนตัวเริ่มจากการเติมเชื้อเพลิงเข้าโคมไฟ อีกทั้งเล่าเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นในอวิ๋นเฉิงอย่างละเอียด

อู๋ซานกุ่ยพึมพำทันที เขาพูดออกมาอย่างไม่เชื่อ

“เขาเป็นพระเจ้าจริงๆหรือ? เขาสามารถกวาดล้างตระกูลขุนนางถึงหนึ่งหมื่นคนของไท่ฟู่อย่างเงียบๆ หรือ?”

องครักษ์ส่วนตัวพยักหน้าเหมือนคนโง่ แต่เขาเองก็กลัวเช่นกัน เขาพูดออกไปอย่างมั่นใจว่า

“เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอนขอรับ ข้าที่อยู่บนกำแพงเมืองในเวลานั้นเห็นกับตา ทหารเฝ้าเมืองกว่าหนึ่งหมื่นนายถูกเขาฆ่าตาย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์