เมื่อฉินเหยียนทำการอ่านเรียบร้อยแล้ว เหล่าผู้ผ่านเข้าสอบที่ถูกขานชื่อก็เข้าแถวอย่างมีระเบียบ ทุกคนเดินเข้าไปในตำหนักจินหลวนโดยมีฉินเหยียนคอยเดินนำ
ในตำหนักจินหลวน
ฮ่องเต้ฉินนั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างน่าเกรงขาม เมื่อมองเห็นเหล่าผู้ผ่านเข้าสอบแล้วสีหน้าก็ไม่ค่อยดีนัก เขารู้สึกว่ามีผู้หญิงเยอะมาก และขมวดคิ้วถามขึ้นว่า
“ที่นี่มีหญิงสาวกี่ท่าน?”
ฉินเหยียนออกคำสั่งว่า “หญิงสาวจงถอดหมวก”
ในบรรดานักเรียนสี่ร้อยกว่าคน มีจำนวนสามร้อยกว่าคนที่ถอดหมวก ผมสีดำสยายลงบนไหล่อย่างงดงาม
ฮ่องเต้ฉินเห็นว่าเกือบเป็นผู้หญิงทั้งหมด ก็รู้สึกอึ้งไปทันที
แต่ฉินเหยียนกลับไม่ได้ประหลาดใจอะไร และพูดต่อว่า “โจวอ้ายฮวา ถานอวี้หรู เจียงจาวตี้ ก้าวขึ้นมา”
“เพคะ” หญิงสามทั้งสามคนเดินออกมา
“โจวอ้ายฮวาจากเมืองใหม่ เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ”
“ถานอวี้หรูจากเขตซุ่นชิ่ง เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ”
“เจียงจวาวตี้จากเขตหลินอวี๋ เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ”
เมื่อทั้งสามแนะนำตัวแล้วก็คุกเข่าคำนับพร้อมเพรียงกัน “ฝ่าบาททรงมีอายุยืนยาวหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”
สีหน้าของฮ่องเต้ฉินไม่สู้ดีนัก ผู้ที่ได้สามอันดับแรกล้วนเป็นผู้หญิง แล้วจะให้เขาทำอย่างไรดี หากไม่ยอมให้อันดับ ก็จะทำให้ตนเองเสียหน้า แต่หากยอมให้แล้วก็จะเป็นที่น่าขันของผู้อื่น และจะหาว่าเป็นอาณาจักรหญิงสาว
ในขณะที่กำลังรู้สึกลังเลอย่างมาก ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็เข้ามาเข้าเฝ้า นางเดินเข้ามาในตำหนักจินหลวน
“เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาททรงมีอายุยืนยาวหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี”
ฉินเหยียนโบกมือแล้วถามขึ้นว่า “ยืนขึ้นเถิด สนมเสาวคนธ์มาที่นี่ด้วยเรื่องใดรึ?”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ยืนขึ้นแล้วพูดอย่างเคารพว่า “ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันได้ยินมาว่าปีนี้มีหญิงสาวที่ผ่านการสอบมากมาย หม่อมฉันดีใจอย่างมาก จึงได้มาดูเหล่าพี่ๆว่าล้วนเป็นผู้ใดเพคะ”
ฮ่องเต้ฉินถอนหายใจยาวๆ แม้ว่าเขาจะตอบตกลงว่าหญิงสาวสามารถสอบได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นอย่างเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะจบเรื่องนี้อย่างไรเลย
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ยิ้มแล้วกวาดตามองเหล่าหญิงสาวที่สอบผ่านด้วยรอยยิ้ม
“หม่อมฉันอิจฉาแม่นางเหล่านี้ยิ่งนัก สามารถได้เล่าเรียนและเป็นประโยชน์แก่อาณาจักรฉินได้เช่นนี้ หม่อมฉันเป็นคนโชคดีที่ได้อยู่เคียงข้างฝ่าบาทอย่างสุขสบาย แต่ไม่รู้ว่าใต้หล้านี้ยังมีเหล่าพี่ๆน้องๆอีกมากมายแค่ไหน ที่ไม่ได้โชคดีอย่างหม่อมฉัน ทำได้เพียงใช้ชีวิตผ่านไปวันๆอย่างไร้ปัญญา”
“บัดนี้ด้วยเมตตาที่มีต่อทุกคนของฝ่าบาท ยินยอมให้หญิงสาวสามารถเข้าสอบได้เช่นกัน ทำให้ชีวิตของเหล่าหญิงสาวทั่วใต้หล้ามีความหวังมากขึ้น หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทแทนเหล่าพี่ๆน้องๆด้วยเพคะ!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็คุกเข่าลงอีกครั้งแล้วกราบกราน
คำพูดเหล่านี้ทิ่มแทงใจของเหล่าหญิงสาวอย่างมาก พวกนางพร่ำลำบากบากบั่นร่ำเรียนมา หากในด้านความรู้ความสามารถพวกนางไม่ได้แย่กว่าผู้ชายเลย แต่กลับไม่เคยได้ใช้เลย
แต่ตอนนี้สามารถมายืนอยู่ในตำหนักจินหลวนได้ ไม่รู้ว่าพวกนางผ่านความยากลำบากมามากกว่าผู้ชายแค่ไหน
ฮ่องเต้ฉินเองก็ตะลึง ตั้งแต่สมัยโบราณผู้ชายมีความเหนือกว่าผู้หญิง ซึ่งมันคือขนบธรรมเนียมที่เสื่อมเสีย ถึงเวลาที่ต้องทิ้งขนบธรรมเนียมที่เสื่อมเสียแล้ว หากอยากจะเป็นผู้มีความยุติธรรม ก็ต้องทำให้ทุกสรรพสิ่งมีความเท่าเทียมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...