ถ้าทางตอนเหนือของเวิ่งเฉิงนั้นเป็นภาพที่เจริญรุ่งเรืองและครึกครื้น เช่นนั้นทางตอนใต้ของเวิ่งเฉิง ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปเขตปกครองสิบหกเขตแห่งเยี่ยนหยุน สามารถเรียกได้ว่าเป็นเขตทุรกันดารที่แสนอนาถ
มองไปตลอดการเดินทางแล้วพบเพียงความยุ่งเหยิงเต็มไปหมด ความเปล่าเปลี่ยวหลังสงครามไม่สามารถฟื้นตัวได้ในชั่วข้ามคืน ต่อให้ก่อนหน้านี้จ้าวจีเอ๋อร์จะเคยมาปลอบโยน แต่ผู้ลี้ภัยที่ต้องพลัดถิ่นเนื่องจากสงครามยังคงหิวโหย สถานการณ์ย่ำแย่
บนรถม้า ฮ่องเต้ฉินขมวดคิ้วแล้วมองเห็นเหล่าชาวเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า
“เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ชีวิตของชาวเมืองอาณาจักรฉินก็ยังถือว่าสงบสุข”
ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ทุบไหล่และพูดไปด้วยว่า “ฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้ที่รักชาวเมือง อาณาจักรฉินจะต้องสันติสุขอยู่แล้วเพคะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ฉินก็ยิ้มแย้มแล้วลูบหนวดพร้อมพูดว่า “มีเพียงอาณาจักรถูกปกครองอย่างถูกต้องเท่านั้น จึงจะมีความสันติสุขได้”
รถม้าเดินทางมาถึงเมืองหลิว
ฉินเหยียนมายังรถม้าของฮ่องเต้ฉินแล้วรายงานว่า “ท่านพ่อพ่ะย่ะค่ะ ที่นี่คือสถานทอผ้าที่ลูกสร้างขึ้น ท่านพ่อโปรดลงมาช่วยชี้แนะด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“นำทางไป”
เมื่อฮ่องเต้ฉินลงจากรถม้าแล้วก็ตามฉินเหยียนมาถึงหมู่บ้านที่ใหญ่หลวงที่หนึ่ง ในหมู่บ้านล้วนมีแต่หญิงสาว ถ้าคำนวณคร่าวๆ ก็มีเป็นร้อยๆคน เหล่าหญิงสาวต่างก็กำลังควบคุมเครื่องทอผ้าอยู่ในบ้านของใครของมันเพื่อทำงานทอผ้า
ฮ่องเต้ฉินเดินไปแล้วถามอย่างสงสัยว่า “ผู้หญิงพวกนี้กำลังทำสิ่งใดอยู่รึ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านพ่อ ผู้หญิงพวกนี้ล้วนเป็นชาวเมืองในพื้นที่พ่ะย่ะค่ะ ลูกได้จ้างพวกนางเป็นคนทอผ้า รับผิดชอบด้านการทอผ้าโดยเฉพาะพ่ะย่ะค่ะ”
ผ้าเมฆของอาณาจักรจ้าวนั้นโด่งดังอย่างมาก ผู้หญิงคนหนึ่งในอาณาจักรจ้าวล้วนมีฝีมือการทอผ้าที่วิเศษมาก
ฮ่องเต้ฉินชี้ไปยังเครื่องทอผ้าแล้วถามขึ้นว่า “นี่คือเครื่องทอผ้าของอาณาจักรจ้าวงั้นรึ?”
ฉินเหยียนแนะนำอย่างภูมิใจว่า “ท่านพ่อ นี่คือเครื่องทอผ้าที่ลูกคิดค้นขึ้นมาเองพ่ะย่ะค่ะ เมื่อมีสิ่งนี้แล้วความเร็วในการทอผ้าจะเร็วกว่าเมื่อก่อนร้อยเท่าพ่ะย่ะค่ะ”
“เมื่อก่อนหญิงทอผ้าหนึ่งคนสามารถทอผ้าได้ประมาณหนึ่งฟุตต่อวัน แต่เมื่อมีเครื่องทอผ้าแล้ว ไม่เพียงแต่จะใช้งานได้ง่าย แถมครึ่งชั่วโมงก็สามารถทอผ้าออกมาได้หนึ่งผืนแล้ว”
ฮ่องเต้ฉินมองเครื่องทอผ้าที่ทำงานไม่หยุด สีหน้าของเขาตกตะลึงอย่างมาก ทันใดนั้นเองหลู่เจาที่ไปควบคุมงานก็กลับมา เมื่อเห็นว่าอ๋องเหยียนมาตรวจงานจึงรีบวิ่งเข้าไปแล้วประสานมือคารวะคำนับว่า
“ไม่ทราบว่าอ๋องเหยียนมาเยือน หม่อมฉันจึงต้อนรับช้า ขออภัยด้วยเพคะ”
ฉินเหยียนโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร” จากนั้นก็ได้แนะนำว่า “นี่คือท่านพ่อของเรา ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรฉิน”
หลู่เจาสีหน้าเปลี่ยนไปแล้วรีบคุกเข่าคำนับอย่างตื่นตระหนกทันที
“หม่อมฉันเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาททรงอายุยืนยาวหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...