เด็กสาวน้ำตาไหล ไม่มีใครสนใจนางตั้งแต่นางยังเด็ก เพื่อความอยู่รอดของตัวเองนางจึงต้องขายตัวและกับอาหาร ผู้ชายในหมู่บ้านต่างมาร่วมหลับนอนกับนาง แต่เมื่อมาถึงช่วงที่ต้องสังเวยชีวิตให้แก่เทพเจ้าแห่งแม่น้ำ ทุกคนต่างอยากให้นางตายไปเสีย
ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า ไม่เพียงแต่ไม่สนใจว่านางเป็นตัวซวย แต่พวกเขากลับยื่นขาไก่ให้นางอีกด้วย นี่ขาไก่เชียวนะ อาหารอันโอชะของโลกใบนี้ เขาไม่ต้องการอะไรจากนาง แถมยังมอบอาหารให้อีก
ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นหัวใจยิ่งนัก
“ฟุ่บ” นางคุกเข่าลงต่อหน้าฉินเหยียน น้ำตาไหลอาบหน้า และขอบคุณจากใจ
“จิ่วเอ๋อร์ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยชีวิตข้า!”
หยางจิ่นซิ่วพยุงนางให้ลุกขึ้น ฉินเหยียนวางขาไก่ในมือของนาง
“ไม่ต้องเกรงใจ หลังจากนี้มาอยู่กับพวกข้า รีบกินตอนยังร้อนๆ เถอะ”
นางพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ปาดน้ำตา กัดขาไก่คำใหญ่และร้องไห้สะอึกสะอื้น
“หอม อร่อยมากจริงๆ!”
ทั้งชีวิตนาง ขาไก่ชิ้นนี้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดที่นางเคยกินมา อีกทั้งคนเหล่านี้ยังเป็นคนที่ดีที่สุดที่นางเคยพบเจอด้วยเช่นกัน
นางจดจำทุกอย่างที้เกิดขึ้นในวันนี้ได้ คนใจดีเหล่านี้ช่วยจุดไฟแห่งความหวังใหม่ให้นางอีกครั้ง
ในใจนางแอบสาบานกับตนเองว่า นางจะตอบแทนพวกเขาให้ได้
ฉินเหยียนเห็นว่าเด็กสาวกำลังเพลิดเพลินกับอาหาร จึงเรียกทุกคนให้มากินอาหารด้วยกัน
บรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น ร่วมกันพูดคุยและหัวเราะขณะกินข้าวกับรอบกองไฟ
ฉินเหยียนถามนางในขณะที่กินข้าวว่า
“ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าชื่ออะไร”
เด็กสาวรีบบอกชื่อตัวเองทันที
“ข้าชื่อว่าหานจิ่ว ข้าเกิดในช่วงฤดูหนาว พวกเจ้าเรียกข้าว่าเสี่ยวจิ่วหรือจิ่วเอ๋อร์ก็ได้เจ้าค่ะ”
ในยุดชายเป็นใหญ่ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้หญิงมากนัก ไม่มีชื่อแซ่ มีแค่ชื่อเรียกติดหูก็เท่านั้น
หยางจิ่นซิ่วดูแลจิ่วเอ่อร์ และคอยถามไถ่
ทุกคนเห็นว่านางยังเด็ก แต่ไม่คาดคิดว่านางจะมีอายุเพียงแค่สิบสีปีเท่านั้น นั่นทำให้ทุกคนต่างรู้สึกสงสารนาง!
“จิ่วเอ๋อร์”
หยางจิ่นซิ่วชี้ไปที่ฉินเหยียนและพูดเสียงต่ำว่า
“ชายคนนี้เป็นผู้นำกลุ่มของเรา อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน จากนี้ไป เจ้าคอยติดตามเขา เพลิดเพลินไปกับการสำรวจโลกใบนี้ มีอาหารให้กินทุกมื้อ เจ้าไม่ต้องกังวลอีกต่อไป”
จิ่วเอ๋อร์กระพริบตากลมโตของนาง
“องค์ชายยิ่งใหญ่กว่าหรือผู้ใหญ่บ้านใหญ่กว่าหันหรือ?”
“ฮ่าๆ!”
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ต่างพากันหัวเราะออกมา เด็กสาวคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ
ขระที่พวกเขาพูดคุยและหัวเราะ ฉินเหยียนเห็นรอยฟกช้ำที่แขนของหานจิ่ว เขาจึงถกแขนเสื้อนางขึ้น
มีทั้งรอยถูกเชือกมัด รอยถูกตี ถูกต่อย ทิ้งรอยฟกซ้ำสีเขียวสีม่วงคล้ำเอาไว้
“ไปหยิบยาแก้ปวดมา”
ฉินเหยียนวางเนื้อเสียบไม้ในมือลง จับแขนหานจิ่วและถกแขนเสื้อนางขึ้น
ผู้คนรอบข้างพากันสับสนกับท่าทีของฉินเหียน แต่เมื่อพวกเขาเห็นรอยแผลจึงเข้าใจในทันที
“มีบางอย่างผิดปกติ!”
ฉินเหยียนตกตะลึง เสี่ยวจิ่วชักแขนกลับ แต่ไม่อาจดึงกลับมาได้เพราะไม่มีแรง
“ถอดเสื้อผ้าออกเถิด ให้ข้าดูใต้แขนเจ้าหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...