เมื่อเฝิงตู่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองแล้วก็ทำเสียงเย็นชา ไม่คิดว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นหมอจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เด็กคนนั้นป่วยหนัก ต่อให้ช่วยก็เสียแรงเปล่า ในขณะที่ครุ่นคิดก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายในตรอกซอย
“หลังนั้นเลย นางแพทศยาคนนั้นพาคนรวยๆกลับมาหลายคนเลย ปล้นมัน!”
ผู้คนต่างพากันเดินมาอย่างโอหัง เฝิงตู่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา ไปถึงไหนก็มีคนพวกนี้ไล่ตามถึงนั่น น่ารำคาญจริงๆ!
เขากอดอกยืนอยู่หน้าประตู แล้วเอียงคอมองคนพวกนั้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรว่า
“พวกเจ้ารีบหนีไปจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นหากกลายเป็นเหยื่อให้ดาบข้าแล้วอย่าหาว่าข้าไร้เมตตา”
ชาวเมืองลี้ภัยเหล่านั้นมองเฝิงตู่ด้วยใบหน้าที่ดุร้าย แล้วพูดอย่างหยาบคายว่า “อย่ามาแส่จะดีกว่า พวกเรา จัดการมัน!”
และแล้วก็มีเสียงชักดาบดัง “ชิ้ง” เฝิงตู่ตาไม่กะพริบ กระบวนท่าเฉียบขาด เขาไม่ได้ขยับตัวเยอะเลย และแล้วศีรษะของคนที่พูดเมื่อครู่นี้ก็มีเลือดพุ่งออกมา จากนั้นก็ล้มไปกับพื้น
“อ๊าก ตาย ตายแล้ว!”
เมื่อคนอื่นๆเห็นวิชาดาบที่เฉียบขาดเช่นนี้ก็ตกใจจนขวัญกระเจิงกันหมด พากันฉี่ราดวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง
เฝิงตู่มองแผ่นหลังที่วิ่งหนีแล้วก็ยิ้มแสยะออกมา “ความสามารถแค่นี้ยังกล้ามาพูดจาอวดดีกับข้าอีกนะ อยากตายกันมากสินะ!”
ในบ้าน
ฉินเหยียนยุ่งอยู่นานกว่าจะขูดซาให้เด็กคนนั้นเสร็จ จากนั้นก็ได้ป้อนซุปขิงให้ และแล้วเด็กคนนั้นก็ไข้ลดลง สีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ฉินเหยียนถอนหายใจยาวๆแล้วพูดย้ำว่า “ตอนนี้เด็กไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว เจ้าไม่มีกำลังจะซื้อสมุนไพร รออีกกี่วันพวกข้าจะเอายามาให้ ถึงตอนนั้นลูกของเจ้าก็คงไม่เป็นไรแล้ว”
ว่าแล้วก็หยิบเงินออกมาเล็กๆน้อยๆ “ข้าจะเอาเงินไว้ให้เจ้าเสียหน่อย เจ้าเอาไปซื้อข้าวทาน แต่ที่นี่วุ่นวายอย่างมาก เจ้าห้ามเอาออกมาให้ผู้อื่นเห็นเด็ดขาด อีกอย่างต่อไปหางานอื่นทำซะ อย่าทำเรื่องแบบนั้นอีก”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ได้เอาเงินยัดใส่ในมือของโสเภณี
บัดนี้โสเภณีร้องไห้น้ำตานองหน้า เดิมทีนางคิดไว้แล้วว่าหากลูกชายตายไป นางก็จะตายตามไปด้วย แต่ไม่คิดเลยว่าสวรรค์มาโปรด ทำให้นางได้พบเจอกับคนดีเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยชีวิตลูกชายของนางเท่านั้น แถมยังช่วยชีวิตของนางด้วย
นางเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีสิ่งใดและไม่มีกำลังจะทดแทนใดๆ จึงทำได้เพียงคุกเข่าแล้วกราบกรานฉินเหยียนอย่างซาบซึ้งใจ
“ผู้มีพระคุณ ท่านคือพระเจ้ามาเกิด การได้พบเจอกับท่านเป็นบุญที่พวกข้าสองแม่ลูกได้กระทำมา ข้าจะจดจำสิ่งที่ท่านพูดเอาไว้ ข้าขอกราบกราน ขอบพระคุณท่านมากจริงๆ!”
ฉินเหยียนรีบไปพยุงโสเภณี “รีบลุกขึ้นเถิด การช่วยรักษานั้นคือหน้าที่ของหมออย่างพวกข้า รีบไปดูแลลูกของเจ้าเถิด ฟ้าเริ่มมืดแล้ว พวกข้าจะไปแล้วล่ะ”
โสเภณีซาบซึ้งในพระคุณอย่างมาก นางได้เดินไปส่งฉินเหยียนและเสี่ยวจิ่ว เมื่อทั้งสองออกจากบ้านแล้วก็เห็นว่าเฝิงตู่ยังรออยู่ที่หน้าประตู ฉินเหยียนถามด้วยสีหน้าประหลาดใจว่า “เหตุใดเจ้ายังอยู่ตรงนี้?”
เฝิงตู่กวาดตามองไปที่พื้น “เจ้าลองมองที่พื้นให้ดีสิ”
ฉินเหยียนจึงจะสังเกตเห็นว่ารอบๆหน้าประตูมีคนตายเกลื่อนไปหมด “เจ้าบ้าเอ๊ย ตายเยอะขนาดนี้เชียวรึ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...