เสี่ยวจิ่วไม่เข้าใจ มองเนื้อที่คีบอยู่แล้วถามอย่างสงสัยว่า “เนื้อรวม? เนื้อรวมคือเนื้ออะไรรึ?”
ฉินเหยียนได้ยินดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกศีรษะชาไปหมด เขาไม่คิดเลยว่าเมืองจิงที่ใหญ่ขนาดนี้จะขายเนื้อคนด้วย รู้ได้เลยว่ามันโกลาหลมากแค่ไหนแล้ว
เขามองไปรอบๆอย่างระมัดระวังแล้วพูดเสียงเบาว่า “หรือว่าจะเป็นร้านตลาดมืดรึ?”
เฝิงตู่ไม่ได้พูดตรงๆ เขามองทั้งสองคนที่ใสซื่อไร้เดียงสาแล้ว กลัวว่าหากพูดความจริงไปจะทำให้ทั้งคู่ตกใจ จึงได้พูดว่า
“ไม่ถึงขนาดเป็นตลาดมืด เกรงว่าถ้าไม่ใช่ทางร้านที่ถูกหลอก ก็เป็นทางร้านจะที่หลอกพวกเราแล้ว อย่างไรก็ไม่ใช่เนื้อที่ดีอะไรแน่นอน ทานบะหมี่จะดีกว่า”
จากนั้นทั้งสามก็ไม่แตะเนื้อซีอิ๊วอีกเลย เฝิงตู่คีบเส้นบะหมี่ขึ้นมาแล้วทานจนหมด จากนั้นก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า
“พวกเจ้าทานกันไปก่อน ข้าจะไปทำธุระหน่อย”
เมื่อสิ้นเสียงก็เดินไปยังหลังครัวของร้านอาหาร ไม่นานพวกพ่อครัวบริกรที่อยู่หลังครัวต่างก็ตกตะลึง และหนีออกจากร้านอาหารอย่างกระวนกระวายราวกับพบเจอกับปีศาจที่น่ากลัว
ฉินเหยียนเห็นเช่นนั้นก็คาดเดาได้แล้ว แต่เสี่ยวจิ่วยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้ทานหมี่ไปแล้วถามว่า
“พวกเขาวิ่งหนีกันทำไมรึ?”
ฉินเหยียนตบศีรษะของเสี่ยวจิ่วเบาๆแล้วพูดว่า “ทานหมี่ของเจ้าไป”
ไม่นานเฝิงตู่ก็เช็ดเลือดที่เปื้อนมือไปด้วยแล้วเดินออกจากหลังครัวออกมาด้วย เขานั่งลงบนเก้าอี้แล้วเอียงศีรษะมองเสี่ยวจิ่วแล้วถามขึ้นว่า “อิ่มรึยัง?”
เสี่ยวจิ่วซดซุปคำสุดท้ายแล้วเช็ดปากอย่างพอใจพร้อมพูดว่า “อิ่มแล้วล่ะ”
เฝิงตู่เงยหน้า “อิ่มแล้วก็ไปกันเถิด”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ลุกขึ้นดึงฉินเหยียนและเสี่ยวจิ่วเดินออกไปด้านนอก
ฉินเหยียนรีบพูดว่า “ไม่จ่ายเงินรึ?”
เฝิงตู่พูดอย่างขอไปทีว่า “จ่ายอะไรล่ะ ข้าจ่ายเรียบร้อยแล้ว ไปเถิด”
เมื่อทั้งสามออกมาแล้วเฝิงตู่ก็พูดอย่างไม่ละอายใจว่า “ดูสิวันนี้ข้าช่วยเจ้าเยอะเลย เจ้าจะไม่ให้เงินทดแทนข้าหน่อยรึ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างไม่แยแสว่า “เงินน่ะให้เจ้าได้ แต่ว่าเจ้าได้เงินไปแล้วคงไม่เอาไปพนันอีกใช่รึไม่?”
เฝิงตู่พูดอย่างจริงจังว่า “เจ้ารู้รึไม่ว่าข้ามีนามว่าอะไร ข้ามีนามว่าเฝิงตู่ เฝิงตู่ที่มาจากชนะทุกการพนันไงล่ะ! คนอาณาจักรฉินพูดเอาไว้ไม่ใช่รึว่าฟ้าประทานความสามารถให้ข้ามาต้องมีประโยชน์ ข้าเกิดมาเพื่อกวาดล้างสนามพนันไปทั่วไงล่ะ!”
ฉินเหยียนมองเขาอย่างจนปัญญา “ฟ้าประทานความสามารถให้ข้ามาต้องมีประโยชน์ ประโยคนี้มีความหมายว่าอย่างไร?”
เฝิงตู่ยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้ชายต้องมีงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ ข้าไม่ชอบการเที่ยวซ่อง ก็แค่ชอบเล่นของนอกกายเหล่านี้ นอกจากนี้ เดิมพันเล็กๆก็ทำให้มีความสุขได้ หากพนันใหญ่เกินไปจึงจะส่งผลเสีย ข้าก็แค่ไปพนันเล็กๆน้อยๆยามว่างให้ผ่อนคลาย ดีกว่าพวกที่ไปทำเรื่องร้ายแรงกว่าตั้งเยอะ”
ฉินเหยียนหมดคำจะพูดต่อทฤษฎีแบบนี้ อย่างไรเขาก็ไม่ขาดแคลนเรื่องเงิน จึงได้หยิบถุงเงินที่เหน็บเอวโยนให้เขา
“มีเท่านี้”
เฝิงตู่รับถุงเงินมาแล้วจับชั่งน้ำหนัก อย่างไรก็มีหลายตำลึงแน่นอน จึงได้พูดยิ้มแย้มว่า
“ขอบใจมาก! ถ้าข้าชนะแล้วจะเอามาคืนเจ้าแน่ๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...