องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 612

ฉินเหยียนรีบเดินไปต้อนรับแล้วแสร้งทำเป็นถามอย่างห่วงใยว่า

“ในที่สุดพวกเจ้าก็กลับมา เป็นอย่างไรบ้าง เหล่าชาวเมืองคนอื่นๆมีความเห็นอย่างไรกันบ้าง?”

กลุ่มขอทานเดินมาหาฉินเหยียน ต่างก็พูดอย่างดีใจว่า

“ทุกๆเมืองได้รับข่าวกันหมดแล้ว ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่าจะร่วมมือกันปล้นชิงตระกูลขุนนางก็เห็นด้วยกันทันทีเลย!”

“แถมยังมีคนไปเตรียมตัวเลยทันที แต่ว่าถูกข้าห้ามเอาไว้ก่อน โดยนัดกันเอาไว้ว่าจะลงมือช่วงฟ้ามืดยามจื่อ ไปปล้นชิงพวกมันแบบที่ตั้งตัวไม่ทันเลย!”

บัดนี้ฉินเหยียนเองก็มีสีหน้าที่ดีใจ “ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา เมื่อถึงยามจื่อแล้วเราจะเคลื่อนไหวทันที!”

“ตกลง!”

......

ยามราตรียามจื่อ

ฉินเหยียนและเหล่าขอทานต่างก็ใช้ผ้าเก่าๆมาปิดบังใบหน้า และถือก้อนหินท่อนไม้เอาไว้ พวกเขาเดินลับๆล่อๆมาถึงประตูจวนของเหล่าตระกูลขุนนาง

ขอทานคนหนึ่งไปเอาหูฟังที่ประตูเพื่อฟังการเคลื่อนไหว ในเวลานี้เป็นเวลาที่กำลังนอนหลับสนิท มีเสียงกรนดัง เด็กรับใช้ที่คอยเฝ้าบ้านหลับกันหมดแล้ว ขอทานคนนั้นจึงหันกลับไปหาทุกคนแล้วทำท่าทางเพื่อแจ้งว่า “ลงมือได้!”

เหล่าขอทานพากันวิ่งไปแล้วทลายประตูอย่างร่วมใจกัน พวกเขาเข้าไปด้านในแล้วตะโกนอย่างกำเริบว่า

“ปล้นอาหารเลย!”

เหล่าเด็กรับใช้ที่แอบอู้งานตกใจตื่นทันที ยังไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นเหล่าขอทานก็ได้พุ่งเข้าไปในห้องแล้วปล้นชิงทันที

“มีชาวเมืองลี้ภัยมาปล้นชิง จัดการพวกมัน!”

เมื่อดึงสติกลับมาได้ ผู้ดูแลและเหล่าเด็กรับใช้ก็รีบถือไม้แล้ววิ่งไปต่อสู้กับชาวเมืองลี้ภัยทันที ฉินเหยียนเองก็แฝงตัวอยู่ท้ายๆกลุ่มขอทาน วิ่งไปวิ่งมาเพื่อแสร้งทำ เขาหันหน้ากลับไปอย่างไม่ตั้งใจและสบตาเข้ากับคนที่อยู่ด้านหลัง แม้ว่าคนๆนั้นจะปิดหน้าเหมือนกัน แต่ฉินเหยียนก็รู้ทันที นั่นคือเฝิงตู่!

ฉินเหยียนเบิกตากว้างแล้วถามอย่างตะลึงว่า “ไหนเจ้าว่าไม่มาไง?”

ตอนที่เฝิงตู่เข้ามาเขายังกังวลอยู่ว่าจะมีใครจำเขาได้รึไม่ แต่ยังไม่ทันเคลื่อนไหวก็ถูกเจ้าหมอคนนี้จับได้เสียแล้ว เขาทำตาล่อกแล่กแล้วพูดว่า

“เจ้าจะสนใจว่าข้าจะมาไม่มาทำไมกัน! หยุดพูดมากได้แล้ว รีบไปปล้นแล้วพรุ่งนี้ดื่มกินกันต่อ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์