เมื่อออกมาจากจวนขุนนางแล้วเฝิงตู่ก็วางแผนอยู่ตลอด ว่าได้เงินมามากมายขนาดนี้แล้วจะไปเล่นพนันให้สาแก่ใจ
ในขณะที่คิดอยู่ก็ได้ยินฉินเหยียนพูดว่า “เราไปที่ชุมชนแออัดแล้วเอาเงินพวกนี้ไปแบ่งให้แต่ละครัวเรือนกันเถิด ถ้าชาวเมืองมีเงินแล้วจะได้เอาไปซื้อยา กินข้าว อย่างไรก็อยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง”
เฝิงตู่มองเอย่างเหลือเชื่อ “เดี๋ยวนะ นี่เจ้าจริงจังรึที่ว่าปล้นจากคนรวยมามอบให้คนจนน่ะ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างชอบธรรมว่า “คิดว่าหลอกรึไง?”
เฝิงตู่มองพิจารณาฉินเหยียนราวกับมองคนโง่
“นี่เจ้าจิตใจดีเกินไปหรือเปล่า ข้าไม่เคยเจอใครที่ใจดีเท่าเจ้ามาก่อน เดิมทีข้าคิดว่าจะเอาเงินไปเล่นพนันเสียหน่อย ตอนนี้ทำเอาข้าไม่กล้าปฏิเสธเจ้าเลย เช่นนี้ข้าก็เหนื่อยฟรีทั้งคืนสิ!”
ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจังว่า “ตกลงไว้ว่าปล้นจากคนรวยมามอบให้คนจน เงินที่ชิงมาได้ก็ต้องเอามาช่วยเหลือชาวเมือง ไม่เช่นนั้นพวกเราจะต่างอะไรกับพวกโจร?”
เฝิงตู่พูดว่า “ถูกๆ เจ้าพูดถูกทั้งหมด ข้าละรำคาญคนดีอย่างเจ้าเสียจริง ตนเองไม่มีข้าวกินอิ่มท้องแล้วยังไปห่วงว่าคนอื่นจะเป็นหรือตายอีก นี่เจ้าไม่เคยได้ยินรึว่าคนดีอายุสั้น คนชั่วอายุยืนพันปีน่ะ?”
ฉินเหยียนแย้งกลับอย่างจริงจังว่า “เพราะความแก่ตัวจึงไม่แยแสว่าชาวเมืองจะเป็นหรือตายก็มีชีวิตไปอย่างสิ้นเปล่า หมอรักษาโรคช่วยเหลือผู้คน นี่ไม่ใช่จรรยาบรรณ์ของหมอเพียงอย่างเดียว แต่เป็นทุกคนที่พึงกระทำ”
เฝิงตู่มองฉินเหยียนอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ที่จริงแล้วเขากลับนับถือฉินเหยียนมาก ไม่คิดเลยว่าแค่หมอคนหนึ่งจะมีชีวิตที่โปร่งใสมากขนาดนี้ เห็นความยุติธรรมสำคัญยิ่งกว่าชีวิต ต่อให้ไม่มีข้าวกินก็ยังนึกถึงพวกชาวเมืองที่ยากลำบากเสมอ
ความเมตตากรุณาและความชอบธรรมทำให้เขาเชิดชูฉินเหยียนอยู่บ้าง แต่กลับแสดงท่าทีจนปัญญาแล้วพูดว่า
“เอาละ ข้าละยอมเจ้าเลย ไปเถอะ อย่างไรก็ปล้นมาแล้ว งั้นก็ทำตัวเป็นคนดีให้ถึงที่สุด ไปชุมชนแออัดกัน!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็เดินไปทางชุมชนแออัดทันที
ฉินเหยียนยิ้มแย้ม เขาคิดเอาไว้แล้วว่าเฝิงตู่เป็นคนปากแข็งแต่ใจอ่อน จึงรีบเดิมตามเขาไป
ภายใต้แสงจันทร์ ทั้งสองเดินเคียงข้างกันเดินไปมาในตรอกซอกซอยของชุมชนแออัด แจกจ่ายทองคำและเงินทั้งหมดที่มีให้แก่เหล่าชาวเมือง โดยการโยนเข้าไปในรั้วบ้านของแต่ละคนอย่างเท่าๆกัน เงินพวกนี้ราวกับตกลงมาสวรรค์ ราวกับความหวังสุดท้ายที่เข้ามาช่วยเหลือชาวเมืองที่ยากลำบากโดยเฉพาะ
เมื่อมาถึงหน้าบ้านของโสเภณีแล้ว ฉินเหยียนยังจงใจโยนเงินเพิ่มให้หลายตำลึง หวังว่าแม่ลูกคู่นี้จะมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง
เมื่อทั้งสองทำเสร็จแล้วฟ้าก็ค่อยๆเริ่มสางแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เฝิงตู่ทำเช่นนี้ เขารู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก ทั้งสองเดินเที่ยวไปบนถนนจนมาถึงหน้าหอหม่านฮวา พบว่าด้านในมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงดนตรีอันไพเราะดังออกมา และมีเสียงของหัวเราะเบาๆของเสียงสาวดังออกมาด้วย
เฝิงตู่หยุดฝีเท้าลงแล้วเงยหน้ามองหอหม่านฮวา เขาเอียงศีรษะแล้วพึมพำว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...