องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 614

จ้าวจีเอ๋อร์นั่งอยู่หลังฉากบังลม นางเห็นอย่างคลุมเครือว่าพวกขุนนางชั่วร้ายถูกทุบตีจนหน้าบวมกันหมด ก็รู้สึกมีความสุขมาก นางสงบอารมณ์ที่ดีใจแล้วกระแอมพูดว่า

“มีต้นเหตุก็ต้องมีปลายเหตุ คิดว่าเหล่าชาวเมืองคงจะรู้ว่าเหล่าขุนนางในพระราชสำนักยอมให้พวกเขาหิวตาย ก็ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากอาณาจักรฉินจึงเกิดวู่วาม และกระทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ขึ้น”

เมื่อเหล่าขุนนางเห็นว่าจ้าวจีเอ๋อร์เข้าข้างพวกชาวเมืองชั้นต่ำก็ยิ่งเดือดดาลยิ่งขึ้น ต่างก็พูดอย่างเดือดดาลว่า

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ชาวเมืองจะเป็นหรือตายคือเรื่องเล็ก ศักดิ์ศรีของอาจักรจ้าวต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่พ่ะย่ะค่ะ! หากเสียสละชีวิตของชาวเมืองไม่เท่าไร แล้วสามารถทำให้อาณาจักรฉินยอมถอยไปได้ก็สมควรจะทำอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ เมื่อเผชิญกับช่วงวิกฤตขาดแคลนอาหาร การที่ชาวเมืองหิวตายนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ไม่จำเป็นต้องรับการช่วยเหลือจากอาณาจักรฉินเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ! หากยอมรับการช่วยเหลือจากด้านนอกเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เช่นนั้นอาณาจักรอื่นก็จะดูถูกอาณาจักรจ้าวพ่ะย่ะค่ะ!”

จ้าวจีเอ๋อร์ยิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ เจ้าพวกตระกูลขุนนางโลภมากกลับบอกว่าเรื่องชาวเมืองจะเป็นหรือตายเป็นเรื่องเล็ก ในสายตาของพวกเขาผลประโยชน์ของตนเองจึงจะเป็นเรื่องใหญ่ เกินจะเยียวยาจริงๆ

นางพูดอย่างเย็นชาว่า “เช่นนี้ พวกเจ้ายังปฏิเสธความช่วยเหลือจากอาณาจักรฉินเหมือนเคยงั้นรึ?”

เหล่าตระกูลขุนนางรีบปฏิเสธโดยไม่คิดเลยว่า “ต่อให้ต้องตายก็ไม่มีทางยอมรับพ่ะย่ะค่ะ!”

จ้าวจีเอ๋อร์ยิ้มประชด ในเมื่อพวกตระกูลขุนนางยังดูถูกพลังของชาวเมือง ตอนนี้ยังคงปากแข็งไม่ยอมรับการช่วยเหลือ กลางคืนพวกเขาคงต้องประสบอีกเป็นแน่

นางไม่อยากจะพูดมากกับพวกขุนนางคร่ำครึต่อไป จึงลึกขึ้นแล้วเตือนว่า

“ทุกท่านกลับไปไตร่ตรองให้ดีอีกครั้งเถิด แยกย้ายได้!”

เมื่อสิ้นเสียงนางก็เดินออกจากตำหนักโดยไม่หันกลับมามองอีก

แม้ว่าเหล่าขุนนางจะไม่พอใจแต่ก็ต้องแสร้งทำให้ดี ต่างก็คุกเข่าลงคำนับอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ฝ่าบาทเชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงอายุยืนยาวหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”

เมื่อเหล่าขุนนางเดินจากไปแล้วก็มารวมตัวกันแล้วเดินไปถกเถียงกันอีกด้าน

“ขุนนางทรงอำนาจอย่างพวกเราบาดเจ็บกันขนาดนี้แล้ว จ้าวจีเอ๋อร์กลับไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง แถมยังเข้าข้างพวกชาวเมืองชั้นต่ำอีก ช่างโง่เขลาและไร้ความสามารถจริงๆ!”

ขุนนางอีกคนพูดอย่างเย็นชาว่า “ยิ่งไร้ความสามารถก็ยิ่งดี พวกชาวเมืองชั้นต่ำก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว เมื่อทูตอาณาจักรฉินไปแล้ว จะใช้เหตุผลนี้ดึงนางลงจากบัลลังก์!”

......

อีกด้านหนึ่ง

เมื่อฟ้าสางแล้วร้านค้าต่างๆก็เปิดกิจการกันแล้ว

เฝิงตู่เดินเข้าไปในร้านเครื่องเขียนร้านหนึ่ง เมื่อบริกรเห็นเฝิงตู่แต่งตัวไม่เป็นระเบียบ ไม่เหมือนคนที่จะมีปัญญาซื้อจึงไม่เงยหน้ามองเลยแม้แต่น้อย เขาทำการคิดคำนวณต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์