องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 615

ฉินเหยียนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเขาก็รีบเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าของเฝิงตู่แล้วเขาก็ดีใจมาก และรีบออกคำสั่งว่า

“เสี่ยวจิ่ว เจ้ามาพันแผลให้เขาก่อน”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็เดินไปหาเฝิงตู่ทันที แล้วพูดอย่างรีบร้อนว่า “รีบเอาเงินออกมาเร็วเข้า!”

เฝิงตู่พูดด้วยสีหน้าสับสน “เงิน? เงินอะไร? ข้าจะไปมีเงินได้อย่างไร!”

ฉินเหยียนขมวดคิ้ว “ขนาดนี้แล้วอย่าแอบไว้สิ ช่วยชีวิตคนก่อน!”

เขาร้อนใจจนยื่นมือเข้าไปค้นตัวของเฝิงตู่เอง และไม่ทันระวังทำหมายยมราชตกลงมาด้วย เฝิงตู่รีบผลักฉินเหยียนออกแล้วเก็บหมายยมราชและถือเอาไว้อย่างกระวนกระวาย เขาพูดว่า “ข้าไม่มีเงินแล้ว เจ้าจะทำอะไรกันแน่?”

ฉินเหยียนไม่ได้สังเกตว่าเฝิงตู่กอดอะไรเอาไว้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจว่า

“เจ้าไม่เห็นรึว่ามีคนบาดเจ็บเยอะขนาดนี้ ข้าจะเอาเงินไปซื้อสมุนไพรมารักษาพวกเขา!”

เฝิงตู่คิดว่าหมอนี่เป็นบ้าอะไรเสียอีก ที่แท้ก็อยากจะช่วยพวกขอทานนี่เอง แต่เขาเอาเงินไปซื้อเครื่องเขียนหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีเลย

“เงินแค่นั้นไม่พอข้าใช้หนึ่งวันเลย หมดไปนานแล้วล่ะ”

ฉินเหยียนคิดแล้วก็ว่าใช่ เจ้าผีพนันคนนี้จะต้องเอาไว้เล่นพนันจนแพ้หมดแล้วแน่ๆ เขาพูดอย่างจนปัญญาว่า

“หวังพึ่งเจ้าคงไม่ได้แล้ว แต่ก็ต้องหาวิธีช่วยคนก่อน เอาเถอะ ไปหาขี้เถ้าแล้วฆ่าเชื้อแผลก่อนดีกว่า แล้วค่อยคิดหาวิธีอื่น”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็หันหน้ากลับไปจะไปช่วยคน

เฝิงตู่เรียกเขาเอาไว้ “ต้องช่วยพวกเขาให้ได้เลยรึ อีกอย่างพวกเขาก็รนหาที่เองไม่ใช่รึไง การปล้นชิงที่ไหนไม่ได้รับบาดแผลกันบ้างเล่า เจ้าจะไปสนใจพวกเขาทำไมกัน”

ฉินเหยียนหันหน้ามามองเฝิงตู่ “ใต้หล้านี้เกิดวิกฤตก็ต้องมีคนตอบโต้ การตอบโต้ก็ต้องมีการหลั่งเลือด และต้องมีการเสียสละ แม้ข้าจะไม่สามารถช่วยใต้หล้านี้ไว้ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ข้าใช้วิชาที่มีช่วยคนได้”

เฝิงตู่ไม่คิดว่าฉินเหยียนจะพูดเช่นนี้ เขาพูดอย่างประหลาดใจว่า “เจ้าคิดจะช่วยใต้หล้านี้เชียวรึ ช่างมีความทะเยอทะยานเสียจริง!”

ฉินเหยียนยืดอกแล้วพูดว่า “ข้าขอพูดแบบไม่คุยโวเลยละกัน ว่าข้าเกิดมาเพื่อช่วยทุกชีวิต!”

เฝิงตู่หันหน้าตรงแล้วมองเขาตรงๆ “เจ้าพูดจาบ้าคลั่งเหลือเกินนะ ข้าชอบ ถูกใจข้านัก!”

ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจังว่า “ข้าไม่เสวนากับเจ้าแล้ว ต้องรีบช่วยคนก่อน ถ้าไม่รีบก็มาช่วยกันเถิด”

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเฝิงตู่มักไม่สามารถปฏิเสธคำขอของฉินเหยียนได้เลย เขาส่ายหน้าอย่างจนปัญญาแล้วพันแขนเสื้อขึ้น แล้วช่วยการรักษาด้วย

......

ในยามราตรีคืนนั้น

ฉินเหยียนและเฝิงตู่ตามเหล่าขอทานที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ บุกเข้าไปปล้นชิงจวนเหล่าขุนนางอีกครั้ง โดยไปเพื่อปล้นมาให้คนจน ก่อนหน้านี้ในลานของจวนตระกูลขุนนางยังพอมีเด็กรับใช้คอยเฝ้าระวัง แต่หลังจากเมื่อคืน ก็ไม่มีแม้แต่คนคอยเฝ้าระวังเลย

เหล่าขอทานและชาวเมืองลี้ภัยยิ่งปล้นและทำลายข้าวของอย่างกำเริบมากขึ้น ผู้นำตระกูลออกมาห้าม สุดท้ายก็ถูกขอทานและชาวเมืองลี้ภัยทุบตีอย่างรุนแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์