ฉินเหยียนกวาดตามองหญิงทั้งสามแล้วพูดว่า “เหตุใดพวกเจ้าจึงยังไม่ไป?”
หยางจิ่นซิ่วพูดว่า “ข้าไม่ใช่คนอาณาจักรฉินเสียหน่อย คำสั่งของเจ้าไม่เป็นผลกับข้า ข้าจะอยู่ที่นี่เจ้าจะทำอะไรได้?”
จ้าวจีเอ๋อร์เองก็พูดอย่างหนักแน่นว่า “ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า อย่างไรหากเจ้าตายไปข้าก็ไม่ยอมอยู่คนเดียวต่อไป ต่อให้ต้องตายก็จะตายข้างกายของเจ้า”
เซี่ยชิงถือธนูเอาไว้แล้ว นางพูดอย่างเห็นความตายดั่งคืนสู่มาตุภูมิว่า “อ๋องเหยียนเป็นผู้ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ ต่อให้ฆ่าข้าไปข้าก็ยินดี” ว่าแล้วก็จ้องมองเฝิงตู่อย่างไม่ละสายตา “หากมีคนอยากจะฆ่าพระองค์ เช่นนั้นก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”
เฝิงตู่ยิ้มประชดแล้วถือดาบเดินเข้าไป “ไม่คิดเลยจริงๆว่าเจ้าจะมีวาสนากับหญิงสาวด้วย ข้าไม่มีเลยสักคน แต่เจ้ากลับมีผู้หญิงถึงสามคนที่ยอมตายเพื่อเจ้า”
ฉินเหยียนยิ้มเจื่อนๆแล้วพูดว่า “ที่จริงก็ไม่ใช่แค่สามคน”
เมื่อสิ้นเสียงแล้วสิบสองปิ่นหิรัญย์ก็พุ่งตัวออกมาเรียงราย ต่างก็ถืออาวุธแล้วยืนบังฉินเหยียนเอาไว้ และพูดอย่างเด็ดขาดว่า “พวกข้าเองก็ยินดีที่จะไปตายแทนท่านอ๋อง หากคิดจะฆ่าอ๋องเหยียนก็ฆ่าพวกข้าไปก่อน!”
เฝิงตู่มองหญิงสาวเต็มตำหนักที่อุทิศตนให้กับเจ้าหมอมากขนาดนี้ จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา
“ไร้สาระ ไร้สาระจริงๆ ไร้สาระสิ้นดี!” เขาหัวเราะราวกับเสียสติ แล้วชี้ฉินเหยียนพร้อมพูดว่า “เจ้าหมอ หลอกข้าได้ตายใจเชียวนะ!”
ฉินเหยียนดูออกว่าบัดนี้แววตาของเฝิงตู่ไม่มีจิตสังหารแล้ว จึงได้ออกคำสั่งว่า “พวกเจ้าวางอาวุธลง”
จากนั้นก็หันมองเฝิงตู่ “เรามาคุยกันดีๆดีกว่านะสหาย”
เฝิงตู่รู้สึกสับสนอย่างมาก เขาพูดว่า “ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับคนอาณาจักรฉิน”
เมื่อพูดดังนั้น ตอนที่จะหันหลังจากไปเขาก็หันหน้ากลับไปมองฉินเหยียนแล้วพูดว่า “ที่เดิม”
เมื่อสิ้นเสียงก็ก้าวหายไปจากตำหนักในพริบตา
เมื่อหยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงวิ่งออกไปเฝิงตู่ก็หายไปกับท้องฟ้ายามราตรีแล้ว ฉินเหยียนไม่คิดเลยว่าวิชาตัวเบาของเฝิงตู่จะสุดยอดเช่นนี้ มีฝีมือขนาดนี้ยังถูกจับได้ตอนขโมยไก่อีกนะ
เขาพูดอย่างประหลาดใจว่า “นี่คือเฝิงตู่ที่ข้ารู้จักรึเนี่ย?”
หยางจิ่นซิ่วกลับเข้ามาในตำหนักแล้วอธิบายว่า “นี่คือวิชาลับอันแข็งแกร่งของตระกูลกงซุน เคลื่อนที่ในพริบตา วิชานี้สามารถเดินทางเป็นพันลี้ได้ในวันเดียว”
ฉินเหยียนยิ้มเจื่อนๆแล้วส่ายหน้า ที่แท้ตั้งแต่ทั้งสองได้พบกันก็ซ่อนตัวตนมาตลอด
ทันใดนั้นเองเมื่อต้าหย่งเห็นว่านักฆ่าไปแล้วอ๋องเหยียนยังปลอดภัยดี เขาก็วางใจขึ้นมา ทหารพยัคฆ์เสือดาวก็มีคนกระซิบกระซากกันอย่างสงสัยว่า
“กงซุนอู๋หมิงไม่เคยพลาดท่ามาก่อนเลย เหตุใดจึงปล่อยอ๋องเหยียนไปล่ะ?”
“ฟังจากน้ำเสียงที่พวกเขาพูดคุยกันแล้ว เหมือนจะรู้จักกันมาก่อนนะ”
“อ๋องเหยียนเป็นนักปราชญ์เชียวนะ จะไปรู้จักนักฆ่าได้อย่างไรกัน?”
ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยกันอยู่ฉินเหยียนก็ได้พูดกับจ้าวจีเอ๋อร์ว่า “เอาเหล้าที่ดีที่สุดในพระราชวังนี้มาให้ข้าสักไห”
“เพคะ” จ้าวจีเอ๋อร์ไม่ได้ถามอะไรมากความ นางออกคำสั่งให้ไปเอาเหล้าที่ล้ำค่ามาหนึ่งไห
ฉินเหยียนค่อยๆเดินลงจากบัลลังก์ “ถอดชุดเกราะให้ข้า”
ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง และถอดชุดเกราะออกให้เขาอย่างเบามือ เมื่อถอดชุดเกราะแล้วฉินเหยียนก็มองไปที่เสี่ยวจิ่ว
“เจ้าถือเหล้าแล้วตามข้าไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...