และในขณะที่เฉิงเซินพาหน่วยลาดตระเวนมาถึงนอกหอแล้ว ก็พบว่าไส้ศึกทั้งสองฝ่ายได้เริ่มต่อสู้กันแล้ว
เรียกได้ว่าสองเสือต่อสู้กัน เกิดความสูญเสียมหาศาล ทั้งสองฝ่ายต่างก็ล้มตายไปมากกว่าครึ่ง เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังเหลือการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
เฉิงเซินสงสัยว่าเหตุใดไส้ศึกทั้งสองฝ่ายจึงต่อสู้กัน ยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก เรื่องหนักหนาเช่นนี้เขาไม่อาจตัดสินใจเองได้ เขาออกคำสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปคอยเฝ้าระวัง เพื่อดูสถานการณ์อยู่เงียบๆ ส่วนเขาก็รีบไปทำการรายงานให้แผนกซวนจิง
แต่ว่าเมื่อเฉิงเซินรีบร้อนไปถึงนอกจวนเจ้าเมืองแล้ว กลับพบว่าทั้งด้านนอกและด้านในจวนมีการเฝ้าระวังอย่างแน่นหนามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าออกได้ตามใจ
ต่อให้เขาจะรายงานอย่างไร กองทัพพยัคฆ์เสือดาวก็ไม่ยอมให้เขาเข้าไป เฉิงเซินร้อนใจอย่างมาก เขาครุ่นคิดและคิดว่าจะปีนกำแพงเข้าไป เรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เขาเองก็ไม่มีเวลามาสนใจมากมาย จึงต้องทำเช่นนี้
และแล้วเขาจึงได้เดินย่องอ้อมๆไปยังมุมกำแพงลับๆ และใช้วิชาที่กงซุนอู๋หมิงสอนมา ชี่จมตันเถียน ใช้ชี่เท้าวิ่งแล้วใช้เตะอย่างแรง จากนั้นใช้มือปีนกำแพงไปได้อย่างราบรื่น
เขาเพิ่งจะเข้ามาด้านใน ยังไม่ทันยืนตรงก็มีลูกธนูยิงมาเสียบอยู่บนกำแพง เฉิงเซินตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น ขนลุกไปทั่วร่างกาย เขามองไปยังลูกธนูอย่างเหลือเชื่อ โชคดีที่มันโดนแค่เสื้อผ้า หากลูกธนูองศาเบี้ยวไปอีกนิด เขาคงต้องตายอยู่ที่นี่แน่นอน!
ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งสติได้ก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นว่า “หากยังกล้าเข้ามาอีก ข้าจะยิงธนูดับชีวิตเจ้าทันที!”
เฉิงเซินไม่กล้าขยับ เขาพยายามลืมตามอง และพบว่าที่ไกลๆมีร่างเลือนรางร่างหนึ่งที่คล้ายว่าจะสวมหน้ากากเอาไว้ กำลังตั้งท่ายิงธนูเล็งมาทางเขา เขาขนลุกไปทั่วร่างทันที และพูดด้วยเสียงสั่นคลอนว่า
“อย่า อย่าฆ่าข้า คนกันเองขอรับ!” ว่าแล้วก็กำลังจะค้นตราแสดงตัวตนออกมา
ยังไม่ทันที่เขาจะหาพบก็ถูกทหารพยัคฆ์เสือดาวที่มาเบื้องหน้าของเขาคุมตัวเอาไว้ คนคนนั้นไม่พูดมากความ และหามตัวเขาเข้ามาในลานจวนเจ้าเมืองราวกับลูกเจี๊ยบ
บัดนี้เฉิงเซินตใจกลัวจนตัวสั่น เขาหันไปเห็นว่ามีคนนั่งอยู่บนตำแหน่งเจ้าของจวนอย่างไม่ได้ตั้งใจ คนอื่นๆก็ต่างประสานมือคารวะต่อคนผู้นั้น รวมถึงหญิงสวมหน้ากากที่เล็งยิงธนูใส่เขาเมื่อครู่ และยังมีหญิงที่สวมหน้ากากถือทวนสีเงินเอาไว้ด้วย
เฉิงเซินเข้าใจในทันที ทั้งสองคนนี้คือรากษสวิภีษณะและรากษสราวัณ! องครักษ์ส่วนพระองค์ของอ๋องเหยียนทั้งสองกลับมาด้วยเช่นนี้ หรือว่าคนที่นั่งอยู่จะเป็นอ๋องเหยียน!
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ ก็ได้ยินรากษสราวัณพูดขึ้นว่า “อ๋องเหยียนเพคะ เมื่อครู่นี้จับนักฆ่าที่ปีนกำแพงเข้ามาได้เพคะ”
เฉิงเซินได้ยินแล้วคืออ๋องเหยียนจริงๆ! เขารู้สึกดีใจและตะลึงอย่างมาก รีบอธิบายว่า
“กระหม่อมไม่ใช่นักฆ่าพ่ะย่ะค่ะ! คนกันเองพ่ะย่ะค่ะ! ท่านอ๋องโปรดฟังกระหม่อมอธิบายด้วยเถิด!”
เขาพยายามอธิบาย กลัวว่าจะต้องตายทั้งๆแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...
หายไปนานเลยนะครับ..ถ้ามาลงให้ได้อ่านต่อจะขอบพระคุณมากครับกำลังสนุก...
ซื้ออ่านยังไงได้ครับ...
ขอบคุณที่ลงเพิ่มครับ เรื่องนี้สนุกครับ...
ขอบคุณที่มาต่อให้ได้อ่านนะครับขอบุคุณมากๆสนุกดี...
จาก 438 เริ่มขยับแล้วววว 😁😁😁...